สูง ยาว ขาว ตึง


สูง ยาว ขาว ตึง

 

สูง.....วัยใกล้เหยียบร้อย        แล้วเอย
ยาว...แต่ตาชวนเชย             แว่นไว้
ขาว...โพลนเกศเขนย            นั้นหงอก
ตึง....โสตยากยินได้              แก่ทั้งตัวตน

โดยน้องหนุ่ม



น้องหนุ่ม มาชวนผู้เขียน แต่งโคลงกระทู้ น้องหนุ่มขึ้น กระทู้นำบทไว้ว่า สูงยาวขาวตึง ข้าพเจ้าแต่ง ประชันโคลงกระทู้กับน้องหนุ่มไว้ความว่า  

 

สูง.....ศักดิ์สถิตฟ้า               ฟากสวรรค์
ยาว...จะต่อไม้ อัน               ต่ำต้อย
คราว..สอยซึ่งดวงจันทร์       แจ่มโลก
ตรึง....ผูกด้วยรักร้อย           ล่ามไว้ทะนุถนอม

สูง....เพราะใส่ส้นตึก            ใต้ตีน
ยาว..ซึ่งขนตาปีน                ปรกคิ้ว
ขาว..หมวยลูกครึ่งจีน           แจ่มพักตร์
ตึ่ง....เต่งถันเหมือนหิ้ว          มะพร้าวสองผล

สูง....ดอยสุเทพได้               ไปมา
ยาว...มรรคาไคลคลา           คลาดน้อง
ขาว...ดอกพุดบูชา               พระธาตุ
ตึง.....ตะตึงกลองก้อง           กึกก้องกาหล

 




แต่ช่วงนั้นเป็นช่วงประกาศผลรางวัลกวีซีไรต์ ผู้เขียนรู้สึกกระฟัดกระเฟียดผิดหวังในคำตัดสินของกรรมการ ทั้งที่ไม่ได้มีผลงานส่งเข้าประกวดกับเขา แต่ได้เขียนโคลง กระทู้ สูงยาวขาวตึง วิพากษ์วิจารณ์ รางวัล กวีซีไรต์ ปี 2550 ไว้ความว่า



สูง....กว่า สิขเรศ นั้น            คือติณ
ยาว..กว่า ต้น บังดิน             กิ่งไม้
ขาว..กว่า ถูกติฉิน               แผกเผ่า กาเอย
ตึง..โสต ป่วยการณ์ให้         สดับซึ้งธรรมสาร

สูง.......ต่ำกำหนดชั้น           ฉันทลักษณ์
ยาว.....แต่ผุทำหลัก             บ่ได้
ขาว.....ขุ่นฝุ่นผงคลัก           คว้าดื่ม..ได้ฤา
ตึง.......จัดหย่อนจัดใช้         ดีดเพี้ยนพิณเสียง


สูง.......เรียก สัค ใช่เอิ้น        นรกา
ยาว.....เรียก ยาว สั้น พา      เรียกสั้น
ขาว.....เรียก ว่าขาว ครา       ดำเรียก..ดำเอย
ตึง.......และหย่อน ไปนั้น       เรียกเพลี้ยเพี้ยนเสียง






สัค, สัคคะ น. สวรรค์. (ป.; ส. สฺวรฺค).

เพลี้ย น. ชื่อแมลงขนาดเล็กหลายชนิดในหลายวงศ์ มีปากชนิดเจาะ
ดูดติดอยู่ที่หัวส่วนที่ใกล้กับอก หรือชนิดเขี่ยดูดติดอยู่ที่ปลายหัว
ทําลายพืชต่าง ๆ ส่วนใหญ่ไม่มีปีก พวกที่มีปีกจะมีเนื้อปีกเหมือน
กันตลอด โดยมากบางและอ่อน หรือเป็นแผ่นยาวและแคบมาก
มีขนรายล้อม พวกที่อยู่ในวงศ์ Cicadellidae มีรูปร่างคล้ายจักจั่น
เรียก เพลี้ยจักจั่น, พวกที่อยู่ในวงศ์ Aphididae มีลําตัวบอบบาง
และอ่อน เรียก เพลี้ยอ่อน, พวกที่อยู่ในวงศ์ Thripidae ทําลายพืช
ทําให้เกิดอาการเหมือนไฟไหม้ เรียก เพลี้ยไฟ, พวกที่อยู่ในวงศ์
Coccidae ที่สามารถผลิตสารสีขาวคล้ายแป้งออกมาหุ้มลําตัว
เรียก เพลี้ยแป้งและที่ผลิตสารสีนํ้าตาลออกมาหุ้มลําตัวคล้าย
ฝาหอย เรียก เพลี้ยหอย.



เพลี้ย ๒ น. ชื่อเครื่องดีดฟังเสียงชนิดหนึ่ง ทําด้วยไม้ไผ่คล้ายจ้องหน่อง
แต่จ้องหน่องใช้กระตุก ส่วนเพลี้ยใช้ดีด, เพี้ย ก็ว่า.


คำว่าเพลี้ย พบใน โคลงกำสรวล ความว่า



๑๐ สายาเข้าคว้าเหล้น          หลายกล
เดินดีดเพลี้ยเพลงพาล          เรียกชู้
สายาอยู่ในถนน                   ถามข่าว เรียมฤา
ยังที่สาวน้อยรู้                      เรียกขวัญ ฯ

 

ถอดความได้ว่า 

  • นางผู้มีโฉมงามเที่ยวคว้าแขนผู้อื่น (ผู้หญิงด้วยกัน) เพื่อถามข่าวสารใช้หลายกลวิธีในการถาม

  • เดินดีด พิณเพลี้ย /พิณเปี๊ยะ ร้องเพลงวัยรุ่น (เพลงพาล) ที่นิยมในสมัยนั้นคร่ำครวญถึงชู้รัก

  • นางผู้มีโฉมงามเดินอยู่ในถนน ถามข่าวคราวของกู

  • ถามยังสาวน้อยผู้หนึ่งที่รู้ข่าวของกู นางได้เรียกน้องขวัญผู้นั้นเข้ามาถาม




    สายา (กลอน) น. ผู้หญิง, นางผู้มีโฉมงาม, เช่น สายาอยู่ในถนน
    ถามข่าว รยมฤๅ. (กำสรวล).

 

 ๑๑ สายาบัวบ่าวเกลี้ย      จักมา
สาวสั่งอย่ามาวัน               สู่น้อง
สายากรรแสงคลา              สองสู่ กันนา
สาวบ่าวอยู่ในห้อง             เรียกคืนหาคืน ฯ

 

ถอดความได้ว่า 

  • นางผู้มีโฉม จึ่งเกลี้ยกล่อม บ่าวไพร่ที่ชื่อ อีบัว ให้มาส่งข่าวถึงกู

  • นางผู้มีโฉมสั่งข่าวสาวใช้ส่งข่าวว่า "พี่อย่าได้มาตอนกลางวัน (ให้พี่มาตอนกลางคืน) เพื่อไปมาหาสู่ (มาสมสู่) กับน้อง"

  • นางผู้มีโฉม ทรงกรรแสง เมื่อครากูกับนาง (เราทั้งสอง) ไปมาหาสู่ (สมสู่) กัน

  • แต่บ่าวสาวใช้ ซึ่งอยู่ในห้องอีกห้องหนึ่ง เรียกให้นายสาวของนางรีบกลับคืนไป


วกกลับมาพูดเรื่องโคลงวิพากษ์วิจารณ์รางวัลกวีซีไรต์ ประจำปี 2550 ที่ผ่านมา


สูง....กว่า สิขเรศ นั้น              คือติณ
ยาว..กว่า ต้น บังดิน              กิ่งไม้
ขาว..กว่า ถูกติฉิน                 แผกเผ่า กาเอย
ตึง..โสต ป่วยการณ์ให้           สดับซึ้งธรรมสาร


  • กรรมการรางวัลซีไรต์ ปี 2550 สูงส่งเหมือนสิขรเขา (สิขร+เข้า เอศ ลิลิต=สิขเรศ) ส่วนงานที่ไม่ได้ผ่านรอบแรก เปรียบเสมือน ติณชาติ (หย่อมหญ้า) เขาสูงแค่ไหนก็ยังต่ำกว่ากอหญ้า

  • กรรมการรางวัลซีไรต์ ปี 2550 เหมือนต้นไม้ ส่วนงานที่ไม่ได้ผ่านรอบแรก เหมือนกิ่งไม้ กิ่งไม้ย่อมยาวและสูงกว่าต้นไม้มีประโยชน์ใช้บังดินได้

  • กรรมการรางวัลซีไรต์ ปี 2550 เหมือนฝูงกา ส่วนงานที่ไม่ได้ผ่านรอบแรกเหมือน หมู่พญาหงส์

  • กรรมการรางวัลซีไรต์ ปี 2550 คือกลุ่มคนแก่ที่หูตึง พาไปวัดก็ยากที่จะได้ ยินรสพระธรรม (เพราะฉะนั้นควรเข้าวัดตั้งแต่ตอน หนุ่มๆ สาวๆ ) หูตึง เป็นสัญลักษณ์ ที่สื่อว่า หูไม่สามารถได้ยินบทกวีอันไพเราะได้ และหมายถึง หู ตึงจนไม่ได้ยินเสียง ด่า หรือเสียงทักท้วงจากคนรอบข้าง


สูง.......ต่ำกำหนดชั้น              ฉันทลักษณ์
ยาว.....แต่ผุทำหลัก                 บ่ได้
ขาว.....ขุ่นฝุ่นผงคลัก              คว้าดื่ม..ลงฤา
ตึง.......จัดหย่อนจัดใช้            ดีดเพี้ยนพิณเสียง

 

  • ความสูงแห่งกวีนิพนธ์ ก็เพราะฉันทลักษณ์ ยิ่งใช้ฉันทลักษณ์ที่ยากแต่ ง่ายกินใจ สัมผัสใจ (ไม่ใช่สัมผัสตามใจ) ย่อมนับเป็นสิ่งที่น่านับถือ มิใช่หรือ

  • กรรมการรางวัลซีไรต์ ปี 2550 เหมือนไม้ใกล้ฝั่งที่ผุแล้ว ไม่สามารถจะนำไปใช้ประโยชน์อะไรได้ แม้กระทั่งเอาไปใช้ทำไม้หลักปักขี้เลน

  • งานกวีนิพนธ์ที่เข้ารอบ จึงเหมือน น้ำที่ขุ่นคลักปนไปด้วยผง ประชาชน จะคว้าเอามา เสพย์ (อุปโภค บริโภค) ได้ถนัดใจกระนั้นฤา

  • สายพิณที่ตั้งหย่อนเกินไป (ไร้ฉันทลักษณ์) หรือสายพิณที่ตั้งตึงเกิน (เคร่งฉันทลักษณ์ จนกลอนพาไป) ก็ทำให้กวีนิพนธ์ ขาดความไพเราะ (กรรมการรางวัลซีไรต์ ปี 2550 ตั้งสายพิณ หย่อนเกินไป)


สูง.......เรียก สัค ใช่เอิ้น               นรกา
ยาว.....เรียก ยาว สั้น พา             เรียกสั้น
ขาว.....เรียก ว่าขาว ครา             ดำเรียก..ดำเอย
ตึง.......และหย่อน ไปนั้น             เรียกเพลี้ยเพี้ยนเสียง



 

  • กรรมการรางวัลซีไรต์ ปี 2550 เห็นสวรรค์ เป็นนรก กล่าวคือเห็นงานกวีนิพนธ์ที่ใช้ฉันทลักษณ์เยี่ยงโบราณราชกวี ว่าเลว เห็นกลอนเปล่า ว่า ดี สำหรับข้าพเจ้าและคนอื่นๆ เห็น "สรวงสวรรค์ ชั้นกวี รุจีรัตน์ ผ่องประภัสร์ พลอยหาว พราวเวหา พริ้งไพเราะ เสนาะกรรณ วัณณนา สมสมญา แห่งสวรรค์ ชั้นกวี "สามกรุง" โดยกรมหมื่นพิทยาลงกรณ์ (น.ม.ส.)

  • เห็นยาวก็รู้ว่ายาว เห็นสั้นก็รู้ว่าสั้น

  • เห็นขาวก็รู้ว่าขาวเห็นดำก็รู้ว่าดำแต่กรรมการรางวัลซีไรต์ ปี 2550 กลับเห็นตรงกันข้ามกับความเป็นจริง

  • ฉะนั้น รางวัลกวีซีไรต์ปีนี้ เมื่อได้กรรมการผู้เลือกพิณเพลี้ยที่ตั้งสายหย่อน จนเสียงเพี้ยนเอามาใช้ขับกล่อมลำนำ ก็ย่อมจะไพเราะและสมกับชื่อรางวัลวรรณกรรมสร้างสรรค์ยอดเยี่ยมแห่งอาเซียน

 

ในปี 2550 "กวีหมี่เป็ด" (มนตรี ศรียงค์) คว้าซีไรต์ผลงาน "โลกในดวงตาข้าพเจ้า"  ผู้เขียน จึง ตอกตะปูปิด ฝาโลง ด้วยโคลง เป็ดได้เพชร (ไก่ได้พลอย)  ไว้ความว่า

 

 

เป็นเพชรน้ำหนึ่งต้อง         เจียระไน
เป็นสุวรรณวิไล                 ผ่านร้อน
เป็นดาบกำราบไพ-           รีพินาศ
เป็นเป็ดเปลือยล่อนจ้อน     ท่านให้ขึ้นเหลา

เพชรแท้แต่บ่รู้                  คุณเพชร
ข้าวเปลือกรู้ เอร็ด             อร่อยล้ำ
ก้อนกรวด ที่ กึ๋นเป็ด         กินปูด
เพชรตกตมจมน้ำ            ยากสร้างเหลี่ยมแสง




ถอดสัญลักษณ์  (Symbols) ได้ดังนี้

 


มื่อสิบปีก่อน หมี่เป็ด แต่งกลอนใช้ฉันทลักษณ์ 100 ละ 80 แต่ไม่ประสบความสำเร็จจึงเปลี่ยน ทางกลอน ใหม่ ทางสายใหม่นี้ ก็คือลีลากลอนในปัจจุบัน อย่างที่ท่านจะอ่านได้ใน งานที่ได้รางวัลปีนี้




คนใส่เสื้อผ้า= การแต่งกลอนแบบมีฉันทลักษณ์
คนแก้ผ้า= การละทิ้งฉันทลักษณ์แห่งกาพย์กลอน

โคลงบาทที่ว่า

เป็นเป็ดเปลือยล่อนจ้อน ท่านให้ขึ้นเหลา หมายความว่า หมี่เป็ด แก้ผ้า อุปมาเหมือนเป็ดพะโล้ที่ถูกถอนขนแล้วจึงได้ขึ้นเหลา (ได้รางวัลซีไรต์นั่นเอง)



เพชร คือ ฉันทลักษณ์
ก้อนกรวด ก็คือ ไม่เคร่งฉันทลักษณ์
เป็ด=กวียุคนี้
กึ๋น=กรรมการ
กิน=ชนะการตัดสิน
ข้าวเปลือก=งานซีไรต์ปีนี้

  • เราจะไปว่าเป็ดก็ไม่ถูกเพราะเพชรไม่ใช่อาหารเป็ด ฉะนั้นเป็ดได้เพชร/ไก่ได้พลอย จึงไม่รู้คุณค่าของเพชรและพลอย

  • สัตว์ปีก ต้องพึ่งกรวดเพื่อใช้ย่อยข้าวเปลือก กรวดถูกเก็บไว้ที่กึ๋น
    เป็ด(กวียุคนี้)จะกิน (ชนะ)รางวัลซีไรต์ (ข้าวเปลือก) ได้ ต้องพึ่งกรวด (ไม่เคร่งฉันทลักษณ์) และ กึ๋น (กรรมการ) จึงจะกินข้าวเปลือกได้

  • กึ๋นและกรวด จึงมีคุณูปการต่อเป็ด ลองคิดดูสิถ้าเป็ดหิวข้าวเปลือกแต่หยิ่งไม่ยอมกินกรวด เป็ดก็ตายแน่ๆ เพราะเป็ดจะไม่มีอะไรไว้ให้กึ๋นย่อยข้าวเปลือก
    แล้วจะไม่ให้เป็ดกินกรวดได้อย่างไร

  • แต่ถ้าเทวดา เสกกระเพาะ (กรรมการชุดใหม่) ให้เป็ด เป็ดก็ไม่ต้องกิน ข้าวเปลือก และไม่ต้องพึ่งกึ๋นแต่คนก็จะมาด่าเทวดาว่าเสือ+ก เทวดาจึง ต้อง ปล่อยสัตว์โลกให้เป็นไปตามกรรมต่อไป

  • เมื่อเป็ดไม่กินเพชร เพชรก็ตกน้ำไป ไม่ได้เห็นเหลี่ยมแสงของเพชรอีกเลย


 การออกมาเคลื่อนไหวของบรรดากวี มีเสียงตอบรับอยู่บ้างจากบรรดาผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการตัดสินรางวัลกวีซีไรต์ ได้ยินข่าวแว่วๆ มาว่าจะมีการเพิ่มกรรมการรอบตัดสินเพื่อถ่วงดุล อำนาจ ซึ่งก็น่าจะเกิดความยุติธรรมในการตัดสิน

ทว่าการคัดสรรรางวัลซีไรต์นั้น จะมีกรรมการสองชุดด้วยกัน คือกรรมรอบคัดสรร ซึ่งเป็นคนละชุดกับ กรรมการรอบตัดสิน ปัญหาจึงอยู่ที่ว่า ถ้ากรรมการรอบคัดสรร คัดเลือกหนังสือ ที่ผ่านเกณฑ์รอบแรก สักประมาณ 7-10   จากนั้น ก็ส่งมอบให้กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิรอบตัดสิน ตัดสินชี้ขาดว่าเล่มไหนจะได้รางวัล ก็เท่ากับเป็นการมัดมือชก กรรมการรอบตัดสิน

แนวทางการแก้ไขที่ดีที่สุดที่ผู้เขียนอยากเสนอก็คือให้ยุบรวมกรรมการลงเหลือ เพียงชุดเดียว ช่วยกันคัดกรองบทกวี จะดีกว่ามิใช่หรือ

หลังจากที่ผู้เขียนแต่งโคลง สูงยาวขาวตึง นี้ออกเผยแพร่ มีเสียงตอบรับที่ดีมาก ยกตัวอย่างเช่นลุง ราม ลิขิต ให้ทรรศนะไว้ดังนี้



ผมพอจะเข้าใจแล้ว..เรื่องนี้ต้องพูดให้มีหลักการ ไม่ใช่ลักษณะแบบนี้ ซึ่งปัญญามันไม่เกิด เกิดแต่อารมณ์อย่างเดียว และผมก็มีอารมณ์เหมือนกัน

เขาได้ดีมีศักดิ์อย่าดักต่อย
เป็นไอ้ถ่อยถองดะเขาจะหยัน
ชาตินักเลงใจเสือไม่เถือกัน
พูดสั้นสั้นใจอย่าหมาแอบด่าคน

๏ พรหมวิหารหาบไว้มันไม่หนัก
สี่ข้อจักค้ำจุนสมดุลผล
เขาเติบโต,มุทิตาให้ซ่าตน
เที่ยวไฟลนซ่านตัวนั่นมัวเมา

๏ ไม่ต้องหลุดจากกิเลส,แค่เศษเสี้ยว
ข่มใจเคี้ยวลงคอจะยอเขลา
มือถือปากสากทุบศีล, ตีนถึงเครา
อย่าให้เศร้าหมองนักชีวิตนี้

๏ เขาได้ดีมีศักดิ์รักเขาเถิด
ที่ควรเปิดอย่าปิดจะผิดผี
ที่ควรปิดอย่าเปิดประเสริฐมี
มันจะตีตราตนไปจนตาย ๚ะ๛

จาก: ราม ลิขิต


อ่านแล้วก็ไม่ได้เคืองลุง ราม ลิขิต หรอกครับ เพราะลุงราม ลิขิต เอาเข้าจริงก็ร่วมลงนามคัดค้านฯ กะเขาเหมือนกัน อิๆ นี่ล่ะครับวีรกรรม ของผู้เขียน...ในยุคหนึ่งสมัยหนึ่ง

 

 


โปรดดูแถลงการณ์ตรวจสอบคณะกรรมการรางวัลซีไรต์ รอบคัดเลือก พ.ศ.2550 ที่
 http://www.thaipoet.net/index.php?lay=boardshow&ac=webboard_show&Category=thaipoetnet&thispage=15&No=282970

และ

http://www.thaipoet.net/index.php?lay=boardshow&ac=webboard_show&Category=thaipoetnet&thispage=15&No=282983

 

 


คำสำคัญ (Tags): #ซีไรต์
หมายเลขบันทึก: 176264เขียนเมื่อ 10 เมษายน 2008 14:20 น. ()แก้ไขเมื่อ 17 มิถุนายน 2012 13:37 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (11)
  • เข้ามาอมยิ้มแก้มตุ่ย ๆ ก่อน
  • ให้กำลังใจค่ะ 555...
  • คืนนี้ค่อยมาอ่านและค่อยบรรจงพิจารณา คนไม่มีรากมีความรู้เรื่องร้อยกรองน้อย ต้องค่อยอ่านค่อยคิด ...ไปธุระก่อนค่ะ

สวัสดีค่ะ

เพลงเพราะมากๆ เหมือนพี่คนไม่มีรากเลยค่ะ ไม่มีความรู้เรื่องกลอนเลย แต่เพลินดีนะคะ มาให้กำลังใจค่ะ

เดี๋ยวนะ กะลังหาทาแต่งโคลง

  • เตี้ย...
  • สั้น...
  • ดำ...
  • หย่อน...

อยู่ รอซักครู่นะ หุ..หุ..

เตี้ย..ต่ำศักดิ์จักขู้       ดวงยี่หวา
สั้น..นักหนอชีวา        มนุษย์นี้
ดำ..รง สัจสัญญา       ที่เอ่ย  ไว้แฮ
หย่อน..รักสักคาบผี้     ไฮ่ผี้วางวาย


ขอใช้เอกโทษ โทโทษ ครับกระผม

สวัสดีค่ะคุณกวิน

  • มารายงานตัวค่ะ อ่านตั้งนานแน่ะ ภาษาไทยแท้ ๆ (หรือเปล่า) ทำไม...ยากจัง ถ้าไม่อธิบายสงสัยจะไม่เข้าใจนะนี่ ยิ่งตอกย้ำความฉลาดน้อยของตัวเองเข้าไปอีก...อิ อิ ..
  • ศัพท์บางคำไม่รู้จักเลย ถ้าไม่ไปเปิดพจนานุกรมอ่านดู เช่น เพลี้ย(เครื่องดนตรีชนิดหนึ่ง) สายา(ผู้หญิงงาม)
  • คนไม่มีรากคิดว่าเป็นการสื่อสารชั้นสูงนะคะ คนธรรมดา...แหะ แหะ (อย่างคนไม่มีรากแล้วกัน) อาจไม่เข้าใจ เพราะต้องรู้และเข้าใจศัพท์มากมาย บวกเข้าไปกับการตึความ ถอดความสัญลักษณ์ต่าง ๆ นี่ถ้าถูกตำหนิ (ด่า) กันด้วยสัญลักษณ์ขนาดนี้ส่งสัยไม่รู้เรื่องแน่เลย อาจนั่งทำตาปริบ ๆ หรือยิ้ม ๆ ให้...นึกว่าชม...อิ อิ
  • แต่ที่ชอบนะคะที่ว่า

       "สูง....กว่า สิขเรศ นั้น           คือติณ
       ยาว..กว่า ต้น บังดิน              กิ่งไม้
       ขาว..กว่า ถูกติฉิน                 แผกเผ่า กาเอย
       ตึง..โสต ป่วยการณ์ให้           สดับซึ้งธรรมสาร"

  • ถ้าอ่านโดยไม่รู้บริบท ก็อาจตีความเป็นเรื่องของโลกธรรมที่ผู้สูงศักดิ์มีอำนาจดุจภูเขาสูงก็ยังต้องมีหย่อมหญ้าอยู่ด้านบนเสมอ การถูกติฉินก็ย่อมเป็นธรรมดาโลกเมื่อเห็นต่างจากผู้อื่น ดังนั้นไม่จำเป็นจะต้องสนใจกับคำพูดเหล่านั้น ฟังแต่สิ่งที่ดีงาม ธรรมะดีกว่า 555...โอ้โห...ตั้งใจแปลซะขนาดนี้ น่าจะได้สิบเต็มนะ...คุณครุกวิน...
  • สำหรับกวีหมี่เป็ดนั้น คนไม่มีรากไม่ได้ศึกษาประวัติเขามากนัก เพียงแต่ชอบอ่านงานที่ได้รางวัลซีไร้ท์ เลยได้ยินชื่อเขาไม่มีความรู้ดีพอจะตัดสินได้ว่าเขาสมควรได้รางวัลหรือไม่ ในกลุ่มผู้มีความรู้ด้านฉันทลักษณ์ดีอย่างคุณกวินอาจรู้ว่าเป็นอย่างไร...
  • แต่การตัดสิน ..การให้รางวัล ...การแข่งขันก็เป็นเช่นนี้เอง ความยุติธรรมจะมีได้ต้องเกิดจากใจที่เที่ยงธรรมของผู้ตัดสินมิใช่หรือ อย่าตำหนิเป็ดเลย...เขาก็คงต้องการกรวด/หิน/พลอย เข้าไปเพื่อการย่อยนั่นแหละ...คิดได้อย่างนี้จะได้ไม่กระฟัดกระเฟียดผิดหวัง..มากจนเกินไป ทุกข์ใจเปล่า ๆ นะคะ
  • เข้ามาฟังเพลงทานตะวันก่อนนอน
  • ดีใจจัง ทีได้คะแนนตั้ง 11 เต็ม 10 สงสัยเป็นคะแนนที่ให้ยืมภาพต้นก้ามปูล่ะมั้ง เอิ๊ก เอิ๊ก หัวเราะก่อนนอนจะได้หลับสนิทค่ะ.

คุณกวินคะ

  • มีของดีมาฝากค่ะ จะได้ไม่เป็นพวก Conservative มากจนพวก Post modern แขวะเอา
  • ของอ.ยูมิ ค่ะ

สวัสดีครับน้องจิ ขอบคุณครับ สุขสันต์วันสงกรานต์ อย่าจน อย่าเจ็บ...5555

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท