Episode 14: Trip 2008/1 โดนสาวรุมที่บ้านริมธาร

ต่อจาก Blog ที่แล้วนะครับ

รถ Toyota สองคันที่นำพาคณะทั้ง 8 คนเดินทางมาเมืองกาญจน์เที่ยวนี้ เป็น รถที่เหมาะแก่การท่องเที่ยวเสียเหลือเกิน

ทั้ง Fortuner และ Estima สองคันนี้ก็พาคณะทั้งหมดไปถึงที่หมายได้สบายๆ

Estima ตัวนี้ดูสวยดีครับ ทั้งภายนอกและภายใน หลังคากระจกด้านหน้าที่ออกแบบทอดยาวมาด้านหลัง ทำให้ทัศวิสัยเวลาขับขี่ดูโปร่ง โล่งสบาย ชื่นชมกับทิวทัศน์ และ ท้องฟ้าได้ในเวลาเดียวกัน...

แค่ขึ้นรถก็เท่ห์แล้วครับ เพราะไม่ต้องกดอะไร แค่เดินเข้ามาใกล้ เครื่องก็จะเตรียมพร้อมต้อนรับเจ้าของแล้วครับ จะเปิดประตู หรือ start เครื่อง ทำได้หมด ขอเพียงพกกุญแจมาด้วยเท่านั้นแหล่ะ

ผมเองได้รับมอบหมายให้ควบเจ้า Fortuner ไปที่หมาย ซึ่งไม่เคยไปเหมือนกันครับ เลยใช้ Navigator ตัวรถไม่มีมาด้วยหรอกครับ ผมก็ย้ายเอาชุดในรถผมไปติดไว้ แค่นี้คิดว่าไม่มีคำว่าหลงแล้วล่ะครับ

ที่ไหนได้จุดหมายปลายทางคือ "บ้านป่าริมธาร" ดันไม่มีใน Garmin ของผมซะนี่ เลยต้องใช้ที่อยุ่ของ "โรงแรม กาสะลอง Resort " ซึ่งอยู่ที่เดียวกันมาเป็นตัวนำทาง ทีนี้ก็เรียบร้อยจริงๆ

...

การเดินทางไม่ได้รวดเดียวครับ มีแวะสองที่ ที่แรกก็มานัดเจอกันก่อนที่ร้านบุญถาวรสายสาม และ ทานข้าวเช้ากันที่ โรงงานวุ้นเส้นท่าเรือ "ตราสิงโต" (GPS N 13 58.389 E099 40.510 H+27)

 

ใครผ่านเส้นไปเมืองกาญจน์ แวะมาที่นี่ก็ได้ครับ เพราะสถานที่ใช้ได้ครับ มีทั้งศูนย์อาหาร ห้องน้ำสะอาด และ ของฝาก ซึ่ง ไม่ควรพลาดการซื้อ วุ้นเส้น กลับบ้านนะครับ เพราะที่นี่ของเค้าดีจริง

...

ขับสบายๆ ก็มาถึงแล้ว "บ้านป่าริมธาร" (GPS N 14 10.457 E099 15.918 H +48) ที่นี่เป็น โครงการจัดสรรที่ดิน ที่แบ่งขาย และ ให้ เจ้าของปลูกบ้านกันเอง โดยบ้านที่มาปลูกกันที่นี่จะดูคล้ายๆ กันหมดครับเพราะเป็นบ้านแบบ ตากอากาศ แต่ละบ้านจะมีบริเวณ กว้างขวาง และ เต็มไปด้วยต้นไม้ แน่นอนครับ อากาศดีแน่ๆ เพราะ มี Oxygen เต็มไปหมด ไม่มีรั้ว ระหว่างบ้าน ให้เสียภูมิทัศน์ครับ

ผมเอา Notebook ติดมาด้วย นั่งทำงานที่นี่ บรรยากาศช่วยสร้าง idea ได้ดีทีเดียวครับ....แต่มันขี้เกียจเกินกว่าจะทำงานนะซิครับ

ช่วงเครียดๆ ได้แว๊ป หลบมาพักอย่างนี้บ้าง ก็ดีเหมือนกันครับ

....

ตัวบ้านเป็นแบบ Log cabin ปลูกเป็นสองชั้นครับ โดยมีห้องนอนใหญ่ชั้นบนหนึ่ง และ ห้องนอนเล็ก อีกสอง ข้างล่าง ห้องน้ำมีสอง ครับ บนกับล่าง ห้องครัวขนาดพอดีๆ ทำอาอาหารแนว ง่ายๆ ได้ แต่ไม่เน้นครัวไทยครับ เพราะ กลิ่นอาจระบายออกไม่ทัน

 

งานสร้างใช้ ปูน หิน ผสม ไม้ ต่อออกมาเป็นตัวบ้าน ผมนึกๆ ถึงบ้านใน นิทานครับ เพราะ บ้านดูน่ารักดี ภายในบ้านจะอุ่นๆ ในขณะที่ข้างนอกอากาศเย็น พออากาศข้างนอกร้อน ข้างในก็จะเย็นสบาย... ตอนที่พวกผมมาถึงเป็นตอนบ่าย ข้างนอกประมาณสามสิบองศา พอเข้ามาในบ้าน โอ้ว ...เย็นสบายดีจริงครับ

สโมสรส่วนกลางดูไม่เห็นมีอะไรครับ ที่ชัดๆ ก็มี สระว่ายน้ำสวย ซึ่งน้ำใสมากครับ แอบลงไปเล่นอยู่เหมือนกัน น้ำงี้เย็นเจี๊ยบ... ถึงแม้จะว่ายอยู่กลางแดด

เจ้าของบ้านเป็นเพื่อนพี่หนิงครับ ใจดี๊ดี ให้ เพื่อนๆ มาพักกัน แถมในบ้านก็มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกไว้ครบ ทั้ง หนังสือ DVD เกมส์ ทีวี เครื่องเล่น DVD มีแม้กระทั่ง VCR ซึ่ง ใครใคร่ทำอะไรทำได้ตามสบาย

สาวๆ มากันอย่างนี้ก็ไม่พ้นทำกับข้าวน่ะครับ เพราะในครัวก็มี อาวุธยุทโธปกรณ์เยอะครับ พี่อัจรับหน้าที่ Chef ใหญ่เข้าสูตรทำไปบ่นไปเหมือนกัน เพราะ ครัวมันออกแนวฝรั่งครับ พี่เค้าจะเน้นอาหารไทย ไฟมันเลยไม่แรงพอ

เติมไฟในตัวแม่ครัวไปแทน ก็น่าจะได้นะครับงานนี้...

ขนาดผักบุ้งไฟไม่แดงขนาดนี้ สมาชิกยังทานกันซะพุงกางเลยครับ

...

งานนี้พักผ่อนเป็นหลักครับ กิจกรรมก็มี กิน ดื่ม Chat เล่นโยคะ เสริมสวย นี่ถ้ามีไพ่ สงสัยได้เล่นกันด้วยเหมือนกัน

พี่หุยนี่มืออาชีพครับ หิ้ว Wine มาสี่ขวด แต่สาวๆ ทานกันน้อยครับ เลยพิฆาต Penfolds Bin 389 Cabernet Shiraz (Sounth Australia 2003) กับ เจ้า Monkey Puzzle (Chardonnay/Sauvignon Blanc) ไปแค่สองขวด แค่นี้ก็ตึงๆ กันแล้ว

พอทานกันเสร็จ ก็เสริมสวยกันซิครับ สารพัดสูตรนวดหน้า โดยมีพี่ปุ๊ก กับพี่หนิง เป็น ปรมาจารย์ ในการเสกหน้า ให้เด้งกัน

ผมเองซัด wine ซะเมา แถมมีสาวล้อมอยู่ 7 คน อย่างนี้จะเหลืออะไร...

เรียบร้อยครับ ....

โดนสาวๆ รุมครับ...

จับผมทำหน้าเด้ง ซะหลับคาเตียงไปเลย

บอกแล้วมากับสาวๆตั้งหลายคนอย่างนี้ จะเหลืออะไร

...

 

ขอบคุณพี่ๆ ที่ชวนนะครับ แถม sponsor ให้อีกต่างหาก เที่ยวกัน เปรมขนาดนี้ เก็บตังส์ผมแค่ 320 บาท

จะหาได้ที่ไหนอีกเนี่ยยยยยย