วันนี้ร่วมกิจกรรมการจัดการความรู้ในบทบาทคุณกิจในหัวข้อเรื่อง สร้างความตระหนักในการประหยัดพลังงานไฟฟ้า ซึ่งเดิมไม่มีคำว่าความตระหนักและไฟฟ้าแต่เติมคำว่าไฟฟ้าเพื่อให้หัวข้อมีความจำเพาะมากขึ้น ส่วนคำว่าตระหนักมาเติมหลังจากกระบวนการเสร็จสิ้นแล้วเพราะต้องการเน้นให้เข้าถึงวิธีการว่าทำอย่างไร
บทบาทคุณกิจได้แบ่งปันความรู้ในวิธีการประหยัดไฟฟ้า โดยการใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าเท่าที่จำเป็นและอุปกรณ์ที่กินไฟมากก็จะใช้ให้น้อยที่สุด เช่น แอร์ เตารีด เป็นต้น คุณกิจส่วนใหญ่จะออกความคิดเห็นในเรื่องเทคนิคต่าง ๆ ที่ใช้ในการประหยัดไฟ เช่น ทำอย่างไรให้เสื้อผ้ารีดง่ายที่สุด เสื้อผ้ายับน้อยที่สุด เป็นต้น เมื่อเสร็จสิ้นกิจกรรมจะได้เทคนิคในการประหยัดไฟมากมายแต่ยังไม่สามารถนำไปใช้ในวงกว้างได้ จึงมีความคิดเห็นเพิ่มเติมให้ใช้คำว่าตระหนักซึ่งทำให้นึกถึงว่าทำอย่างไรจึงจะประหยัดไฟฟ้า
คุณกิจจึงต้องออกความเห็นเพิ่มเติมว่าที่ตระหนักในการประหยัดไฟฟ้าเพราะรู้ว่ากำลังขาดแคลนพลังงานและพลังงานมีราคาแพง ไม่สามารถหาซื้อได้ง่าย ๆ ถ้าไม่ประหยัดในวันนี้ วันหน้าก็จะไม่มีใช้ ประกอบกับการรณรงค์ของรัฐบาลให้ช่วยกันประหยัดพลังงาน มีการเชิญชวนให้ดับไฟตามเมืองใหญ่ ๆ ทั่วโลก และที่สำคัญคือเศรษฐกิจกำลังย่ำแย่ไม่เฉพาะแต่ในประเทศไทยแต่เป็นกันทั่วโลก ค่าใช้จ่ายด้านพลังงานค่อนข้างสูงกว่าด้านอื่น ๆ จึงต้องประหยัดไว้ก่อน
สิ่งที่ได้รับในบทบาทคุณกิจในวันนี้คือยังต้องพยายามดึง Tacit knowledge ออกมาใช้ให้เกิดประโยชน์มากที่สุด สามารถนำไปใช้ให้เกิดผลในวงกว้างตอบปัญหาว่าทำอย่างไรจึงจะทำให้คนตระหนักในการประหยัดไฟและประหยัดไฟได้จริง สำหรับความคิดเห็นในตอนแรกที่คุณกิจต่างก็สนใจในเทคนิคการประหยัดไฟมากเกินไป อาจเป็นเพราะหัวข้อที่ตีกรอบให้แคบจึงทำให้สนใจในรายละเอียดมากเกินไปจนลืมมองในมุมมองที่กว้างขึ้นดังได้กล่าวข้างต้น
ตามมาเรียนรู้ครับ