เมื่อสักครู่นี้ (11.30 น.ของ 27 ก.พ.49) เจ้าหน้าที่ของภาค (คุณแต๋ม) โทรมาตามเรื่อง Portfolio ของผม เพื่อที่จะส่งให้คณะฯ นำไปประกอบการพิจารณาความดีความชอบประจำปี ผมตอบไปว่า "ไม่ขอส่ง(ได้ไหม) เพราะว่าเงินเดือนตันแล้ว"
ความตั้งใจของผมก็คือจะไม่ส่งจริง (เพราะเงินเดือนตันแล้วอย่างหนึ่ง) เพราะมีความเห็นว่า การเขียน Portfolio เขียนให้ดีอย่างไรก็พอจะได้ เพราะว่ามีผลประโยชน์เรื่องจะได้ขึ้นเงินเดือนหรือไม่ (ปกติก็ต้องได้ 1 ขั้นอยู่แล้ว ถ้าไม่ได้ไปไหนนานๆ ซึ่งระบบราชการก็เป็นแบบนี้มานานมากแล้ว เกินชั่วชีวิตของคนหนึ่งๆ) คือพิจารณาขึ้นในกรณี 1.5 หรือ 2 ขั้น (กรณีเงินเดือนมากๆ ขั้นหนึ่งก็มาก)
ผมไม่ได้ให้ความสนใจเรื่องเงินเดือนมากนัก คิดว่าได้มากพอสมควรแล้ว เราใช้ให้น้อยๆ หน่อยก็พออยู่ได้ และตอบแทนราชการซึ่งเคยให้เราได้เรียนแบบไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายมากนัก (จะเขียนเรื่องนี้อีกครั้ง)
ตอนไป UKM ที่มหาสารคาม คุณหมอ (รองศาสตราจารย์) จิตเจริญ ไชยาคำ พูดกับผมตอนหนึ่งทำนองว่า "ตำแหน่ง ผศ.กับ รศ. ไม่ต้องให้เจ้าตัวขอได้ไหม เพราะบางคนก็ละอายที่จะขอให้ตัวเอง" และผมคิดเอาเองว่า ถ้าให้เจ้าหน้าที่บุคคลดูประวัติการทำงานและเสนอขอตำแหน่งให้ก็จะดีไม่น้อย (คือเป็นระบบทางเลือก)
พอดีผมปิ๊งไอเดียว่า แทนที่จะต้องมานั่ง(เทียน) เขียน Portfolio (แบบมีข้อมูล) เพื่อพิจารณาเรื่องเงินเดือน ถ้ามีทางเลือกให้ว่า ใครที่เขียนบันทึกลง gotoknow แล้วก็เป็นทางเลือกหนึ่งที่จะนำมาพิจารณาขึ้นเงินเดือนก็จะดีไม่น้อย
ผมเขียนบันทึกลง gotoknow ไม่ได้มีจุดประสงค์เรื่องผลประโยชน์ใดๆ ยกเว้นเรื่องการ "Share ความคิด" หรือ การเขียนให้คนอื่นอ่านเพื่อเป็นวิทยาทาน
มีประโยคหนึ่งหรือซึ่งพอจะวิเคราะห์ได้ในหนังแดจังกึม (ซึ่งผู้สร้างพยายามแทรกไว้) พูดทำนองว่า "การมารับราชการ ไม่ได้ทำเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง(มากนัก) แต่ทำเพื่อประโยชน์ของมหาชนให้มาก"
นี่คือความคิดของผม ไม่ทราบว่าจะมีท่านใดมา ลปรร.กันบ้างครับ....
ไม่มีความเห็น