เห็นจิต..ที่ติดความดี


สวัสดีครับ....

เป็นเรื่องเล่าของการปฏิบัติในชีวิตประจำวัน...

เมื่อ2 วัน มีเรื่องราวที่ต้องทำให้ได้คิด  และพิจารณาระหว่างเรื่องส่วนตัว  กับเรื่องของความเสียสละ...

เมื่อลูกไม่สบาย....

ต้องพาไปหาหมอตา...เพื่อผ่าตัดเล็กน้อย...  จึงต้องลางาน วันครึ่ง...

 

แต่ในช่วงที่ลางาน

เห็นจิตที่ไม่ค่อยสงบ  ไม่ค่อยนิ่งเท่าใด  มีความกังวลครุ่นคิดกับงาน...ที่โรงพยาบาล

     วันแรกพอรู้สึกและควบคุม  เข้าใจได้ 

     เพราะดูเหมือนผู้คนคงจะไม่ลำบาก และทุกข์จากการที่เราไม่อยู่สักคน...

 

  แต่วันที่สอง  คือวันนี้  เป็นวันอังคาร  ต้องเหลือแพทย์เพียงสองคน...

 รู้สึกถึงความทุกข์ในใจ

 ทุกข์ที่เข้าใจ  ที่รู้สึกว่าจะเกิดความไม่สะดวกต่อเพื่อนร่วมงาน  ผู้รับบริการที่ต้องรอนาน...

  พยามกำหนดทุกข์ที่เกิดขึ้น  พยามรู้...แต่ก็ทานไม่ไหว  จึงแสดงออกทางกายวาจา  กับคนข้างกาย...

 

   สีหน้าที่บึ้งๆเล็กน้อย....

  บวกคำพูดที่บอกว่า..ไม่น่าจะห้ามไม่ให้พ่อกลับก่อนนะ   วันนี้คงไม่มีใครตรวจ OPD...

  และอีกหลายอย่างที่คนสองคนพูดกัน ตลอดการเดินทางที่เร่งรีบ จากตัวจังหวัด...มาที่บ้าน คือปาย..

  เป็นการพูดคุย..เพื่อให้เกิดการเรียนรู้  รับรู้และเข้าใจความคิดของแต่ละฝ่าย...

  เนื้อหาอยู่ในมุมของ  ส่วนตัว และเสียสละ เป็นหลัก...

 

และก็ได้ข้อสรุปของการสนทนาว่า ...

         ทุกอย่างเป็นประสบการณ์  เป็นการเรียนรู้  เป็นวาระ  เป็นสิ่งที่เกิดขึ้น เพื่อให้เราผ่านไป

  ก็เข้าใจกันดีครับ  การพูดคุยทำให้เข้าใจกัน  เข้าใจความต้องการ ความคาดหวังของอีกฝ่าย และเราก็รับฟัง 

        และที่สำคัญการพูดคุยกันทำให้เข้าใจตนเองมากขึ้นครับ...

 

 เมื่อมาถึงรพ...ก็เที่ยงพอดี จึงมาทำงาน 13.00 น.

 จริงอย่างที่จินตนาการไว้...ผู้ป่วยยังมาก

 และก็ได้ทำในสิ่งที่กังวล  ด้วยความรู้สึกสบายใจ  ความทุกก็คลายเมื่อได้ตอบสนองความอยาก หรือเงื่อใขที่ก่อทุกข์....

 

 

    จึงได้เรื่องเล่าครับ..ว่า

     ติดดี  ก็เป็นทุกข์...เป็นทุกข์ที่ละเอียดขึ้นมาจาก  ความทุกข์ชั้นต้น...ที่ทำไม่ดีแล้วทุกข์

     จึงเป็นโจทย์ของการปฏิบัติต่อไปว่าจะวางใจให้เป็นกลางต่อความดีอย่างไร

      ไม่ให้เกิดการยึดติด  ไม่ให้ทุกข์  อย่างที่รู้สึก  อย่างที่เกิดวันนี้...

