มนุษย “ชาติ” (Human “Birth Decay Suffer and Death”)


 

มนุษย์ สัตว์โลกที่ถูกมนุษย์สมมติว่าเป็นสัตว์ที่วิเศษสุดในพื้นพิภพ บนฟ้านภาอากาศ หรือแม้กระทั่งใต้พื้นปฐพี


ชาติหนึ่งที่ “เรา” ได้อัตภาพมาเป็นมนุษย์นั้นหนอเป็นสิ่งที่ประเสริฐที่สุดเหลือประมาณ


เพราะอัตภาพของมนุษย์เป็นอัตภาพแห่งการ “เปลี่ยนแปลง” เปลี่ยนแปลงไปในทางดีก็ได้หรือจะเลวไปกว่าเดิมก็ได้ จะเป็นอย่างไรนั้นก็สุดแล้วแต่ดวงจิตที่ได้รับอัตภาพมาเป็นมนุษย์นั้นจะทำกรรมหรือการกระทำใด

กรรมดี กรรมชั่ว หรือแม้กระทั่ง “หมดกรรม” มนุษย์สามารถลิขิตให้จิตใจได้ยืนอยู่บนจุดที่หมาย ณ แห่งใด

นับตั้งแต่เต่าตาบอดตัวนั้นที่ว่ายวนอยู่ในทะเลอันกว้างใหญ่เป็นเวลานานนับร้อยปี จะมีอยู่เพียงแค่เสี้ยววินาทีเท่านั้นที่จะโผล่ขึ้นมาหายใจ
วงแหวนเล็ก ๆ ที่มีความกว้างยาวเท่ากับหัวลอยเท้งเต้งอยู่บนพื้นน้ำ
โอกาสจะมีมากมากสักแค่ไหนที่เต่า (เรา) จะได้โอกาสสวมสัมผัสกับวงแหวนวงนั้นได้อย่างพอดี
โอกาสที่ได้นั้นคือโอกาสแห่งการเกิด โอกาสที่ได้กำเนิดเกิดมาเป็นมนุษย์อันเป็นสัตว์ที่ประเสริฐสุดแห่งการประพฤติปฏิบัติ
 
ลมหายใจแห่งชีวิตที่เข้าและออก บ่งบอกถึงเวลาที่มีค่าอย่างที่สุดที่มนุษย์จะได้เพียรสร้างสรรค์น้อมนำอัตภาพที่ได้มานี้เพื่อสร้างกรรมดี

ละชั่ว ทำดี ทำจิตใจให้ประเสริฐ นับตั้งแต่วันที่เกิด ถึงแก่ เจ็บ และตาย

อัตภาพแห่ง มนุษย “ชาติ” ทุกลมหายใจน้อมเร่งวาดภาพแต่งเติมสีสันให้กุศลกรรมด้วยกายใจ
แม้ยามแก่ ยามเจ็บ หรือกระทั่งละสังขารจากโลกนี้ไป จะไม่เสียทีที่ “ชาติ” นี้ไซร้เกิดมาเป็น “คน”

คนหรือ “มนุษย์” จะเรียกอย่างใดก็แล้วแต่จุดยืนแห่งการกระทำแห่งเจ้าของอัตภาพนั้นเป็นผู้กำหนด

ความว่างเปล่าแห่งความหมายในความเป็นตัวหรือตนเป็นจุดมุ่งหมายที่ “คน” ก้าวเดินไป

มนุษย “ชาติ” นี้ มิมีสิ่งใดเป็นสิ่งที่ยึดมั่นได้อย่างเที่ยงแท้และยั่งยืน
แม้แต่อัตภาพร่างกายก็ต้องส่งกลับและให้คืนแก่ธาตุดินระรินไป

ธาตุทั้งสี่ประกอบขึ้นมาเป็นตัวมนุษย์ ดิน น้ำ ลม ไฟ รวมกันมาที่จุดแห่งรูปในวัฏฏะแห่งสังขาร
เวทนา สัญญา สังขาร แลวิญญาณ มนุษย “ชาติ” มีไม่นานเร่งทำดี
ละเว้นชั่ว เกลือกกลั้ว กามกิเลส เร่งเนรเทศ ตัวตน ยึดถือมั่น
อยู่แบบว่าง ไร้ตัว ไร้ตนกัน มนุษย “ชาติ” นั้นแสนเบาแลสบาย

ขันธ์ทั้งห้าแท้ยิ่งเป็นของหนักเด้อ มนุษย “ชาติ” เร่งผลักออกจากสิ่งสอง
กายและจิตอาศัยธรรมมีศีลเป็นต้นอันบวร เร่งบั่นทอนภพ “ชาติ” ให้บางเบา

“โสดาบัน” แน่แท้มิมีแปด เหมือนปลดแอกภาระ “ชาติ” ภพแสนหนักยิ่ง
เพียรเร่งสร้าง “สกทาคามี” เหลือเพียงหนึ่ง
ก้าวต่อถึง “อนาคามี” ไม่เวียนวน
บรรลุผล “อรหัตผล” หมดภพชาติ สิ้นขาดกัน

ทั้งหมดนี้ มนุษย “ชาติ” เพียรสร้างได้
ประเสริฐไซร้ใจมนุษย์นี้นั้นหนอ
เพียรจนจบ มนุษย “ชาติ” มิรั้งรอ
ชาตินี้หนอ จะเป็น “มนุษยชาติ” ชาติสุดท้าย แน่แท้จริง...

คำสำคัญ (Tags): #ชาติ#มนุษย์
หมายเลขบันทึก: 170265เขียนเมื่อ 11 มีนาคม 2008 09:38 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 18:50 น. ()สัญญาอนุญาต: ไม่สงวนสิทธิ์ใดๆจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

ขอบคุณครับสำหรับบทความดี ๆ ในเช้าวันใหม่วันนี้ครับ...

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท