โครงการวิจัยเพื่อพัฒนาวัยรุ่น
หลายวันที่ไม่ได้เข้ามาเยี่ยมเยียนเขียนบล๊อก วันนี้เลยกลับมาอีกครั้งกับบันทึก ความรู้ ที่อยากเขียนหลายประเด็นทีเดียวค่ะ เริ่มด้วย ความรู้เรื่อง โครงการวิจัยเพื่อพัฒนาวัยรุ่นไทย วิทยากร รศ.พญ.สุวรรณา เรืองกาญจนเศรษญ์ จาก โรงพยาบาลรามา
สรุปประเด็นความรู้
ปัจจุบันประชากรวัยรุ่นไทย มีจำนวนประมาณ 17 ล้านคน หรือ ร้อยละ 27 ถือว่าเป็นจำนวนที่มากพอสมควรเมื่อเปรียบเทียบกับประชากรทั้งประเทศ ประชากรในวัยรุ่น มีจำนวนหนึ่งที่ประสบปัญหา ซึ่งปัญหาที่สำคัญคือ ปัญหาสุขภาพ และปัญหาพฤติกรรมเสี่ยงจากปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ปัญหาที่เกิดขึ้นกับวัยรุ่นนั้นส่งผลให้เกิดปัญหาแก่วัยรุ่นเอง และส่งผลกระทบต่อสังคมมากพอกัน ปัจจัยเสี่ยงได้แก่ ปัจจัยด้านบุคคล เพศชาย (เสี่ยงกว่าเพศหญิงในหลายๆประเด็น เช่น การเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ) การขาดความนับถือในตนเอง (self – steem) ผลการเรียนไม่ดี หรือปัจจัยทางด้านครอบครัว เช่น ครอบครัวแตกแยก เศรษฐานะไม่ดี พ่อแม่ติดยาเสพติด ความสัมพันธ์ภายในครอบครัวไม่ดี หรือปัจจัยอื่นๆเช่น การคบเพื่อน ปัจจัยเสี่ยงเหล่านี้ จะส่งผลให้เกิดปัญหาต่างๆแก่วัยรุ่น มีการศึกษาวิจัยพบว่า สาเหตุการตายของวัยรุ่นที่สำคัญ คือ อุบัติเหตุ โรคเอดส์ การฆ่าตัวตาย การถูกฆาตกรรม จมน้ำ และโรคมะเร็ง สาเหตุการตายเหล่านี้ มีผลมาจาก ปัจจัยเสี่ยงดังกล่าว ยกตัวอย่างเช่น โรคเอดส์ ปัจจัยเสี่ยงคือ เพศ พบว่า เพศหญิง ง่ายต่อการติดเชื้อเอดส์กว่าเพศชาย โดยสรีระของเพศหญิง รับเชื้อเอดส์ได้ดีกว่าเพศชาย เป็นต้น ปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นกับวัยรุ่นหากไม่ได้รับการแก้ไข หรือไม่ได้มีการเล็งเห็นความสำคัญ ประเทศคงไม่สามารถพัฒนาได้ เนื่องจากวัยรุ่น เป็นกำลังสำคัญในการเติบโตเป็นผู้ใหญ่ ที่จะพัฒนาประเทศต่อไป
สรุปโดยรวมๆ ได้เรียนกับท่านวิทยากร แล้วรู้สึกว่า เห็นประเด็นในความยากง่าย และข้อจำกัด หากคิดจะทำวิจัยเกี่ยวกับวัยรุ่น แต่ก็ไม่ได้เป็นเรื่องยากเลยหากจะทำจริงๆ ที่สำคัญ คือ วันนี้ เกิดคำถามขึ้นมาว่า ที่จริงแล้ว โครงการวิจัยต่างๆเกี่ยวกับวัยรุ่นไทย ก็มีมากพอสมควร แล้วทำไมยังมีปัญหากับวัยรุ่นเกิดขึ้นอีกมากมาย เป็นคำถามที่เราต้องค้นหากันต่อไป
ข้อมูลเพิ่มเติม เกี่ยวกับ โครงการวิจัยวัยรุ่น www.teenrama.com
ความเห็น (2)
ผมทำงานด้านสุขภาพ
มีความสนใจพิเศษกับการพัฒนาเยาวชน
น่าสนใจครับกับงานวิจัยนี้ครับ
ตอนนี้ผมได้รับคำถามเกี่ยกวับกรณีของ HI5 มาก ว่า วัยรุ่นไทย ค่านิยม พฤติกรรมเปลี่ยนไปมาก แต่ก็มีการตั้งคำถามจากหลายๆคนเช่นกันว่า แล้ว เราได้ให้โอกาส พื้นที่ กิจกรรม ที่ให้เด็กไทยได้ฝึกคิด ฝึกถาม ฝึกทดลอง มากเพียงใด
น่าจะลงหาคำตอบมาแลกเปลี่ยนกันนะ