คำสำคัญ (Tags): #จิต#ติดดี#ทุกข์
หมายเลขบันทึก: 174600เขียนเมื่อ 1 เมษายน 2008 16:47 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 23:24 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (6)

- เดินสายกลางนะ

- เป็นห่วงนะ

สวัสดีค่ะน้องหมอ

พี่ว่าน้องหมอเห็นอะไรๆ ละเีอียดขึ้นเยอะแล้วนะคะ

บางครั้งเราคนเดียวก็ทำอะไรได้ไม่หมดทุกอย่าง อยากช่วยคนทุกคน แต่ทำไม่ได้หรอกค่ะ ^ ^ บทบาทของเรามีหลายอย่าง ไม่สามารถ fulfill ทุกอย่างได้ในเวลาเดียวกัน

ที่สำคัญคือขณะที่มีโอกาสทำนั้น ไม่ว่าจะในบทบาทใดก็ตาม ได้ทำเต็มที่ ด้วยจิตใจที่เห็นความเป็นจริงของสถานการณ์..

ดีจังเลยค่ะ ที่ทุกวันคือวันแห่งการเรียนรู้.. ^ ^

อย่ากังวลและรู้สึกผิดเลยคะ การดูแลบุตรยามที่เขาป่วยไข้และเลี้ยงดูให้เขาเติบใหญ่เป็นคนดีของสังคมเป็นหน้าที่คะ ขอเพียงคุณพ่อคุณแม่อย่าสาดความทุกข์ให้กันเลย กอดคอสามัคคีกันไว้คะ มีอะไรช่วยกันคิดช่วยกันทำคะ ทุกอย่างสำเร็จเสร็จด้วยใจ คู่ชีวิต ศรีภริยาหาไม่ได้ง่าย ๆ ตามท้องตลาด ต้องทะนุถนอมดูแล ทุกข์เรื่องลูกก็หนักหนาสาหัสแล้ว อย่าทำร้ายศรีภริยาเพิ่มเติมทางสีหน้าเลยคะ งานคืองาน ครอบครัวคือครอบครัว จัดสรรแบ่งเวลาในสัดส่วนที่เหมาะสม ทุกอย่างจะสมดุลเองคะ " ถ้าเราดูแลครอบครัวให้ดี มีความสุข เราก็สามารถดูแลคนไข้ให้ดีมีความสุขได้เช่นกัน " สุขเริ่มได้ที่ครอบครัวคะ ขอให้น้องสบายหายเร็ววันคะ

ขอบคุณ...ที่รู้...

แม้สิ่งที่รู้นั้น...ยังไม่เท่า

หากแต่เป็นการรู้ทัน หรือ ตาม...

ก็ย่อมเจริญแล้ว...ใน "มนุษย์"...

(^_____^)

ทีแรกพี่กะปุ๋ม ตั้งใจว่าจะส่งเมล์ไปให้ แต่เปลี่ยนใจมาเขียนที่นี่ดีกว่า... "อย่าลืมขอโทษ" และ "ขอบคุณ"... ครูของเราผู้อยู่เคียงข้างเรา...คอยเป็นแบบทดทอบให้เราได้ดูจิต ดูใจ...

"มนุษย์" ต่างมีคุณงามความดี

ตามดูไปเรื่อยๆ นะคะ..

ดูแล้วให้เงียบ...การเงียบ คือ การสำรวมกาย - วาจา... เมื่อใดที่มีการเปล่งวาจา ร่วมกับการกระทำออกมา...เมื่อนั้นล่ะ..เราไม่สามารถสำรวม...ได้...

ยังจำ "คำ" ที่พี่กะปุ๋มเตือน...ไว้..ได้ไหมคะ

ซึ่งเป็นคำเตือนที่พี่กะปุ๋มย้ำแล้วย้ำอีก...และบอกหมอแทบทุกครั้งที่ได้พูดคุยกันค่ะ...

(^_____^)

"บารมี คือกำลังในการสร้างความดี ------> ทุกข์ดับไปด้วยกำลังใจที่งดงาม "

นี่เป็นคำสอนเตือนสติ..จากพี่ชายของพี่กะปุ๋มค่ะ

ขอให้เจริญในธรรมนะคะ

พี่กะปุ๋ม

ท่านขอโทษแม่คนที่สามรึยังที่ทำหน้าบึ้งใส่เค้าน่ะ อิ อิ

แล้วก็อย่าลืมไปขอโทษคุณแม่ด้วยนะ...

เวลาก็เหมือนน้ำ...ย่อมไหลไปเรื่อย ๆ ใครตักได้ ตักทัน ก็ตักเอา...

เราจะหยุดสายน้ำและเวลา...เพื่อประโยชน์อันใด

งาน...ไม่ใช่ทั้งหมดของชีวิต...เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเท่านั้น

ครอบครัว...ก็เช่นกัน...

น่าจะลาพักผ่อนต่ออีกสักวันนะครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท