การทำความรู้จักผู้ใช้ยาในมิติของ “การห้าม”
กิจกรรมนี้เป็นกิจกรรมชวนคิดชวนคุย กับกลุ่มผู้ใช้ยาเพื่อเข้าใจ “ธรรมชาติ” ของกลุ่มมากขึ้นในมิติของข้อห้ามหรือการห้าม ที่หลาย ๆ คนมองว่าเป็นเรื่องธรรมดา แต่เมื่อพิจารณาถึงกำแพงหรือการปิดกั้นตัวเองของกลุ่มผู้ใช้ยา หรือข้อกล่าวอ้างของคนทำงานที่ได้แลกเปลี่ยนในหลายเวทีที่สรุปออกมาคล้ายกันว่าเข้าไม่ถึงกลุ่มผู้ใช้ยาโดยเฉพาะชนิดฉีด ซึ่งมองว่าปัจจัยหนึ่งอยู่ที่การทำความเข้าใจในสิ่งที่ต่างคนต่างคิดหรือวางกรอบให้ผู้ใช้ยาได้เดินนั้นเป็นกรอบหรือทางเดินที่ถูกต้อง การห้ามหรือข้อห้ามที่ผู้ที่อยู่รอบข้างของผู้ใช้ยาได้ถูกกำหนดไว้ถูกหยิบยกขึ้นมาเป็นประเด็นว่า หากผู้ใช้ยาละเมิดกรอบดังกล่าว ผู้ที่ผิดจึงไม่ใช่ใครนอกจากผู้ใช้ยา บทสรุปของกิจกรรมนี้จากมุมมองของผู้ใช้ยาสะท้อนให้เห็นว่าเขาเองเป็นกลุ่มบุคคลหนึ่งที่มีลักษณะคล้ายคลึงกลับคนกลุ่มใหญ่ของสังคมไทย ดังสุภาษิตที่ว่า “เขายิ่งว่า ยิ่งเตือนเหมือนยิ่งยุ เขายิ่งดุยิ่งด่า ยิ่งฝ่าฝืน เขายิ่งห้ามยิ่งอยากใส่ปากกลืน ทีเขายื่นให้กิน ไม่ยินดี...” กิจกรรมนี้สะท้อนว่า การห้ามแม้จะใช้ได้ผลในระดับหนึ่ง แต่ท้ายที่สุดไม่สามารถเป็นกลไกสำคัญที่ทำให้ผู้ใช้ยา หยุดเสพหรือใช้ยาและลดพฤติกรรมที่คนรอบข้างไม่ชอบได้อย่างถาวร
วิธีการและขั้นตอนการทำกิจกรรม "การห้าม"
1. แบ่งกลุ่มย่อยตามความเมาะสมกับขนาดของผู้เข้าร่วม เกริ่นนำถึงความสุขและความทุกข์ที่แต่ละคนได้รับโดยใช้เวลาไม่มากนัก
2. นำกระดาษชาร์ตจำนวน 5 แผ่น ไปติดตามมุมต่าง ๆ ของบ้านหรือห้อง และแต่ละแผ่นเขียนหัวข้อเรียงตามลำดับสถานี ดังนี้
· สถานีที่ 1 ข้อห้ามที่เราพบหรือได้ยินบ่อยจากคนรอบข้าง
· สถานีที่ 2 ความรู้สึกของเราเมื่อถูกห้าม
· สถานีที่ 3 คิดว่าเขาห้ามเพราะอะไร
· สถานีที่ 4 ปฏิกิริยาของเราเมื่อถูกห้าม
· สถานีที่ 5 หากจะทำงานกับผู้ใช้ยาต้องทำอย่างไร
3. ชี้แจงให้ผู้เข้าร่วมได้เวียนกันเขียนเรียงเนื้อหา / ความรู้สึกตั้งแต่สถานีที่ 1 – 5 เมื่อครบแล้วชวนคิดชวนคุยไปในรายข้อ
4. ในขณะที่ชวนคิดชวนคุยถึงความรู้สึกแต่ละข้อจะมีการให้ผู้ที่เข้าร่วมได้เติมเต็มแลกเปลี่ยน และแชร์ประสบการณ์
5. แลกเปลี่ยนประเด็นว่า การห้ามเหมาะสม หรือเป็นวิธีการที่เพียงพอหรือไม่ แล้วนำข้อคิดเห็นที่ได้ในเวทีเชื่อมโยงกับสถานีที่ 5
6. สรุปข้อคิดที่ได้จากกิจกรรม (กลุ่มใหญ่)
7. จากกิจกรรมดังกล่าวพบว่ามีคำสำคัญ หรือคีย์เวอร์ด เป็นหมวดหมู่ ดังตัวอย่างต่อไปนี้
ข้อค้นพบจากการทำกิจกรรม-ข้อห้ามที่ผู้ใช้ยาพบ / ได้ยินบ่อย
· ห้ามสูบบุหรี่
· ห้ามลักขโมย / ขโมยของ
· ห้ามดื่มเหล้ามาก
· ห้ามคบเพื่อนไม่ดี
· ห้ามมีเมีย / ห้ามชู้สาว
· ห้ามเสพยาเสพติดทุกชนิด
· ห้ามพาเพื่อนที่เล่นยาเข้ามาในบ้าน (บ้านไม่ใช่โรงแรม)
ความรู้สึกเมื่อถูกห้าม
· อยากเลิกแต่เลิกไม่ได้
· ทำไมต้องห้าม
· คิดค้นหาเหตุผลที่เขาห้าม
· ยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุ / อยากเมา
· ฝืนธรรมชาติ / ฝืนความรู้สึก
· จะพยายามเสพให้น้อยลง / แอบเสพ
· หงุดหงิด
· ก่อนติดทำไมไม่ห้าม ติดแล้วมาห้าม ไม่มีผล
· อยากโต้ตอบ
· นำกลับไปคิด
· เรื่องของเรา สิทธิของเรา เงินเรา
· รู้สึกเหมือนยั่วยุ ให้อยากทำ
· ทำไมต้องห้ามเล่นยาในบ้าน เพราะรู้สึกปลอดภัย
คิดว่าเขาห้ามเพราะอะไร
· เพราะเขารักเรา
· อยากให้เรามีสุขภาพดี
· เพราะหวังดีไม่อยากให้ถูกเกลียดชัง
· ที่บ้านกลัวเสียหน้าทางสังคม กลัวเสียชื่อเสียง
· มีความเป็นห่วง
· เพราะอยากให้เราได้ดี
· เพราะเรายังเด็ก อายุน้อยเอาตัวเองไม่รอด
· กลัวเราถูกตำรวจจับ
· เพราะหวังดี ไม่อยากให้มีปัญหาภายหลัง
· เพราะรู้ว่าเรายังหาเงินได้ไม่มาก
ปฏิกิริยาตอบโต้ของเราเมื่อถูกห้าม
· ออกไปสูบนอกบ้าน
· อยู่ห่างคนที่ห้าม / คอยหลบ
· ปฏิบัติตามแล้วรู้สึกสบายใจ / ภูมิใจที่ทำได้
· หงุดหงิดอยากเถียง
· เก็บกด,อึดอัด
· น้อยใจ
· แอบเสพ
· หลบ ๆ ซ่อน ๆ
· แอบพาเพื่อนเข้าบ้าน
· แอบคบเพื่อน / เจอเพื่อนข้างนอก
· ประชด
· ยิ่งใช้เงินเปลืองขึ้น
หากจะทำงานกับผู้ใช้ยาต้องทำอย่างไร(จากมุมมองมองผู้ใช้ยา)
1. ต้องมีความอดทนสูงมากเพราะการทำงานกับผู้ใช้ยามีปัญหามาก เช่น
· เรื่อง เงิน ๆ ทอง ๆ
· ความน่าเชื่อถือ
· มีความอ่อนไหวสูง
· อาการจากยา (เปรมยา)
· อาการอยากยา (เสี้ยนของ)
· มีความรู้สึกไว
· หวาดระแวง สงสัย ไม่ไว้ใจคนรอบข้าง
· ตำรวจ / สายตำรวจ
· สภาพครอบครัว
· สุขภาพจิต
· ชอบมีโลกส่วนตัว
· ปิดกั้นตัวเอง
· ฯลฯ
2. ต้องมีความตั้งใจที่จะช่วยเพื่อนผู้ใช้ยา เพราะก็เคยเป็นผู้ใช้ยามาก่อน
3. ต้องมีความอดทนและใช้เหตุผล
· ต้องดูปัญหาเพื่อนว่าเป็นอย่างไร รวมถึงนิสัยใจคอ
· ต้องแบ่งใจให้กัน เอาใจเขามาใส่ใจเรา
· ไม่ด่วนสรุปหรือตีความอะไรเร็วเกินไป
· ต้องเข้าใจความหลากหลายของเพื่อนแต่ละคน
4. ถ้าเป็นไปได้คนทำงานส่วนหนึ่งต้องเป็นผู้ใช้ยามาก่อน
5. ต้องรู้จักและเข้าใจเพื่อนผู้ใช้ยาก่อนในฐานะที่เป็นอาสาที่มีใจอยากช่วยเหลือ
6. ต้องเข้าถึงเพื่อนด้วยการใช้ยา (ให้เพื่อนไว้ใจ / ซื้อใจ)
7. ต้องเข้าใจ เห็นใจเพื่อน อยากให้เพื่อนได้ดีกว่าเรา
บทสรุป/ สิ่งที่ได้จากกิจกรรม
· การห้ามเพียงอย่างเดียวไม่มีพลังเพียงพอในการหยุดหรือยุติพฤติกรรมที่สังคมมองว่ามาเหมาะสมด้วย ไม่ใช้เพราะว่าผู้ใช้ยาไม่ทราบสาเหตุหรือเหตุผลที่ห้าม แต่ยังขึ้นอยู่กับว่าห้ามใคร เพราะการห้ามอย่างเดียวกันมีทั้งคนฟังและไม่ฟัง เชื่อและไม่เชื่อ ทำตามและฝ่าฝืน ไม่ใช่เพราะว่าไม่รู้ถึงสาเหตุว่า ห้ามเพราะรัก เพราะห่วง แต่บางครั้งท่าทีของการห้ามก็กลับกลายเป็นปัจจัยส่งเสริมหรือเหมือนกับยิ่งยุให้กระทำการใด ๆ เพิ่มมากขึ้น อาทิเช่น ห้ามโดยไม่บอกเหตุผล ห้ามด้วยท่าทีแข็งกร้าว ดุดัน ห้ามด้วยมิติทางการใช้อำนาจ
· การห้าม ความเปลี่ยนเป็นการให้ข้อมูลที่รอบด้านแล้วสร้างทางเลือกที่หลากหลาย ไม่ใช่เป็นการให้ข้อมูลเฉพาะด้านบวกหรือลบ
· การห้ามไม่เริ่มต้นจากเรา หรือเขา แต่เริ่มจาก “เราและเขา” ซึ่งหมายถึงการเรียนรู้ร่วมกันอย่างเป็นเหตุ เป็นผล และเป็นกระบวนการด้วยการหาวิธีการที่หลากหลายเหมาะสม ลดความรู้สึกต่อต้าน กระตุ้นให้อยากเรียนรู้และหยุดพฤติกรรม
· การรู้จักตัวตน ธรรมชาติของผู้ใช้ยาควรเริ่มต้นจากสิ่งที่เขารู้ สิ่งที่เขามี สิ่งที่เขาเป็น สิ่งที่เขาเห็น การเริ่มต้นด้วยการเอาไม้บรรทัดของผู้ไม่ใช้ยาและกฎเกณฑ์ทางสังคมทั้งหมดไปวัดผู้ใช้ยา จึงเท่ากับการเริ่มก้าวที่พลาด
ครับผม มาศึกษาเพิ่มเติม
และขออนุญาตนำไปรวมครับ รวมตะกอน
ด้วยความยินดีครับ มีบทความอีกหลายเรื่องที่จะทยอยให้เพื่อนผู้อ่านร่วมแลกเปลี่ยนกัน