ธรรมดาของโลก คนเราเกิดมาย่อมมีทุกข์ ทุกข์กับสุขเป็นของคู่กันมันเป็นเช่นนั้นเอง แม้จะมีเงินมากมายเท่าไรเวลาตายก็เอาไปไม่ได้ ทีแต่สามชั่วกับความดีของเราเท่านั้นที่ติดตัวเราไป ดังเรื่องที่จะเสนอดังนี้...................
ธรรมดาของโลก
ครั้งหนึ่งนานมาแล้ว อำมาตย์จองพระเจ้าพาราณสีคนหนึ่งได้คิดกบฏต่อพระองค์ ไปทูลให้พระเจ้าโกศลมาแย่งราชสมบัติ แล้วจับพระเจ้าพาราณสีขังไว้
พระเจ้าพาราณสีทรงสำรวมจิต ทำญาณสมาบัติให้เกิดขึ้น แล้วหลุดจากเครื่องพันธนาการเหาะขึ้นสู่อากาศ
พระเจ้าโกศลเมื่อทอดพระเนตรเห็นดังนั้น ก็ตกพระทัยจนถึงกับพระเสโทไหลโทรมพระวรกาย ละล่ำละลักถามว่า
“พระองค์ได้ผละจากราชรถทรงและกุณฑลแก้วมณีกับทั้งพระโอรสและพระอัครมเหสีแล้ว ไม่มีทรัพย์สมบัติเหลืออยู่สักชิ้นเดียว ทำไมเล่าพระองค์จึงไม่โศกเศร้าเดือดร้อนเลย”
พระเจ้าพาราณสีทรงสดับ ก็รับสั่งตอบว่า
“ดูก่อนพระองค์ผู้เป็นศัตรู โภคทรัพย์ย่อมจากสัตว์ทั้งหลายไปก่อนเวลาตายก็มี สัตว์ละสมบัติไปก็มีส่วนพระองค์ผู้ใฝ่พระทัยอยู่ในกามารมณ์ โชคทรัพย์ไม่ใช่ของใครๆ ทั้งสิ้น ดังนั้นข้าพเจ้าจึงไม่เศร้าโศกเสียใจให้เสียเวลา”
พระเจ้าโกศลได้สดับพระดำรัสของพระเจ้าพาราณสี เช่นนั้นก็สลดพระทัยจึงทูลถวายสมบัติคืน แล้วเสด็จนิวัติกลับสู่ประเทศของพระองค์ทันที
เป็นอันว่า พระเจ้าพาราณสีได้กลับครองราชย์สมบัติอีกต่อไปจนสิ้นอายุขัย
คติจากเรื่องนี้…****ทรัพย์สินเงินทองเป็นของนอกกาย เราเกิดมามิได้เอามาด้วยและเวลาตายก็เอาไปด้วยไม่ได้ บางครั้งทรัพย์สินเงินทองนั้นจากไปก่อนก็มี แต่บางครั้งเราเป็นฝ่ายจากมันไปก็มีทั้งนี้เป็นธรรมดาของโลกแท้ๆ ผู้มีปัญญาย่อมไม่ปล่อยจิตใจให้เศร้าโศกเสียดาย ให้เสียเวลาเมื่อมันหมดไปก็ตั้งหน้าหาใหม่ต่อไปดีกว่า..... มันเป็นเช่นนั้นเองจริงไหมครับท่านผู้อ่าน วันนี้ขอจบแค่นี้ก่อนนะครับ
ไม่มีความเห็น