สามวันในมาเก๊าที่ลืมไม่ลง

ฟ้าครับ

ตอนที่บอกว่าจะไปธุระเรื่องงานที่มาเก๊า เป็นการให้คำปรึกษาแก่องค์กรปกครองส่วนภูมิภาคของเขา คุณย่า (ผู้เสียสละ) ของฟ้าถามว่า ไปคาสิโนใช่หรือเปล่า เรื่องงานอย่างอื่นที่มาเก๊าไม่น่าจะมี

พยายามจะบอกว่า ของดี ๆ ในมาเก๊านอกจากการพนัน ก็มีอีกมาก แต่เพราะตัวเองก็ยังไม่เคยไป จึงได้แต่เงียบ ๆ

เครื่องบินลงที่สนามบินนานาชาติฮ่องกง นั่งเรือเฟอร์รี่ความเร็วสูง （TurboJet) ไปอีกเกือบ ๆ ชั่วโมง มาเก๊าในยามย่ำสนธยาเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยแสงสี แต่ละตึก แต่ละซอกมุม หนีไม่พ้นแสงนีออนจากอาคาร โรงแรม และบ่อนคาสิโน

มาเก๊าก็คือจีนผสมโปรตุเกส วัฒนธรรมลูกผสมที่มีอายุยาวนานสี่ร้อยกว่าปีทำให้มาเก๊ามีสีสันเฉพาะตัว ที่ไม่ซ้ำแบบใคร ดูแค่อาหารเย็นมื้อแรก "ไก่อัฟริกัน" ก็ว่ากันว่าชาวโปรตุเกสคิดขึ้นระหว่างที่เดินเรือรอนแรม อ้อมแหลมกู๊ดโฮปมายังเอเซียตะวันออก ได้เครื่องเทศแปลก ๆ และวิธีปรุงจากทวีปอัฟริกา คิดออกมาเป็นสูตรอาหารชนิดนี้ ต้องขอบอกว่ารสชาติถึงเครื่องเทศ น่าจะถูกปากคนไทยมาก ๆ เพราะเผ็ด ร้านที่ไปกินชื่อ Fat Siu Lau เขาว่าตั้งเมื่อปี ค.ศ. １９０３ ถ้าฟ้าอยากดูอาหารแนะนำอย่างอื่นเข้าไปได้ที่นี่ครับ http://www.fatsiulau.com.mo/cuisine.html

อีกรายการที่ไม่น่าพลาดคือ ร้านขนมนามว่า Lord Stow's Garden Cafe มี Egg Tart ที่อร่อยที่สุดในโลก ดูในรูปทางขวาล่างได้ สำหรับคนที่ไม่ค่อยสนใจของหวานนักอย่างผม ยังทึ่งในความหอม รสชาติก็นุ่มหวาน ได้ข่าวว่า KFC ที่ฮ่องกงลอกสูตรไปทำขายแต่ไม่อร่อยเท่า ที่มาเก๊าร้านนี้มีสาขาอยู่สองสามแห่งเท่านั้น ลองไปดู

ช่วงที่ไปเป็นหลังเทศกาลตรุษจีนพอดี โคมแดงประดับเต็มเมือง นอกจากสถานที่ท่องเที่ยวที่ผู้มาเยือนมักไปดูตามสูตร เช่น ซากโบสถ์เซนต์ปอล (ที่ทางเข้าเขียนว่ามาแตร์ เดอี ชัดเจน)  วัดอาม่า (ที่มาของชื่อมาเก๊า) จตุรัสเซนาโ้ด้ และพิพิธภัณฑ์มาเก๊าแล้ว อย่าลืมแวะไปที่ที่ทำการไปรษณีย์ของเขา คนมาเก๊าที่พาไปบอกว่า ผู้บริหารที่นี่เป็นพวกนิยมความสมบูรณ์แบบ และลงทุนคิดจริง ทำจริง ทำให้สแตมป์แต่ะละชุดที่ออกมามีคอนเซปท์ การออกแบบ และการนำเสนอที่น่าสนใจมาก ผมไม่ได้ตั้งใจยังอดซื้อมาสองสามชุดไม่ได้ มีชุดไซอิ๋ว ชุดอาีชีพของคนมาเก๊าในสมัยโบราณ
และชุดวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี ไม่พลาดครับ

ชาวมาเก๊าในเวลานี้พึ่งอุตสาหกรรมคาสิโนเต็มที่ ขนาดมหาวิทยาลัยยังเปิดหลักสูตรสอนเรื่องนี้ (คล้ายบ้านเราที่สอนการโรงแรม) เทคโนโลยีีที่เน้นก็เป็นเรื่องของไอที กับเทคโนโลยีสำหรับอุตสาหกรรมการพนัน แต่เขาใช้คำว่า gaming industry  ก็เลยฟังดูน่ารักขึ้นเยอะ ปัญหาที่ชาวมาเก๊าัยังหนักอกคือ ความหนาแน่นของประชากรทำให้สภาพแวดล้อมเสื่อมโทรม บริการทางการแพทย์ที่คุณภาพต่ำ และความไม่แน่นอนที่อาจมาจากนโยบายของยักษ์ใหญ่จีนและฮ่องกง (จะเกิดอะไรขึ้นถ้าฮ่องกงเปิดเสรีบ่อนการพนันขึ้นบ้าง)

การเมืองของเขาก็มีคอร์รัปชั่น เมื่อวันก่อนรัฐมนตรีคนหนึ่งก็เพิ่งถูกตัดสินจำคุก 27 ปี ข้อหาฉ้อราษฎร์บังหลวง แสดงว่ากฎหมายก็เข้มเอาเรื่องเหมือนกัน