ในปี พ.ศ. 2546 ผมได้ไปสอนที่หย่อมบ้านบ้านใหม่ห้วยหวาย ซึ่งเป็นเขตบริการของโรงเรียนบ้านหนองเขียว ตำบลห้วยโป่ง อำเภอเมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอน ในตอนนั้นถนนหนทางมีความยากลำบากโดยเฉพาะฤดูฝนจะขึ้นลงหมู่บ้านลำบากมาก และไฟฟ้ายังไม่มีใช้ บ้านใหม่ห้วยหวายเป็นชนเขาเผ่ากะเหรี่ยง ตอนแรกที่ผมไปมีเพียงกระเป๋าเสื้อผ้าและมีดเท่านั้น ผมไปหาผู้นำหมู่บ้านและขออาศัยพักนอน 1 คืน ก่อนเข้าโรงเรียน ผู้นำหมู่บ้านมีน้ำใจมากให้ผมนอนในห้องนอน แต่ผู้นำและครอบครัวนอนในห้องครัวที่มีเตาพิง พอเช้าผมก็เข้าไปในโรงเรียน เด็กที่นี้น่ารักมากและกล้าแสดงออก เข้าทักทายผมและผมก็พูดคุยกับนักเรียนตลอดเช้าเลย ตอนพักเที่ยงผมไม่ได้เตรียมข้าวสารและอาหารไป เด็กๆ ก็อาสาไปเอาข้าวที่บ้านมาให้แต่เด็กไม่ยอมเอาเงิน ผมเลยไปซื้อปลากระป๋องมาทำกับข้าวกินร่วมกันกับเด็กราว 10 คน แต่ผมหุ้งข้าวกับฟืนไม่เป็นเด็กก็สอนผมให้หุ้งข้าว ได้เวลาเข้าเรียนตอนบ่าย ผมเข้ามาในห้องเรียนที่ทำด้วยไม้ฟาก เด็กมีประมาณ 30 กว่าคน แบ่งเป็น ชั้นอนุบาล ป.1 , ป.2 ผมเลยต้องเอาเด็กอนุบาลนอนกลางวันก่อนเข้าทำความรู้จักกับเด็กที่เหลือและอธิบายว่าจะเข้าสอนชั้นใดก่อน พอเลิกเรียนเด็กๆก็ต่างพากันกลับบ้าน ในโรงเรียนเหลือผมเพียงคนเดียว ต้องทำหน้าที่ทุกอย่างในโรงเรียนเองทั้งหมด พอรุ่งเช้าเด็กนักเรียนก็นำฟืนมาให้ผมคนละ 5 ท่อน และบางคนก็นำข้าวสารมาให้ครูด้วย ผมถามเด็กว่าใครเป็นคนให้นำมาให้ เด็กตอบว่า พ่อ แม่ให้เอามาให้
เหตุการณ์นั้นทำให้ผมรู้ว่าไม่ว่าจะอยู่ตรงไหนบนพื้นแผ่นดินไทย คนไทยหรือชนเผ่าที่อาศัยอยู่บนพื้นดินไทย มีความเมตตากรุณา เอื้อเฟื่อเผื่อแผ่ และมีจิตใจที่ดีงาม
สวัสดีคะ
ขอบคุณมากคะ ที่นำประสบการณ์อันล้ำค่ามาแบ่งปันให้ได้อ่านกันคะ
แวะมาเล่าบ่อยๆ นะคะ อ่านแล้วก็มีความสุขคะ
สวัสดีค่ะ พี่ขจร
เป็นประสบการณ์ที่อ่านแล้วทำให้ยิ้มได้เลยนะคะเนี๊ยะ
...และคงจะยิ้มได้ทุกครั้งที่เราคิดถึง...