คลังข้อมูลเทพนิยาย


สะท้านแผ่นดิน

เค้าโครงเรื่อง...อ้างอิงอภินิหารจากโลกที่มองไม่เห็น...เป็นโลกของเทพแต่มีโรงเรียนหรือสถาบันฝึกฝนการยกระดับความเป็นเทพที่ไม่มีใครสามารถไปถึง โดยมีเงื่อนไขการเข้าโรงเรียนเทพ(คล้ายกับโรงเรียนพ่อมด..แต่ผมอยากให้เป็นแบบวิถีตะวันออก) โรงเรียนเทพขั้นสูง อยู่เหนือยอดหิมพานต์(ภูเขาหิมาลัย) 1 แห่ง...อยู่ที่สามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า 1 แห่ง (มีแต่สุดยอดเทพเท่านั้นที่ได้ไป...อิอิ)

ส่วนโรงเรียนเทพขั้นต้น อยู่ที่เหนือยอดเขาอินทนน 1 แห่ง...ที่วังคำชะโนด 1 แห่ง... อยู่ที่แถบถ้ำลิเจีย 1 แห่ง...และที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้(ต้องให้พระอาจารย์เลือกดูที่ตั้งอันมหัศจรรย์...เพราะผมไม่คุ้นชินกับพื้นที่เลยครับ) 

สัตว์ในเทพนิยายผมเก็บข้อมูลมาจากอาจารย์ณัฐภัทร  จันทวิช ดังนี้

กิเลน(ไทย)

กิเลนจีน

กิเลนปีก

กิหมี

กบิลปักษา

กรินทรปักษา

กาฬสีหะ

การวิก

กุมภีนิมิต

เกสรสิงหะ

ไกรสรนาคา

ไกรสรปักษา

ไกรสรจำแลง

ไกรสรคาวี

ไกรสรราชสีห์

วิทยาธร

ครุฑ

กินนร

คชสีห์

หงส์

นาคา

ทักกะทอ

นรสิงห์

เหม

แค่จินตนาการรูปร่างและคุณสมบัติ

สัตว์ในเทพนิยายของอาจารย์ณัฐภัทร  จันทวิช ก็คงชวนให้พระอาจารย์กับจารย์ทนันปวดหัวแล้วมังครับ...อิอิ

 

ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นจากการปะทะกันของเหล่าเทพ(หรือมารกันแน่) ก็มีปรากฏให้เห็นอยู่เนือง ๆ ...

เช่น การทรงเจ้าเข้าผีต่าง ๆ

      ซือนามิก็เกิดจากปะทะสงครามเทพครั้งใหญ่

       รถแก๊สระเบิดกลางถนนที่สยองขวัญผู้คนไม่มีวันลืม

       เหตุการณ์สำคัญต่าง ๆ ที่รอให้เราเก็บบันทึก วัน เวลา สถานที่ เชื่อมโยงกับนิยาย(โดยแฝงคติธรรมด้วย...)

ผมกะว่าจะเริ่มเรื่องด้วยเหตุการณ์ปัจจุบัน เด็กแว้นกับเด็กสก๊อย...

ที่จริงเป็นการปะทะกันของตัวละครที่ชื่อ แหวน กับ ก้อย ที่มาประลองวิชากันโดยผิดกฏของเทพ(ก็เล่นมาประลองที่ถนนในกรุงนี่นา)  การเรียกชื่อด้วยภาษาเทพทให้เด็กวัยรุ่นที่แข่งรถกันได้ยินซะนี่...เลยเพี้ยนจาก แหวนเป็นแว้น...ก้อยเป็นสก๊อย...55555

 ทางภาคใต้ของให้ตั้งชื่อที่มิใช่ จตุคามรามเทพ...แต่ก็ให้คนอ่านเทียบเคียงได้...เนื่องจากสงครามมหาเทพครั้งล่าสุด(ซึ่งก่อให้เกิดผลกระทบเป็นซือนามิ)...มหาเทพทางภาคใต้เป็นผู้กำชัย จนกระทั่งมีชื่อเสียงสะท้านไปทั้งแผ่นดิน...55555

 

เทพเทวา ทั่วไท้             เทียมทาน

อาสน์สั่นสะเทือนขวัญ    แน่แท้

เมื่อเราร่วมผ่าสวรรค์      ตีแผ่ เพียงพอ

เราสามเพื่อน ผนึก        พี่น้อง ลองแล     

 

เทพสูงสุด น่าจะชื่อ อกนิฎฐเทพ (อะกะนิดถะเทพ)...

  • นะ + กนะ + อิฎฐะ = อกนิฎฐ์

นะ (แปลงเป็น อะ)  = ไม่, หามิได้

นะ                    = น้อยหนึ่ง, นิดหน่อย

อิฎฐะ                  = ต้องการ, ปรารถนา

  • อกนิฎฐ์ = ผู้มีความต้องการนิดหน่อยก็หามิได้, ผู้ไม่มีความต้องการแม้น้อยหนึ่ง

อกนิฎฐ์ เป็นสวรรค์ชั้นพรหมสุทธาวาสระดับสุงสุด (มี ๕ ชั้นคือ อวิหา, อตัปปา, สุทัสสา, สุทัสสี, อกนิฎฐ์)... ซึ่งตามนัยพระพุทธศาสนา ผู้จะเข้าถึงชั้นสุทธาวาสเหล่านี้ได้ จะมีแต่พระอริยเจ้าระดับพระอนาคามีเท่านั้น ท่านเหล่านี้จะพัฒนาตนเองไปจนถึงบรรลุพระอรหันต์แล้วก็นิพพานในที่นี้ชั้นใดชั้นหนึ่ง โดยจะไม่กลับมาอีกแล้ว...

เคยอ่านบทกวีของใครก็จำไม่ได้ทำนองว่า มีความเศร้าโศกอย่างหาที่สุดมิได้ น้ำตาไหลนองจนกลายเป็นทะเล แล้วตนเองก็ลอยอยู่ในทะเลน้ำตา เกือบจะจมทะเลน้ำตาตายแล้ว แต่บังเอิญเทพชั้นอนิฎฐพรหมได้ยื่นมือมาฉุดดึงไว้ ทำให้รอดพ้นมาได้... (สุดยอดการจินตนาการเลย 5 5 5)


จาตุมหาราชิกา แปลว่า แดนเป็นที่อยู่ของท้าวมหาราชทั้งสี่, อาณาจักรของท้าวมหาราช ๔ องค์ คือดินแดนที่จอมเทพ ๔ องค์ผู้รักษาคุ้มครองโลกใน ๔ ทิศ ซึ่งเรียกว่า ท้าวโลกบาล ท้าวจตุโลกบาล หรือ ท้าวจาตุมหาราช ปกครองอยู่องค์ละทิศ

ท้าวจาตุมหาราช ๔ คือ

  1. ท้าวธตรฐ รักษาโลกด้านทิศตะวันออก
  2. ท้าววิรุฬหก รักษาโลกด้านทิศใต้
  3. ท้าววิรูปักษ์ รักษาโลกด้านทิศตะวันตก
  4. ท้าวกุเวร รักษาโลกด้านทิศเหนือ

ท้าวกุเวร มีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า ท้าวเวสวัณ หรือท้าวเวสสุวัณ

  • นมัสการครับ
  • ธะตะรัฏฐะท่านเฝ้า๐.๐บูรพา
    วิรุฬหะกา๐๐""""๐๐๐๐อยู่ใต้
    วิรูปักษ์รักษา๐๐๐๐๐๐ตกซื่อ ก้ำแล
    เวสสุวัณองค์ไท้๐๐๐๐ใฝ่เฝ้า ทิศเหนือ
    .
    เขือเราวานท่านท้าว๐๐จตุรา
    รักษ์อยู่ยังทิศา๐๐๐๐.๐สี่ก้ำ
    บังปัดซึ่งภัยยา๐๐๐๐.๐ผีป่า สางภู
    โลกอยู่เป็นสุขล้ำ๐๐๐๐แต่นี้ ชั่วกัลป์
  • กราบ 3 หนครับ

 

หมายเลขบันทึก: 167818เขียนเมื่อ 28 กุมภาพันธ์ 2008 00:25 น. ()แก้ไขเมื่อ 14 มิถุนายน 2012 21:43 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (11)

P

นายขำ

 

เข้ามาจองที่นั่งฟังนิทาน....

เจริญพร

  • เคยอ่านบทกวีของใครก็จำไม่ได้ทำนองว่า มีความเศร้าโศกอย่างหาที่สุดมิได้ น้ำตาไหลนองจนกลายเป็นทะเล แล้วตนเองก็ลอยอยู่ในทะเลน้ำตา เกือบจะจมทะเลน้ำตาตายแล้ว แต่บังเอิญเทพชั้นอนิฎฐพรหมได้ยื่นมือมาฉุดดึงไว้ ทำให้รอดพ้นมาได้... (สุดยอดการจินตนาการเลย 5 5 5)

 

  • ศรีปราชญ์    ตามตำนานเล่าว่า ศรีปราชญ์ แต่งโคลงถวายสมเด็จพระนารายณ์ฯ หน้าพระที่นั่ง ว่า

 

  • เรียมให้ชลเนตรถ้วม              ถึงพรหม
    พาหมู่สัตว์จ่อมจม              ชีพม้วย
    พระสุเมรุเปื่อยเป็นตม         ทบท่าว ลงนา

สมเด็จพระนารายณ์ฯ  ทรงท้วงว่า ถ้าร้องไห้จนน้ำตาท่วมถึงพรหมโลก สัตวโลกจมน้ำตาย เขาพระสุเมรุเปื่อยยุ่ยเพราะเปียกน้ำตา ถ้าเป็นเช่นที่ว่าแล้ว ศรีปราชญ์จะรอดจาการจมน้ำได้อย่างไร

  •  ศรีปราชญ์ จึงแต่งโคลงตอบสมเด็จพระนารายณ์ฯ  ในบาทถัดไปว่า


    หากอัคษนิฐมหาพรหมฉ้วย  ชีพไว้จึ่งคง

 

ครับ

  • ธุ อาจารย์ค่ะ..

มาอ่านและจินตนาการตามไปด้วยค่ะ  เคยสงสัยความหมายของคำว่า..อกนิฎฐ์ ด้วยค่ะ

ถ้าเช่นนั้น...เรามาประกวดชื่อเรื่องกันเลยดีกว่าครับ...

 

ชื่อ...อกนิฏฐ์...นี่ก็น่าสนใจไม่น้อย

 

ชื่อตัวเอกของเรื่อง...มี...ชื่อเล่นว่า  โป้ง...ชี้....กลาง...นาง....ก้อย...ยังมี...สร้อย...แหวน...

ถ้าโหวดชื่อเรื่องได้...แล้วมีคนเห็นด้วยเกิน 10 คน...ผมจะเลือกชื่อนั้นเลย...ดีป่ะคับ...555

P BM.chaiwut

 เชิญพระอาจารย์ก่อนเลยครับ...

P กวินทรากร

 ชื่ออาจารย์บ่งบอกว่า...การสรรหาชื่อตัวละครและชื่อเรื่อง สำหรับอาจารย์คงง่ายดายดุจพลิกฝ่ามือ...อิอิ

P เนปาลี

ชื่อน้องน่าสนใจ...ถ้าจะเอามาเป็นตัวละคร...จะอนุญาตมั้ยเนี่ย...555

 

P 

ขอบคุณครับที่นำไปเป็นตัวอย่าง....
พระอาจารย์P BM.chaiwut ครับ  ตอนนี้ผมเริ่มหาเวลาแต่งแล้วครับ...
ลองเอามาลงให้ดูก่อนไปเปิดบล็อกเรื่องนี้จริง ๆ...

 

แหวน  เด็กสาวหน้าตาดี กำลังมุ่งหน้าสู่กรุงเทพฯ ด้วยรถไฟด่วนพิเศษสปริ้นเตอร์...  เชียงใหม่-กรุงเทพฯ

เปรี้ยง... เสียงกระสุนปืนวิ่งผ่านกระจกที่แตกกระจาย ทั้งกระสุนและกระจกพุ่งหาแหวนราวกับห่าฝนที่แหลมคมรุนแรง ชายที่นั่งคู่กับแหวนมาตาเหลือกแทบช็อค เมื่อถูกกระจกพุ่งเสียบใบหน้าด้านขวาหลายจุด... อาการเคลิบเคลิ้มหลังจากพูดคุยกับแหวนตั้งแต่ขึ้นรถไฟที่เชียงใหม่จนถึงพิษณุโลก กระเจิดกระเจิงหายไปสิ้น...พร้อมกับยกมือกุมหน้าด้วยความเจ็บปวดตามสัญชาตญาณ...โชคดีที่เขามีปฏิกิริยารวดเร็วยกแขนขวาบังใบหน้าส่วนที่เป็นดวงตาไว้ได้อย่างเหลือเชื่อ... แม้จะคาอการณ์ไว้ล่วงหน้าบ้างแล้ว  กระนั้นเขายังตระหนกกับเหตุการณ์ครั้งนี้ไม่น้อย

ที่น่าตกใจยิ่งกว่าคือแหวนหายไปจากที่นั่งของเธอตั้งแต่เมื่อใด เขาไม่ทันสังเกตเห็น... เมื่อมองออกไปนอกหน้าต่างที่แตกกระจาย เขาเห็นชายสองคนที่แต่งกายชุดดำนอนฟุบอยู่บนพื้น...และ...เห็นแหวน... เธอยืนอยู่ข้างชายทั้งคู่ที่นอนแน่นนิ่ง  เธอเหลือบมองชายสองคนคล้ายสังเกตว่า เขาตายสนิทกันหมดหรือยัง... แล้วเธอก็เดินไปด้านหน้าสถานีรถไฟ......นี่อาจไม่เรียกว่าเดิน เพราะอาการเคลื่อนไหวของเธอรวดเร็วพิสดารเกินกว่าจะเรียกว่าเดินได้...

 

แหวนรอผมด้วยชายหนุ่มตะโกนเรียกพร้อมโดดลงจากหน้าต่างรถไฟ วิ่งตามไปอย่างรวดเร็ว

ผู้โดยสารรถไฟส่วนใหญ่สะดุ้งตื่นหลังจากทั้งสองจากไปแล้ว...เวลาตีสองกว่า ๆ เช่นนี้คนบนรถไฟและชานชาลาส่วนใหญ่ไม่หลับใหลก็เคลิบเคลิ้มสลึมสลือกันแล้ว มีเพียงผู้โดยสารที่เตรียมขึ้นลง ต่างตื่นตะลึงและส่งเสียงเรียกความโกลาหลกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น...เสียงจอกแจกจอแจตามมาพร้อมกับตำรวจรถไฟที่เข้ามาควบคุมสถานการณ์

 

ผมจะหารถให้นะ  ชายหนุ่มวิ่งตามจนทันแหวน ซึ่งปราศจากริ้วรอยของบาดแผลใด ๆ ขอเวลาทำแผลสิบนาที  ชายหนุ่มจูงมือแหวน เดินไปที่โรงพักที่อยู่ไม่ห่างจากสถานีรถไฟนัก

แหวนยอมทำตามคล้ายกับรู้สึกเห็นใจนายตำรวจหนุ่มที่ได้รับบาดเจ็บ เพราะเธอ...  ผู้กองเอก เดินขึ้นไปบนโรงพัก ปล่อยให้แหวนนั่งรอที่เก้าอี้ห้องแจ้งความ โดยไม่ได้พูดอะไร ยังความงุนงงให้สิบเวรร้อยเวร ที่มองเธอแล้วได้แต่ซุบซิบกัน

 

สิบนาที...เป็นสิบนาทีที่ผู้กองเอกไม่เคยผิดคำพูดเหมือนทุกครั้ง  เขาเดินลงมาจากชั้นบนด้วยผ้าพันแผลปิดหน้าและท่อนแขนหลายแห่ง สีหน้าไม่มีความวิตกอันใด

ครับเดี๋ยวผมจัดการให้ สารวัตรหนุ่มประจำสถานีตำรวจแห่งนี้ กล่าวด้วยความนอบน้อมกับผู้กองเอก แม้จะมียศสูงกว่า...ทำเอาสิบเวรร้อยเวรยิ่งงุนงงหนักเข้าไปอีก...

 

คุณไม่ควรตามมาเลยนะคะผู้กอง เสียงกังวานสดใสของแหวนที่เอ่ยเป็นครั้งแรกหลังจากเหตุการณ์น่าตระหนกที่เกิดขึ้นรวดเร็ว เหมือนไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้นมาก่อน...

มันเป็นหน้าที่ของผมอยู่แล้วครับ ผู้กองหนุ่มบอกพร้อมกับคิดถึงคำสั่งจากเจ้านาย ที่กำชับให้เคลียร์เรื่องราวที่เกิดขึ้นกับแหวน ไม่ให้เป็นข่าวที่คนทั่วไปสงสัยความเหนือมนุษย์ของเธออย่างเด็ดขาด

ข่าวหน้าหนังสือพิมพ์วันรุ่งขึ้นจะเป็นข่าวแก๊งค์ค้ายาฆ่ากันตาย...หรือวิสามัญฆาตรกรรมใด ๆ ย่อมไม่เกี่ยวกับเธออย่างแน่นอน...

 

ผู้กองเอก...ร้อยตำรวจเอกกฤษณ์  อาทิตย์วงษ์  นึกย้อนหลังไปเมื่อเริ่มทำหน้าที่ตำรวจเต็มตัวครั้งแรก หลังจากจบการฝึกครั้งสุดท้ายในโรงเรียนนายร้อยตำรวจสามพราน...เขารอดตายอย่างมหัศจรรย์จากการระดมยิงของแก๊งค์ค้ายาที่หลายคนคิดว่าเป็นมาตรการฆ่าตัดตอน  ของรัฐบาลยุคนั้น เจ้านาย ได้เลือกผู้กองเอเข้าทีมงานหน่วยสืบสวนเหนือมนุษย์  โดยไม่ลังเลแม้แต่น้อย...

เขาถูกเรียกให้ไปปฏิบัติการที่จังหวัดพังงาก่อนเกิดเหตุการณ์คลื่นยักษ์ซือนามิ วันเสาร์ที่ 25 ธัวาคม 2547 ....

 

 

พระอาจารย์ครับ...ผมมีคำถามดังต่อไปนี้ครับ

 

1.ปุถุชนคนธรรมดาสามัญ...ควรถูกชาวเทพเรียกว่าอะไรดี(เช่นผู้วิเศษพ่อมดแม่มดเรียกคนว่า มักเกิ้ล)

2.กึ่งคนกึ่งเทพ...ควรเรียกว่าอะไร(กลางวันเป็นคนธรรมดา...กลางคืนมีฤทธิ์)

3.เชื้อสายเทพบริสุทธิ์...ควรเรียกว่าอะไร(ไม่มีชื่อ...ทะเบียนบ้าน...บัตรประจำตัว...และไม่มีใครเคยเห็นจริงๆ...555)

 

 

 

P

นายขำ

 

อ่านๆ ไป ก็นึกชมอยู่ในใจ และก็คิดว่า ท่านเลขาฯ มีแววที่จะลาออกแล้วมาเขียนนิยายออนไลน์แทนได้เลย....

แต่เมื่อโดนคำถาม สะอึก เลย เพราะตอบไม่ได้แม้แต่คำถามเดียว... (นินทาหน่อยว่า คำถามลอกเลียนมาจากโครงสร้างเรื่อง แฮรี ฟอตเตอร์ ทั้งดุ้นเลย.. 5 5 5)

วรรณคดีทางพระพุทธศาสนา ตามที่เจอๆ มา ไม่มีกรอบความคิดทำนองนี้ จึงตอบไม่ได้... และวรรณคดีทางศาสนาฮินดูที่เคยผ่านมาบ้าง แม้จะมีเรื่องเทพปกรณัม แต่ก็ไม่ได้เน้นการแบ่งแยกทำนองนี้ เหมือนกัน....

ดังนั้น ท่านเลขาฯ ต้องรับสมัครที่ปรึกษาเพิ่มด้านเทพปกรณมัม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ต้องเคยผ่านงานด้าน เทพปกรณัมเปรียบเทียบระหว่างตะวันตกกับตะวันออก....

หรือ ท่านเลขาฯ ว่าไปเองเลย เพราะเป็นนิยาย มิใช่เรื่องจริง
...

เจริญพร

นอกจากไม่ตอบแล้วยังนินทาด้วย...555

ที่จริงผมเคยลองเขียนเรื่องราวประเภทนี้มานานมากแล้ว(ก่อนที่จะมีเรื่องแฮรี่ พอตเตอร์ด้วยซ้ำ) ผมเขียนเรื่อง "ร่างทรงเทพเจ้า" ไว้ตอนหนึ่ง(และตั้งใจว่าจะเป็นตอนที่เกี่ยวข้องกับตัวเอกของเรื่องในครั้งนี้ด้วย...อิอิ)...แปลงจากประสบการณ์ตรงของผมเองเลยนะครับ... เพราะพี่สาวผมเขาเป็นร่างทรงเทพหลายองค์...มีการท้าทายถึงขั้นเชิญเทพบนฟ้าทั้งหมดมาถล่มผมเลยเชียว...เสียดาย...ผมไม่กลัวและก็ยังไม่เคยมีเทพองค์ใดมาเกี่ยวข้องกับผมเลย(พี่เขาหาว่าที่ผมไม่กลัวเพราะมีองค์เทพที่ยิ่งใหญ่ปกปักรักษาผมอยู่...555555)

ที่จริงผมตั้งโครงเรื่องไว้ในใจนานแล้ว...ตอนต่อ ๆ ไปพระอาจารย์จะเห็นว่าผมอ้างอิงเรื่องราวจากนิยายกำลังภายในมากกว่า(ก็ผมแฟนพันธ์แท้โกวเล้งนี่ครับ...อิอิ)

แต่โครงเรื่องของผมจะเชื่อมโยงความเชื่อแบบไทย ๆ มากกว่า...เช่น พญานาคจาก 15 ค่ำ เดือน 11... อภินิหารจากวังคำชะโนด...เป็นต้น

 

ส่วนโคลงสี่...จะลองเริ่มเร็วๆ นี้...อาจารย์ทนันรายงานตัวด่วน...อิอิ

  • ธุค่ะ..

มานั่งตาโต อ่านนิทาน อิอิ.. และชื่อ "เนปาลี"  ด้วยความยินดีค่ะ (( จริงๆ แล้วก็ไปเจอจากที่อื่นมาน่ะค่ะ  และชอบมากกับความเป็น "เนปาลี" เลยหยิบมาใช้ อิอิ ))

แล้วจะเข้ามาอ่านนิทานบ่อยๆ นะคะ  อนุญาติ tag ด้วยค่ะ

เดือนที่ผ่านมา...ผมหาเวลานั่งอ่านหนังสือเกี่ยวกับเทพ(พี่สาวผมเป็นเครือข่ายคนทรงเทพเจ้าซึ่งเหตุการณ์ที่ผมปะทะกับคนทรงเจ้าจะมีอยู่ในเรื่องนี้ด้วย...อิอิ) ที่กลุ่มคนทรงเจ้านิยมมีไว้อ่านกันมากที่สุดคือ"สวรรค์สะเทือน"

 

เนื้อหากล่าวถึง เทพล้วน ๆ ... เป็นความเชื่อก่อนเกิดศาสนาพุทธ...และเข้ามาสู่ประเทศไทยก่อนพุทธศาสนาด้วยซ้ำ...พออ่านแล้วก็ทำให้ผมเปิดใจกว้างขึ้น(สมัยวัยรุ่นผมเห็นว่าเป็นเรื่องเหลวไหลจริง ๆ) คนที่เขาไม่มีความเชื่อแบบเราไม่ได้เป็นคนผิดหรือเลวร้ายเสมอไป...

 

เรื่องราวของเทพในโลกตะวันออกเรา คนส่วนใหญ่เชื่อว่า...พระอิศวร...คือเทพองค์แรกที่เกิดขึ้น...แต่ก็ยังมีเทพบิดร...หนังสือเขาก็ยังบอกรายละเอียดความเชื่อที่แตกต่างกันด้วย...จึงไม่แปลกถ้ามีคนจะพยายามจัดความเชื่อเข้าไปใหม่...โดยเชื่อมโยงกับการที่เหล่าเทพเทวาทั้งหลาย...ยังต้องให้ความเคารพกราบไหว้พุทธองค์... แม้ในเทพนิยายจะกล่าวว่า...ส่งเทพมาเกิดเพื่อสะสมบารมีจนบรรลุธรรม(ตามผนังโบสถ์หลายแห่งมีภาพวาด...555)...

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท