เห่อลูกเพราะลุ้นพัฒนาการค่ะ


   ..ว่ายายแม่คนเนี่ยทำไมขี้เห่อลูกจัง  ..มีอะไรนิดหน่อยก็มาโม้ไว้...ก็ลูกเราผอมน้ำหนักตกเกณฑ์นิหน่า ก็เลยอยากให้กำลังใจ ลดความกังวลกับครอบครัวที่มีลูกผอมๆแบบลูกเราว่า  ถ้ามีลูกผอมก็อย่าคิดว่าเขาจะทำอะไรไม่ได้ จะไม่ฉลาด จะไม่มีแรง และฯลฯ   คือสมัยนั่นกลัวมากกลัวลูกจะพัฒนาการช้า  เพราะมีอาหารไปเลี้ยงสมองไม่พอ  ก็เล่น 8ขวบหนัก 19 กิโลเองนะค่ะ

   วิธีการเลี้ยงลูกแบบแปลกๆของเราก็มีสารพัดอย่าง

  • เราชอบเล่นเกมให้ลูกคิด เช่น ลองคิดซิว่าหมากับเก้าอี้เหมือนกันอย่างไร   ...ติ๊กต็อกๆๆๆ
  • ตอบ..มี 4 ขาเหมือนกัน
  • ลองคิดซิว่าอะไรบ้างที่มีรูปร่างกลม....
  • ตอบ  ...พวงมาลัยรถยนต์  พัดลม  ไฟจราจร  ล้อรถ นาฬิกา ลูกตาดำ ฯลฯ
  • บางครั้งเราก็เล่นสมมุติให้แม่เป็นลูก พ่อเป็นลูก แล้วลูกเป็นแม่   ..วันนี้ลูกอยากฟังนิทานเรื่องผีเสื้อกับหมา
  • ลูกก็เล่าได้คะ เป็นเรื่องเป็นราวตั้งแต่ยังไม่เข้าโรงเรียน ขอเพียงแต่พ่อแม่ตั้งใจฟัง แล้วซักถามกระตุ้นว่าเราฟังอยู่นะ  ลูกก็สนุก
  • พอเข้าโรงเรียนบางครั้งจะเห็นว่าลูกเริ่มถูกสอนให้ชีวิตเป็นกรอบ ..ใบไม้สีเขียว ต้นไม้สีน้ำตาล มีแม่น้ำ ภูเขา
  • เราก็พาลูกดูว่าเห็นมั้ยต้นไม้บางต้นมันก็สีแดง ใบบางใบก็สีเหลือง สีน้ำตาล  มีได้ตั้งหลายแบบใช่ว่าต้องมีแต่สีเขียว
  • สอนหลายอย่างให้ลูกมีสมาธิ  เช่น เวลาเห็นลูกเล่นอะไรเพลินๆ จ้องดู สังเกตพินิจพิจารณาก็จะไม่เข้าไปเรียกขัดสมาธิเขา ปล่อยให้เขาดูไป แล้วค่อยถามว่าดูอะไรตอนที่เขาเลิกดูแล้ว
  • ลูกเราจะเป็นเด็กที่มาความอดทนสูงมาก ตั้งใจจะทำอะไรต้องทำให้ได้ และให้เสร็จ..ทั้งปั้นบัวลอย ระบายสีปูนปลาสเตอร์  จับแมวอาบน้ำ ..อันหลังเนี่ยไม่ได้สอนค่ะ
  • สำคัญทุกครั้งที่ลูกกลับมาจากโรงเรียนหรือกลับจากเล่นกับเพื่อนเราก็จะพูดคุยกันว่าเป็นอย่างไรบ้าง..ทั้งเรื่องดี และไม่ดี  เพราะเราเชื่อว่ากับเพื่อนลูกหรือตัวเราจะเล่าทุกอย่างเฮกัน  แต่กับพ่อแม่จะเล่าเฉพาะเรื่องที่แม่ไม่ดุ แม่ไม่เครียด ฉะนั้นพอโตขึ้นลูกก็จะปรึกษาเรื่องกลุ้มๆ เรื่องไม่ถูกใจพ่อแม่กับเพื่อน...
  • ลูกมีบทบาทต้องเสียสละให้แม่ เท่าเทียมกัน เช่น เมื่อหิวน้ำพร้อมกัน แม่ก็ต้องกินก่อน ลูกมาทีหลังก็กินทีหลังรอแม่ก่อน  เพราะพอเราโตขึ้นเห็นแต่ผู้ใหญ่ที่ชอบให้เด็กดูแล เทคแคร์ หามีผู้ใหญ่คนไหนเสียสละให้เด็ก..ไม่มี ...
  • การเรียนไม่ได้แข่งกับใคร แต่เป็นการแข่งกับตัวเอง  เพื่อนคนไหนเรียนไม่ดีวิชานี่ เขาอาจเก่งวิชาอื่น ก็ช่วยกันสอน ช่วยกันเรียน..เพราะบางที่เธอก็ชอบบ่นว่าเพื่อนที่เรียนช้า
  • เวลาเรียนต้องตั้งใจ ไม่ควรคุยกับเพื่อน แล้วเวลาครูเขาปล่อยให้เล่นค่อยเล่นเต็มที่

    ส่วนหนึ่งของวิธีเลี้ยงแบบแปลกๆ ที่เราโดนคนรอบข้างวิจารณ์อยู่ว่า เป็นแม่อะไร ปล่อยลูกจัง ตัวแค่นั่นให้ทำอะไรนักหนา แต่เดี๋ยวนี่ก็เริ่มมีหลายเสียงที่เห็นก็นึกเออ!! แฮะ ดีจัง  ลูกเราสบายมาก ..ปีนี้ได้ที่ 4 ค่ะ (ขอคุยนิดนึงเป็นที่ 4จากตัวเธอเองเพราะเธอไม่ยอมให้พ่อแม่ติวก่อนสอบ แถมด้วยไม่เห็นอ่านหนังสือก่อนสอบเล้ย   เรียนพิเศษก็ไม่เรียน อาศัยเรียนตอนปิดเทอมกับป้าที่กทม.อย่างเดียวค่ะ)

คำสำคัญ (Tags): #เลี้ยงลูก
หมายเลขบันทึก: 174445เขียนเมื่อ 31 มีนาคม 2008 19:26 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 23:23 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)
  • อิอิ ทั้งนี้ ทั้งนั้น นั่นก็คือ แม่ต้องมีใจให้กับลูก มีเวลาให้กับลูก
  • แล้ว Creative Thinking ก็เกิดขึ้นมาเองแหล่ะเน๊อะ
  • แต่ว่า คิดได้พลิกแพลง (นอกกรอบไปไกลโน้น น น ... แน่ะ) มาก มาก เลยนะคะ ... ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อละ
  • สรุปแล้วแม่ติ๊งต๊องค่ะ อิ อิ๊
  • แต่เลี้ยงลูกสนุกดีนะค่ะ...เป็นเพื่อนกัน
  • สวัสดีค่ะ
  • เป็นเรื่องดีค่ะ เสริมสร้างความคิด และความผูกพันระหว่างแม่ กะ ลูก

      "^_^"

- สวัสดีค่ะคุณ (บ้านของเรา )เราเพิ่งเคยเจอกันแน่เลย ยินดีจังที่แวะมาทักทายค่ะ

- ขอบคุณค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท