ย้อนรอย : ค่ายตะวัน


เมื่อวานนี้ผู้เขียนได้มีโอกาสเดินทางร่วมไปกับคุณเอื้อ และท่านได้ให้โอกาสให้อ่านหนังสือเล่มหนึ่ง เป็นเรื่องราวของท่าน "ติช นัท ฮันท์" ได้อ่านเพียงเล็กน้อยเพราะท่านเอื้อบอกว่าจะให้ยืมวันหลัง (ถือเป็นสัญญา) รู้สึกทึ่งในอุดมการณ์ จะเรียกว่าอุดมการณ์ไม่รู้ถูกหรือผิด (ชักจะติดใจคำนี้) ทำให้นึกไปถึงเพื่อนคนหนึ่งชื่อ หนูจร อุ่นชิน สมัยผู้เขียนเรียนเทคนิคการแพทย์ เพราะเรามีเลขที่ติดกัน ส่วนใหญ่เลยต้องทำ Lab. ร่วมกัน อีกทั้งเป็นเด็กหอเหมือนกันอีกด้วย

สมัยเรียนเพื่อนคนนี้เขาเป็นคนริเริ่มและเป็นประธานค่าย ชื่อ"ค่ายตะวัน" ร่วมกับเพื่อน ๆ พี่ ๆ  น้อง ๆ หลายมหาลัยด้วยกัน โดยมีความคิดว่าเด็กในเมืองมีโอกาสได้เรียนพิเศษ แต่เด็กตามต่างจังหวัดไม่มีโอกาสแบบนี้ ในช่วงที่เด็กปิดเทอมพวกเราก็ออกค่ายกันไปตามโรงเรียนที่ค่อนข้างห่างไกลครั้งแรกเราออกค่ายที่ภาคอีสาน (จำจังหวัดไม่ได้ค่ะ เพราะรอบหลัง  ๆ ก็มีโอกาสไปจังหวัดต่าง ๆ ร่วมกับชมรมอีสาน) ค่ายเรารับนักเรียนมาจำนวนหนึ่ง แล้วพวกเราก็ช่วยกันสอนวิชาต่าง  ๆ ในเวลากลางวัน กลางคืนก็มีกิจกรรมต่าง ๆ ผู้เขียนมีหน้าที่เป็นเหรัญญิกด้วยเก็บเงินสมาชิกค่ายส่วนหนึ่ง (ต้องกล้าทวงและขอเงินด้วย) จำได้ว่ากลุ้มใจมากเลยตอนทำหน้าที่นี้ บางครั้งเงินขาด 1 - 2 บาท ไม่เกินกว่านี้ (ยอมชดเอง) แต่บางครั้งเงินเกิน (จำได้ว่าเป็นร้อย) ต้องระลึกอยู่นานว่าเกินมาจากอะไร นอนไม่หลับ แต่ตื่นมาตอนเช้านึกออก ตั้งแต่นั้นก็เลยพกสมุดติดตัวตลอด และปีต่อมาก็ญิก (ไล่) ตัวเองออกจากตำแหน่งเห ฯ ให้น้องเขาแทน ตัวเองเป็นสมาชิกค่ายเฉย ๆแม้อดภูมิใจตัวเองไม่ได้ว่า เพื่อนมักชมเราเสมอว่าเป็นเหรัญญิกที่ดีไม่รู้แกล้งชมรึเปล่า??  ในปีแรกนอกจากตำแหน่งเหฯ แล้ว ยังต้องมีหน้าที่สอนด้วย (บางครั้งขาดคน) อีกตำแหน่งที่ชอบอยู่ประจำก็คือเป็นสวัสดิการ ช่วยทำอาหาร ทำไปชิมไป ถึงเวลาทานก็อิ่ม (ช่วงนั้นอ้วนมาก) และช่วงแรก  ๆ ตอนเตรียมค่ายก่อนที่จะคุยหรือก่อนที่จะปิดเราจะร่วมร้องเพลง "ทานตะวัน" ชอบมากเลยเพลงนี้ และเพลงอื่น ๆ อีก

