คำถามสุดท้ายในอภิปรัชญาว่า
ความเห็นทางพระพุทธศาสนาบ่งบอกไว้ชัดเจนว่าเคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลง ดังเช่นใน ธัมมจักกับปวัตตนสูตร (ปฐมเทศนา) ในคราวที่ฤาษีโกญฑัญญะได้ดวงตาเห็นธรรมก็มีข้อความแสดงความเห็นว่า
หรือในมหาปรินิพพานสูตร ซึ่งก่อนที่พระพุทธองค์จะเสด็จดับขันธปรินิพพาน ได้ตรัสไว้เป็นพระวาจาครั้งสุดท้าย (ปัจฉิมวาจา) ว่า
สำหรับผู้สนใจ อ่านพระสูตรทั้งสองนี้โดยพิสดาร ตาม Link ด้านล่าง
...........
สรุปว่าคำสอนทางพระพุทธศาสนามีความเห็นเบื้องต้นกับคำถามทั้งสาม คือ
คำถามแรก ....มาจากไหน ? พระพุทธเจ้า ไม่ทรงเฉลย โดยทรงให้เหตุผลว่า ไม่ใช่ปัญหาที่รีบเร่ง ปัญหาที่รีบเร่งก็คือทุกข์และการแก้ทุกข์ให้หมดไป โดยทรงเปรียบเทียบว่า คนต้องศรปักอก ต้องรักษาแผลก่อน มิใช่การค้นหาที่มาของศร... (แต่ก็มีบางพระสูตรที่พระพุทธเจ้าตรัสเล่าคำเฉลยปัญหานี้ จากนิทานที่เล่าต่อกันมาจากอดีต....)
คำถามที่สอง ....คืออะไร ? คำสอนทางพระพุทธศาสนาลดรูปสรรพสิ่งลงเหลือเพียง ๒ อย่าง คือ จิตใจและ วัตถุ... (แต่ก็มีสำนักพุทธปรัชญาในสมัยหลัง ลดรูปสรรพสิ่งลงเหลือเพียง จิตใจ โดยพัฒนามาจากพระพุทธพจน์ในประเด็นว่าจิตใจสำคัญกว่าวัตถุ)
คำถามที่สาม ....เป็นอย่างไร ? คำสอนทางพระพุทธศาสนาเน้น ความเคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลง ของสรรพสิ่ง ทำนอง เกิดขึ้น ดำรงอยู่ แล้วก็แปรสลายไป... (แต่ก็ยังมีประเด็นถกเถียงกันในเรื่อง นิพพาน ว่าเที่ยงหรือไม่เที่ยง จนกระทั้งปัจจุบัน...)
............
บันทึกชุดนี้มี ๗ ตอน ซึ่งเป็นการประมวลคำถามอภิปรัชญาทั้งหมด และความเห็นทางพระพุทธศาสนา ผู้สนใจอาจอ่านทบทวนทั้งหมดได้อีกครั้งตาม Link...
นมัสการค่ะท่าน
เมื่อก่อนมีเพื่อนคนนึงชอบถามว่า ถ้าคนเราเกิดมาเพื่อใช้กรรม งั้นเราเกิดมาครั้งแรกชาติแรกมาจากไหน เกิดมาทำไม
ตอนนี้ไม่ได้เจอเพื่อนคนนั้นนานมากแล้ว แต่ถ้าได้เจอจะนำความรู้ที่ได้จากบันทึกนี้ของท่านไปบอกกับเค้าค่ะ
คำถามแรก ....มาจากไหน ? พระพุทธเจ้า ไม่ทรงเฉลย โดยทรงให้เหตุผลว่า ไม่ใช่ปัญหาที่รีบเร่ง ปัญหาที่รีบเร่งก็คือทุกข์และการแก้ทุกข์ให้หมดไป โดยทรงเปรียบเทียบว่า คนต้องศรปักอก ต้องรักษาแผลก่อน มิใช่การค้นหาที่มาของศร... (แต่ก็มีบางพระสูตรที่พระพุทธเจ้าตรัสเล่าคำเฉลยปัญหานี้ จากนิทานที่เล่าต่อกันมาจากอดีต....)
นมัสการพระอาจารย์ครับ
ลงชื่อว่ามาเรียนเช่นเคยครับ