คนรักดั่งหนังสือ


มีคำถามหนึ่ง เกิดขึ้นในใจ ขณะคิดถึงความรัก และ มุมมองความรักต่อคนที่เรารัก หลายครั้งเลือกหยิบจับเรื่องราว เพื่อเปรียบเทียบอ้างอิง สัมผัสสัมพันธ์ด้วยความคิด และสิ่งรอบตัว วันนี้มีคำอธิบายในความชื่นชอบชื่นชมต่อหนังสือ เมื่อมองเห็นว่า คนรัก ช่างคล้ายคลึงหนังสือ ซึ่งเราต้องหยิบอ่าน สัมผัส และเดินตามในละถ้อยคำเรื่องราว ในแต่ละความหมายอันละเอียดอ่อน ที่แอบซ่อนอยู่ภายในตัวตน มีความหมายของความรักและคนรัก อยู่ในหนังสือเล่มนั้น ให้เราได้เปิดอ่าน หากเรายังคงมีความรัก

คนรักดั่งหนังสือ

อ้างอิง - ภาพ http://www.lomography.com/folkways

ผมรักหนังสือ

ผมจึงพยายามเปรียบเปรย

และเปรียบเทียบทุกสิ่งกับหนังสือ

ผิดบ้างถูกบ้างไปตามเรื่องตามราว ตามการเทียบเคียงของสิ่งที่ชีวิตมองเห็น คิด และพยายามทำความเข้าใจ ว่าโลกเบื้องหน้าเป็นเช่นไร กระทั่งนึกคิดถึงที่ทางแห่งชีวิต และความคิดตัวเองว่า เราปรารถนาถึงโลกเช่นไร หรือเราอยากให้โลกเบื้องหน้าในแต่ละความใฝ่ฝันนั้นเป็นเช่นไร ดังนั้นผมจึงคาดหวังและเทียบเคียง

มีบทเพลงมากมายเขียนบอกเล่า

ถึงเรื่องราวแห่งความรัก

กับตัวตนหนังสือ

บ้างบอกเล่าให้ความรักเป็นดั่งตัวหนังสือ เป็นเรื่องราวโลดแล่นในตัวคำเขียน ซึ่งคนรักจะค่อยค่อยอ่าน ค่อยค่อยเปิดแต่ละหน้า เพื่อเข้าใจแต่ละหน้าแต่ละใบ ของบรรทัดเรื่องราว ซึ่งบันทึกชีวิตไว้เบื้องในตัวตนของคนรัก มีหลายคนที่บ่งบอกถึงความหมายของการอ่าน เรียนรู้ และเข้าใจถึงแต่ละขณะของการอ่าน

สำหรับผม

หนังสือเป็นสิ่งยิ่งใหญ่

เป็นนวตกรรมแห่งความใหญ่โต

ที่มนุษย์ได้สร้างสรรค์ บรรจุ และบันทึกความจริงคำลวง กระทั่งความหมายมากมายผ่านอักขระ ยิ่งใหญ่พอที่จะก้าวผ่านความจริงของกาลเวลา รอคอยเพียงการหยิบจับ และเก็บเกี่ยวเรื่องราวเหล่านั้น ซึ่งนอนก้นรอคอยในแต่ละบรรทัด เหมือนเช่นที่เราจะได้มีโอกาสเรียนรู้หัวใจใครสักคน

เมื่อใครสักคนเหมือนเช่นหนังสือ

ใครหลายคนเหล่านั้น

จึงแตกต่าง

เพราะหนังสือแต่ละเล่มแต่ละเรื่องล้วนมีความแตกต่าง เป็นหนึ่งในเครื่องกำกับตัวตน กำหนดการนำเสนอบอกกล่าว กระทั่งจัดแบ่งประเภท บ้างโลดแล่นตื่นเต้น อ่านแต่ละบรรทัดด้วยหัวใจตูมตาม ขยับแต่ละนิ้วบรรทัดด้วยความสะกดกลั้น เดาและคาดการณ์สิ่งใดเบื้องหน้าแทบไม่ได้

เหมือนคนรักบางคน

เหมือนชีวิตของใครหลายคน

ซึ่งคนรักไม่อาจคาดเดาตัวตนอันซ่อนเร้น

อาจต้องรอกระทั่งอ่านเรื่องราวนั้น จบลงในหน้าสุดท้ายของหนังสือชีวิต รอจนกระทั่งเผยตัวตนที่แท้จริง หรือกระทั่งว่า ตัวตนคนรักหักมุมในบั้นปลาย เมื่อท้ายเล่มหนังสือ ได้มีโอกาสอธิบายถึงความจริงอันซ่อนเร้น ยามเราเปิดอ่านเราจึงจะเข้าใจสิ่งซ่อนอยู่ภายใน

หากความรักและคนรักเป็นเช่นหนังสือ

เราแต่ละคนต่างต้องค้นหา

เพื่อพบเจอให้ถูกจริต

บ้างชอบเรื่องราวตื่นเต้นผจญภัย บางคนชอบเรื่องเพ้อฝันจินตนาการบรรเจิด มีบ้างชอบชีวิตแห่งตำนาน มีประวัติศาสตร์ มีห้วงความคิด บางคนชอบงานภาษาสวย รื่นรมย์ในแต่ละความหมาย หลายคนชอบหนังสืออ่านง่าย บอกกล่าวชัดเจนตรงไปตรงมา หนังสือและผู้คนจึงแทบไม่ต่างกัน

ยิ่งต้องเปิดอ่าน

ในแต่ละหน้ายันบทจบ

เรายิ่งจะค้นพบและเข้าใจถึงความจริง

หนังสือบางเล่มชวนให้คนเปิดอ่าน ตั้งแต่บรรทัดแรกจนบรรทัดจบ บางเล่มต้องกลับมานั่งอ่านครั้งแล้วครั้งเล่า ถอดความซ้ำไปซ้ำมา เปิดอ่านอีกครั้งกี่รอบก็ยังคงประทับใจในเนื้อถ้อยทำนองความ หนังสือบางเล่มในชีวิตคนเรา แม้อ่านนานนับยี่สิบสามปียังไม่มีวันจบ

 

ถึงขนาดที่คนรักหนังสือบางคนกล่าวว่า

หนังสือบางเล่ม แม้อ่านจนชั่วชีวิต

เราก็ยังอ่านได้ไม่มีวันจบ

เพราะทุกห้วงขณะของการอ่าน เราล้วนมีความสุข ใครได้พบปะคนรักเช่นนี้ ล้วนต้องตอบคำถามในดวงใจด้วยตนเอง หนังสือบางเล่มอาจพาลให้เราต้องเปิดผ่าน เพียงเพื่อรู้ตอนจบ ว่าสรุปสุดท้ายว่าอย่างไร หรือกระทั่งใครบางคนติดนิสัย อ่านหนังสือทั่วไปเหมือนอ่านหนังสือสอบ

ไล่ตะลุยอ่าน

เพียงเพื่อจับความ

โดยข้ามพ้นสาระความงาม

อ่านผ่านผ่านเพียงได้เข้าใจเนื้อเรื่อง กระทั่งขมวดคิ้วเล็กน้อยในตอนจบ แล้วอุทานกับตัวเองว่ามีเพียงเท่านี้ เหมือนเช่นที่ใครหลายคนเลือกจะเปิดอ่าน เลือกประเภท แยกเล่ม และเลือกจริตก่อนการอ่านหนังสือ ปฏิเสธไม่ได้สำหรับความจริงของคนอ่านหนังสือ

ซึ่งล้วนมีหนังสือในดวงใจอันแตกต่าง

มีคนรักในดวงใจและคาดหวัง

ซึ่งล้วนแตกต่างกันไป

ใครชอบตื่นเต้นเร้าใจสนุกสนาน โศกเศร้าเคล้าน้ำตา นองหน้าด้วยเรื่องราวรันทด บางคนชอบแบบโหดมันฮา หลายคนชอบเรื่องราวอ้างอิงมีที่มา บางคนชอบคนหรูหราในการใช้เนื้อหาอธิบายชีวิต หลายคนชอบตำนานนิทานเจ้าหญิงเจ้าชาย บ่อยครั้งที่คนอ่านหนังสือบางคน ชอบแบบตบจูบ

หนังสือจึงคงความ

ที่อาจเทียบเคียงอันแตกต่าง

หลากหลายเช่นชีวิตของความรัก

หลายครั้งที่เราได้มีโอกาสแตกแขนงแยกย่อย ตามแต่ท้องเรื่องของหนังสือ หลายคราวที่ชีวิตได้มีโอกาส เห็นผู้คนนั่งลงเปิดอ่านหนังสือ หลายปีที่ผ่านมาที่ได้มีโอกาสเห็นเพื่อนฝูง เลือกเรื่องราวในหนังสือแห่งความรัก เริ่มต้นและเปิดอ่านกระทั่งถึงวันจบลงของหน้าสุดท้าย

จนแม้กระทั่งตัวเองที่เคยได้เปิดอ่านหนังสือ

ได้โอกาสที่จะเลือกหยิบจับชีวิต

ถึงแต่ละหน้าหนังสือ

กระทั่งได้พบกับวิธีการอ่าน เรียนรู้คำตอบในใจ ว่าหนังสือที่ใช่วันนั้น เราเองอ่านได้สนุกสนานเพียงใด หรือเรื่องราวบางอย่างพาให้เราตื่นเต้นโลดแล่น เสมือนหนึ่งนั่งอ่านหนังสือได้ข้ามคืน หรือคุยกับคนที่เรารักได้ข้ามวัน ใช่อย่างยิ่งสำหรับความหลากหลายในแต่ละอารมณ์การอ่าน

ในท่ามกลางคำเปรียบ

และเปรยถึงความรักกับหนังสือ

ผมเคยบ่นเรื่องราวอันประทับใจให้เพื่อนฝูง

ได้รับฟังแลกเปลี่ยน กระทั่งปรับมุมมองชีวิต ในสิ่งที่เรากำลังอธิบายว่า ความรักและคนรักของชีวิต เปรียบดั่งหนังสือมากมาย ซึ่งวางกองบนชั้นหนังสือ กระทั่งวันหนึ่งที่เราเลือกหยิบจับ หยิบอ่าน เลือกและพยายามอ่านแต่ละหน้าของอารมณ์รักเหล่านั้น ด้วยการแทนตนของความรัก กับแง่งามของหนังสือ เพื่อนผู้หญิงคนหนึ่ง นั่งฟังเรื่องราวจากปากคำ ก่อนถามผมด้วยเสียงแผ่วเบาว่า

ถ้าเขาไม่อยากให้เธออ่าน แต่ละหน้าชีวิตของเขา ละ

อืมม์ ตอนนั้นผมจำได้เพียงว่า

ผมมีเสียงในลำคอเท่านั้น

 

 

หมายเลขบันทึก: 173752เขียนเมื่อ 28 มีนาคม 2008 13:36 น. ()แก้ไขเมื่อ 4 มิถุนายน 2012 17:55 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

ผมรักหนังสือครับ

และหนังสือที่ผมรัก ผมจะเก็บไว้อย่างดี และบรรจงเปิดอย่างทนุถนอม

แต่หนังสือราคาแพงขึ้นมาก หนังสือที่ดียิ่งราคาแพงมากขึ้นไป อยากจับจองเป็นเจ้าของก็ต้องตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว

สวัสดีครับ คุณเอก

1. จตุพร วิศิษฏ์โชติอังกูร

ยินดีอย่างยิ่ง ที่ได้เห็นข้อความทักทาย

สำหรับคนรักหนังสือ และ ผู้คนซึ่งหลงรักหนังสือ

เห็นด้วยครับ สำหรับความจริง แห่งคุณค่า การดูแลทนุถนอม และรักหนังสือ

รักษาความรักอันงดงาม ด้วยการดูแล และเมื่อจะจับจอง ก็ต้องแน่ชัดภายในใจ

เราจึงจะเข้าใจคุณค่าอันงดงาม ในความรักนั้น

ขอบคุณมากครับ

ยินดีอย่างยิ่งที่ได้ทักทายกันครับ

ความรักเปรียบเหมือนหนังสือ ที่เราต้องทำความเข้าใจกับมันครับ ถึงจะรู้ความหมายที่แท้จีริง

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท