การปลอมวุฒิฯขอใบวิชาชีพครู

       จากการที่ผมได้อ่านหนังสือ มติชนรายวัน ประจำวันศุกร์ที่ 14 มีนาคม 2551 ได้รู้ข้อมูลเกี่ยวกับ การที่คุรุสภา สุ่มตรวจเอาผิดทางอาญา การปลอมใบวิชาชีพครู เนื่องจากวิชาชีพครูได้รับการยยกย่องเป็นวิชาชีพชั้นสูงที่ให้บริการจัดการศึกษาแก่เด็กและเยาวชนอย่างมีคุณภาพตามเจตนารมณ์ของ พรบ. สภาครูฯไม่ได้ จึงต้องทำให้คุรุสภาเข้มแข็ง ให้มีบทบาทเป็นที่ยอมรับในฐานะสภาครูฯ ที่กำกับดูแลมาตรฐานวิชาชีพครูให้มีคุณภาพ ที่ผ่านมา นางอุทุมพร จามรมาณ ผู้อำนวยการสถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (สทศ.) เคยเสนอให้จัดทดสอบวัดคุณภาพครูทั่วประเทศ แต่ยังไม่มีข้อยุติ เหตุผลหนึ่งอาจเป็น เพราะเกรวว่าผลการทดสอบจะอยู่ในเกณฑ์คุณภาพต่ำ สังคมจะรับไม่ได้ อย่างไรก็ตาม คุรุสภามีระบบดูแลและพัฒนาครูอยู่บ้าง แต่เชิงให้ครูสมัครใจเข้ารับการทดสอบ และอบรมพัฒนา นอกจากนี้ ยังมีมาตรการดูแลมาตรฐานวิชาชีพครูโดยทดสอบกลั่นกรองผู้ที่ไม่ได้จบครู เพื่อขอรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู โดยจัดสอบจำนวน 9 มาตรฐาน ซึ่งจัดสอบครั้งแรกเมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว มีผู้เข้าสอบ 1.1 หมื่นคน แต่ผ่านเพียง 12เปอร์เซ็นต์ แต่ไม่มีผู้ใดสอบผ่านมาตรฐานจิตวิทยาการเรียนรู้ ซึ่งเป็นมาตรฐานเกี่ยวกับการวัดความรู้ความสามารถในการจัดการศึกษาที่สอดรับกับศักยภาพการรับรู้ของสมองเด็ก ถือเป็นอันตรายหากหลุดเข้าไปเป็นครู

       ในการนี้พบว่ามีผู้ขอรับใบประกอบวิชาชีพครู ปลอมวุฒิการศึกษาปริญญาตรีมาขอรับใบอนุญาต 2 ราย ที่จังหวัดสุพรรณบุรี และนครสวรรค์ และยกเลิกใบอนุญาตแล้ว เชื่อว่าใบอนุญาตที่คุรุสภาออกให้กว่า 8 แสนราย อาจมีกรณีปลอมวุฒิอีกจำนวนหนึ่ง ดั้งนั้นจะขอความร่วมมือไปยังสถานศึกษาต่างๆ ช่วยกันตรวจสอบ และกำลังวางระบบสุ่มตรวจด้วย หากพบผู้กระทำผิด นอกจากกกกกจะยอเลิกใบอนุญาตแล้ว จะถูกแจ้งความดำเนินคดีในข้อหาปลอมแปลงเอกสารราชการด้วย

     ซึ่งจะที่ได้อ่านหนังสือฉบับได้เห็นคุณค่าของวิชาชีพ ต้องเรียนด้วยความมุ่งมานะถึงจะได้มา ไม่ใช้จะมาปลอมแปลงเอกสารก็ได้ ได้เห็นถึงความสำคัญของวิชาชีพครูที่ผมได้เล่าเรียนมา

[ขจร]

* สวัสดี

* คุณมีความเป็นครูแล้ว