คนพิการทางหู(หูหนวก)..เป็นบุรุษไปรษณีย์ได้.."สบายมาก"..สำหรับประเทศนี้..
ไม่ทราบว่าแล้วประเทศไทยเรา..มีบ้างหรือเปล่าค่ะ..เปิดโอกาสให้พวกเขาทำงานแบบนี้ได้หรือเปล่า..
มานั่งคิดๆๆเออ..ก็น่าจะทำได้..ก็แค่มาส่งจดหมาย..ถ้าจดหมายลงทะเบียน หรือพัสดุก็แค่เราเซนต์รับของ..ก็เรียบร้อย..ไม่เห็นต้องทำอะไรอีก..ง่ายๆเอง..สงสัยก็เขียนถามก็ได้..หรือไม่ก็ฝึกภาษามือกันหน่อย..ช่วยเขา..จะได้ทำงานได้เหมือนเรา..
แล้วในความเป็นจริงนั้น..โอกาสที่จะต้องคุยกับบุรุษไปรษณีย์แทบไม่มีเลย..ทำไมเขาจะทำงานแบบนี้ไม่ได้..ถ้าเราให้โอกาสเขา..
ความจริงเราก็ไม่เคยทราบเลยว่า..คุณบุรุษไปรษณีย์ที่มาส่งจดหมายให้เราเป็นคนพิการทางหู(หูหนวก)..จนกระทั่ง..เพราะไม่เคยคุยกันสักที..
เมื่ออาทิตย์ก่อน..เกิดขัดข้องบางประการ..เข้าใจว่าอาทิตย์ก่อนผู้พักอาศัยห้องอื่นๆ(แบ่งเป็น6ห้อง)คงไม่อยู่กัน..หรือหลับหรือขี้เกียจเปิด..ฯลฯ..ทำให้คุณบุรุษไปรษณีย์สุดหล่อ..จำเป็นต้องกดกริ่งเรียกมาที่ห้องเราหลายรอบ..เราก็กดเปิดให้เพื่อให้เขาเข้ามาส่งจดหมายได้..แต่เราคงกดด้วยความเร็วเกินไป..คุณบุรุษไปรษณีย์คงเปิดไม่ทันเรา..เขาก็กดเรียกมาอีกสองครั้ง..เราก็กดเปิดให้เขาอีกครั้ง...สรุปว่ารอบนี้เปิดประตูได้สำเร็จ..
เลย..แหม....ออกไปทักทายกันสักหน่อย..อยากถามว่า..เป็นอา-ราย..ไปวันนี้..ทำไมเปิดประตูไม่ได้สักที..หา...กดอยู่ได้..(นึกในใจ)..
พอเจอหน้าเท่านั้นแหละ..กำลังจะทักทายและถามว่าประตูมันเป็นอะไรหรือเปล่า..ค่ะ.. ถึงเปิดไม่ได้สักที..อิๆๆ..ปรากฏ..คุณบุรุษไปรษณีย์..ก็ส่งภาษา..ด้วยคำพูด เบาๆสั้นๆ..ที่พอจับใจความได้ว่า.."ฉันขอโทษน่ะ เสียใจด้วยน่ะ..ฉันเป็นใบ้" ....
เท่านั้นแหละ..พอรู้ว่าคุณบุรุษไปรษณีย์เป็นใบ้..ก็แทบจะลงไปกราบสักหนึ่งครั้ง.."..เพื่อขอโทษที่ทำให้เขาลำบาก....รู้สึกเสียใจเหมือนกัน..และรู้สึกนับถือเขาจริงๆว่าคุณบุรุษไปรษณีย์..ช่างเป็นคนที่มีจิตใจที่เข้มแข็ง..ไม่ท้อแท้ในชีวิต.สู้ชีวิต..รู้จักทำมาหากินได้..เยี่ยมจริงๆ ..เก่งจังเลย..น่ารักมาก"..แล้วมีภรรยาหรือยังอ่ะ..อิๆๆ??จะได้ไปช่วยดูแล..อิๆ
ทำให้กลับมานั่งคิดเหมือนกันว่า..พอจะมีตำแหน่งในที่ทำงานเรา..เปิดรับและให้โอกาสคนเหล่านี้ได้ทำงาน..ร่วมกับเราบ้าง..มีไหม"..ถ้าเขาเป็นคนดี..และตั้งใจทำงานดี..ทำไมไม่ให้โอกาสเขาบ้าง....ถ้าหากเขาสามารถทำงานได้..
อิๆๆ..สรุป..ก็อยากจะไปแอบดู..ว่า..แล้ว..เขาเปิดประตูเข้ามาด้วยวิธีไหน..เพราะเขาจะไม่ได้ยินเสียงที่เรากดเวลาเปิดประตูให้...อาจมีอุปกรณ์พิเศษอะไรบางอย่าง หรือไม่ก็คงเอามือคอยผลักประตูไปเรื่อยๆหลังจากที่เขากดกริ่ง..เรียกเราแล้ว..(เดาเอา..อิๆๆ..) ต้องตามไปดูสักหน่อย..อิๆๆ..
อืม..ถึงว่า..เวลาถามไปว่าใคร..(ตอนกดกริ่งมาขอให้ช่วยเปิดประตูให้..)..ก็ไม่มีคำตอบจากสวรรค์....เพิ่งถึงบางอ้อ..(บางที่..เขาจะตั้งเวลาเปิดไว้สำหรับบุรุษไปรษณีย์..แต่ที่นี่..ไม่ได้ทำ..สงสัยเห็นห้องไม่เยอะสามารถผลัดกันกดเพื่อเปิดประตูได้..แล้วก็ไม่ได้มีจดหมายทุกวัน..)
ก็เล่าสู่กันฟังค่ะ..ว่าคนประเทศนี้เขาก็ดีน่ะ..ที่ให้โอกาสคนพิการทำหน้าที่เป็นบุรุษไปรษณีย์ได้ด้วย...."ไม่เลือกปฏิบัติ"..น่าชื่นชม..
ด้วยรักจากใจยายหมูอ้วน..
สวัสดีค่ะพี่หมูอ้วน
ดีนะคะ ให้โอกาสให้เขาได้ทำงานที่เหมาะสมดีค่ะ
กำลังเดาว่าเวลากดกริ่งกับเวลาเรากดเปิดประตูให้น่ะ น่าจะมีแรงสั่นสะเืืทือนเป็น vibration เบาๆ ที่ประตูนะคะ เขาน่าจะ sense ดีใช้ได้ ถ้าให้มือสัมผัสประตูอยู่นะค่ะ ^ ^
สวัสดีค่ะคุณน้อง ศ ดร กมลวัลย์ที่น่ารักและเก่งด้วย
สวัสดีค่ะน้องหมูอ้วนน้อยกว่าครูอ้อยเยอะเลย..หมูอ้วน ...
รักษาสุขภาพด้วยนะคะ โลกร้อน แต่ไม่ร้อนใจ.เอิ๊กเอิ๊ก
สวัสดีค่ะคุณครูพี่อ้อยที่เคารพรักยิ่ง
ที่บ้านเราพี่เคยรับคนพิการมาทำงาน เขาก้อยู่ไม่ได้เพราะเข้าสังคมไม่ได้ดีค่ะ ไม่ใช่กีดกัน บางที สังคมทั่วไปเป็นตัวกำหนดนะคะ
สวัสดีค่ะคุณพี่Sasinandaที่เคารพรักยิ่ง
น้องอาจารย์หมูอ้วนเป็นคนช่างสังเกตความเป็นไปเล็กๆน้อยอย่างเข้าถึงรายละเอียดราวหนังนักสืบสมเป็นทนายเลยค่ะ
ในต่างประเทศคนพิการได้รับโอกาสต่างๆจากรัฐและสังคมดีกว่าบ้านเรามาก แต่คิดว่าบ้านเราก็มีพัฒนาการขึ้นมาก คงถึงวันที่ดีได้ระดับมาตรฐานสากล
สวัสดีค่ะคุณพี่"คุณนายดอกเตอร์"ที่เคารพรักยิ่ง
สวัสดีค่ะคุณครูน้องขจิตที่น่ารักสุดๆ