ข้อคิดเกี่ยวกับการใช้คอมพิวเตอร์
ปัจจุบันทุกมหาวิทยาลัยได้บังคับให้นักศึกษาทุกคนจะต้องลงเรียนรายวิชาคอมพิวเตอร์และภาคปฏิบัติ แต่สำหรับบุคคลทั่วไปหรือประชาชนทั่วไปที่ยังไม่เคยใช้คอพพิวเตอร์อาจรู้สึกว่าคอมพิวเตอร์เป็นเรื่องยากทำอะไรไม่ถูก แต่สำหรับคนที่อยากรู้อยากเห็น ชอบลองผิดลองถูกก็จะใช้คอมพิวเตอร์ให้เกิดประโยชน์กับตนเองได้ไม่ยาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพื่อใช้เป็นเครื่องมือเพื่อความบันเทิง เช่นดูหนังฟังเพลง หรือใช้เล่นเกมส์เพียงอย่างเดียวจะไม่คุ้มค่าเพราะราคาคอมพิวเตอร์ตั้งแต่ 10000 กว่าบาทขึ้นไป แต่ถ้าชื้อเครื่องเล่นดีวีดี ราคาเครื่องละ 1000กว่าบาท หรือเครื่องเล่นเกมส์ดโดยเฉพาะราคาไม่เกิน 5000บาท เราสามารถดูหนังฟังเพลง เล่นเกมส์โดยต่อเข้ากับเครื่องรับทีวี ดังนั้นผู้ใช้คอพพิวเตอร์ในการทำงานมักจะใช้ฟังเพลงขณะเดียวกันก็ใช้คอมพิวเตอร์ในการพิมพ์เอกสารหรือทำอย่างอื่นอะไรก็แล้วแต่ที่คอพพิวเตอร์ทำได้ เพราะคอมพิวเตอร์ปัจจุบันสามารถที่จะทำงานได้หลายอย่างในขณะเดียวกัน
การใช้คอมพิวเตอร์มากอีกอย่างหนึ่งก็คือการใช้คอพมิวเตอร์ในการเชื่อมต่อทางอินเตอร์เนต เนื่องจากอินเตอร์เนตเป็นเครือข่ายที่เชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ทั่วโลกเข้าด้วยกัน โดยเฉพาะคอมพิวเตอร์ที่เป็นเครื่องแม่ข่ายนั้นจะเปิดใช้ตลอด 24 ชั่วโมงทำให้คนที่ใช้งานอินเตอร์เนตสามารถที่จะเชื่อมต่อเพื่อติดต่อสื่อสารทำกิจกรรมต่างๆ ได้ และเจ้าของคอมพิวเตอร์แม่ข่ายก็ต้องการให้มีคนเข้ามาติดต่อเข้ามาเพื่อประโยชน์ทางธุรกิจ เช่นมีรายงานข่าวให้อ่านฟรี มีอีเมลล์ให้ใช้ฟรี มีเกมส์ให้เล่นฟรีบ้างและต่างๆ อีกมากมาย ยิ่งมีผู้คนเข้าไปใช้มาก ก็จะมีแถบหรือสป็อตโฆษณา ซึ่งเจ้าของเว็บไซต์หรือเครื่องแม่ข่ายจะมีรายได้จากตรงนี้ หรือไม่ก็เสนอขายสินค้าต่างๆ การที่สามารถที่ติดต่อกับเครื่องแม่ข่ายได้ตลอดเวลานี้เอง ที่ทำให้เกิดวลีที่ว่าเราสามารถใช้ในการทำกิจกรรม ติดต่อสื่อสาร เพื่อวัตถุประสงค์ต่างๆกัน “ใช้ได้ทุกที่ทุกเวลา” ที่เราสามารถจะเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ให้ใช้อินเตอร์เนตให้ได้
แล้วควรจะมีความรู้อะไรก่อนที่จะใช้คอมพิวเตอร์สำหรับคนที่ชอบทดลอง ก็เรียนรู้จากการปฏิบัติได้เลย การเรียนรู้โดยวิธีนี้เป็นการเรียนรู้ด้วยตนเอง เป็นการเรียนรู้ที่จะคงอยู่ในตัวผู้ปฏิบัติได้นานและไม่ลืมสามารถที่จะทำหรือใช้งานที่เคยทำได้ได้อีก สำหรับวิธีการนี้ถ้าได้มีการบันทึกไว้ด้วยว่ามีขั้นตอนอย่างไรเมื่อต้องการให้ใช้งานให้ได้เหมือนกับที่เคยทำได้แล้ว ถ้าหลงลืมขึ้นตอนก็สามารถมาอ่านขั้นตอนที่จดไว้ได้ แต่แน่นอนว่างานบางงานที่มีความซับซ้อน การมีผู้สอนจะช่วยให้การเรียนรู้ได้เร็วไม่ต้องลองผิดลองถูกมากนัก การใช้งานเป็นได้เร็วขึ้น
โดยทั่วไปคนที่จะใช้คอมพิวเตอร์จะต้องจำเป็นต้องทราบอุปกรณ์ที่จะต้องเกี่ยวข้องด้วย ซึ่งคงหนีไม่พ้น ตัวเครื่องหรือตัวถังคอมพิวเตอร์อาจเป็นรูปกล่องสี่เหลี่ยมแนวตั้งหรือแนวนอน ซึ่งเรียกอีกอย่างว่าซีพียูเพราะข้างในจะมีอุปกรณ์หลักที่เป็นหัวใจของคอมพิวเตอร์คือตัวประมวลผลหรือซีพียู (Central Processing Unit) ซึ่งทำหน้าที่ประมวลผลได้แก่ การคำนวณ การตัดสินใจทางตรรกะ เป็นต้น นอกจากนั้นมีอุปกรณ์อ่านเขียนข้อมูลที่ผู้ใช้ติดต่อด้วยอันได้แก่ ซีดีรอม ฮาร์ดดิสค์ และพอร์ทสำหรับเสียบทัมไดร์ฟเป็นต้น อุปกรณ์อีกชนิดคือจอภาพคอมพิวเตอร์ ใช้ในการดูผลการทำงานของคอมพิวเตอร์ หรือการแสดงรายงานให้เราทราบทุกอย่างขณะทำงาน คีย์บอร์ด และเม้าซ์เป็นอุปกร์ที่ช่วยในการทำงาน ในการป้อนข้อมูลและควบคุมการทำงาน
การเปิดปิดคอมพิวเตอร์ คอมพิวเตอร์ทุกเครื่องต้องใช้พลังงานไฟฟ้าในการทำงานการเปิดสวิตฃ์ให้เครื่องเริ่มต้นทำงานได้เช่นเดียวกับกการสตาร์สเครื่องยนต์ หลังจากนั้นการทำงานจะเกี่ยวข้องกับโปรแกรมหรือคำสั่งที่ใช้ควบคุมการทำงานที่จะอำนวยความสะดวกให้ผู่ใช้ ตั้งแต่การติดตั้งโปรแกรมที่จะใช้งาน การควบคุมการใช้เครื่องในแง่การสร้างแหล่งที่เก็บข้อมูลที่เรียกว่าโฟนเดอร์ การสร้างแฟ้มข้อมูล การลบแฟ้มข้อมูล การเคลื่อนย้าย ทำสำเนา เป็นต้น ซึ่งสามารถทำได้โดยใช้เมาซ์ร่วมกับคีย์บอร์ด ซึ่งสิ่งที่ผู้ใช้ควรทราบเกี่ยวกับโปรแกรมที่คอมพิวเตอร์ต้องใช้ทุกครั้งเป็นพื้นฐานคือโปรแกรมระบบปฏิบัติการ ที่ใช้อยู่ทั่วไปคือระบบปฏิบัติการไมโครซอพท์วินโดว์ที่ใช้กันมากที่สุดขณะนี้คือวินโดว์เอ็กซ์พี (XP)
ความเห็น (3)
- ครูอ้อย เข้ามาอ่านแล้วนะคะ
- ชอบ กลุ่มคำว่า การเรียนรู้ด้วยตนเอง
- ทุกวันนี้ ครูอ้อยก็ยังเรียนรู้ด้วยตนเองเสมอ
- ผิดบ้าง ถูกบ้าง คละเคล้ากันไปค่ะ
- แบบลองผิดลองถูกก็มี เจ๊งไปก็มี
- แต่ส่วนใหญ่ ประสบกับความสำเร็จค่ะ
- คอมพิวเตอร์ ทำให้ครูอ้อยเรียนจบ และก้าวหน้าในหน้าที่การงาน มีความสุข เท่าที่จะสรรหาได้ค่ะ
ขอบคุณค่ะ.....ข้อคิดเกี่ยวกับการใช้คอมพิวเตอร์
คอมพิวเตอร์ มีทั้งข้อดี และข้อเสีย เราต้องใช้ในสิ่งทเป็นประโยชน์ครับ
ปรีชา รัตนประสิทธิ์
ผมคิดว่าคอมพิวเตอร์เรียนรู้ไม่อยากถ้าเราอ่านหนังสือภาษาไทยและภาษาอังกฤษออกและมีความสนใจที่จะเรียนรู้มัน
คนที่คิดค้นค่อนข้างลำบากและสร้างขึ้นมาเพื่อให้คนใช้งานง่ายเผอิญผมโชคดีที่ได้ขายเครื่องมือแพทย์ที่เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ เช่น
เครื่อง EKG monitor , Central monitor,Telemetry,Holter,Exercise Stress Tess ,Ultrasound,Cathlab,defibrillatorและอีกมากมายผมจึงไม่ยอมแพ้ที่จะเรียนรู้คอมพิวเตอร์ถึงแม้ว่ามันจะพัฒนาไปเรื่อยๆไม่หยุดยั้งพร้อมกับการศึกษาธรรมะผมเคยได้ยินหลวงพ่อท่านบอกว่าเทคโนโลยีก็สู้ธรรมะของพระพุทธเจ้าไม่ได้