ช่วงไม่กี่เดือนเพื่อนคนนี้มาหาดใหญ่ เล่าให้ฟังว่าตอนนี้ค่ายตะวันก็ยังคงอยู่ เพื่อนคนนี้ไปร่วมกิจกรรมทุกปี เวลามาห้องเค็มทีไรก็มีเรื่องเล่าสนุก ๆ ทั้งของเพื่อน ๆ ร่วมรุ่น และตัวเองให้พวกเราฟังกัน อ้อ! ลืมบอกไปว่าตอนนี้เพื่อนคนนี้เป็นเจ้าของบริษัทขายอุปกรณ์น้ำยาทางการแพทย์ ผู้เขียนถามว่าคงรวยแล้วสิ แต่เพื่อนบอกว่าเป็นช่วงเริ่มต้น และบอกพนักงานให้คิดว่าสำนักงานเปรียบเสมือนบ้าน ช่วย ๆ กันหาเงินเข้าบ้านประมาณนั้น ฯ

ผู้เขียนคิดว่าผู้เขียนโชคดี มีโอกาสได้ทำอะไรดี  ๆ และรอบ  ๆ ตัวผู้เขียนล้วนเป็น "กัลยานิมิตร"

หมายเลขบันทึก: 168261เขียนเมื่อ 29 กุมภาพันธ์ 2008 16:57 น. ()แก้ไขเมื่อ 18 มิถุนายน 2012 18:32 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (6)

ใช่แล้วค่ะ...

กะปุ๋มก็โชคดีที่ได้รู้จักคุณศิริ...ดีใจที่ได้เจอกันเมื่อวาน

รู้สึกเหมือนได้เจอเพื่อนเก่า.. .

...

(^____^)

ขอบคุณสำหรับเรื่องเล่านี้นะคะ...

ฝากกราบเคารพคุณพ่อและคุณแม่คุณศิริด้วยนะคะ

และขอกอดหลานๆ ด้วยนะคะ

....

กะปุ๋ม

พี่ศิริเป็นเพื่อนร่วมรุ่นของพี่หนูจรหรอคะ? โลกกลมจังค่ะ หนูเคยเจอพี่เค้าครั้งนึงและจำได้ว่าพี่เค้าคุยสนุกมากๆๆๆ ไม่แปลกใจเลยค่ะ ที่ความสำเร็จในการออกค่ายตะวันในครั้งนั้นจะเป็นแรงบันดาลใจให้น้องๆในรุ่นหลังได้ดำเนินรอยตามในกาลถัดมา เพราะมีจุดเริ่มต้นที่ดีอย่างพวกพี่ๆไงค่ะ ติดตามอ่านบล๊อคของพี่มานานแล้ว วันนี้ถือเป็นโอกาสดีในการเริ่มต้นเข้ามาทักทาย สุขสันต์วันหยุดคะ 

สวัสดีค่ะ เป็นสมาชิกคนหนึ่งของค่ายดะวัน และเป็นประธานค่าย 8 ค่ะ ปีนี้ค่ายของเราจัดเป็นปีที่ 18 แล้วค่ะ จัดที่ อ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์ ถ้าพี่ๆ สนใจจะไปเยี่ยมค่าย ไปดูบรรยากาศเก่าๆ ไปดูน้องๆ ทำกิจกรรมก็เชิญนะคะ พี่เก่าจะรวมตัวกันไปเยี่ยมค่ายประมาณวันที่ 16-17 ต.ค.53 ค่ะ สนใจก็ติดต่อได้ที่อีเมลนี้นะคะ

จำเก๋ได้ไหมคะสาวสวยที่สุดแห่งค่ายทานตะวัน 2-5 คุณพี่ขา ยังไม่แก่เลยความจำทำไมเลอะเลือนล่ะค้า.....ค่ายที่ 1 ที่ ยโสธร ค่ายที่ 2 ที่ร้อยเอ็ด....ค่ายที่ 3 ที่เลย....ค่ายที่ 4 ที่ น่าน ค่า.....

บนความสับสนวุ่นวายของเมืองใหญ่ ฉันรู้สีกเบื่อหน่ายยังไงพิกล อยากกลับไปดูทุ่งข้าวลมหนาว กลับไปเก็บความจริงใจของผู้คน ไปค่ายทานตะวัน19 ชานุมาน อำนาจเจิรญ

สวัสดีครับผมเคยเป็นน้องค่าย 8 ที่ อ.หนองสูง จ.มุกดาหาร "สวยพริ้ง ทิ้งครัว ไม่นะ"

รายงานตัวครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท