กริยาที่คนไทยไม่รู้


come out of , come up to, come upon คืออะไร

หลายปีก่อน ตอนที่ทำthesis บางหน้าผมต้องแก้ถึงสิบเอ็ดถึงสิบสองรอบ บางจุดอาจารย์ฝรั่งจะขีดเส้นใต้แล้วไม่บอกอะไร โดยเฉพาะกริยา ผมก็ไปคิดว่าจะลืมเติม s  ed หรือ ing หรือเปล่าน้อ แต่มันก็ไม่ใช่ พออาจารย์ บอกก็จับทางได้ว่า อ่อ ลืม หรือไม่คุ้นหว่า เพราะเป็นคนไทย เราจะคิดว่า กริยานี่มันมีตัวเดียวตลอด เช่น go  see  walk  แต่ของฝรั่ง จะมีกริยาบางพวก (ส่วนมากด้วย) ตามด้วย preposition  เมื่อถามนักเรียนบางคน ว่า นักเรียน คำว่า  'ลอง'  English เขาspeak อย่างไร นักเรียนชอบตอบว่า test it ไม่มีใครใช้ try on it (สงสัย คิดว่า try แปลว่าพยายาม)  นี่นี่เป็นซะอย่างนี้  ตอนเขียน thesis  บางตัวมันยาก (academics) ไม่ใช่ อย่าง put on หรือ  take off  อะสิ เช่น adjacent to ใครจะรู้ว่าต้องเป็น to ถ้าเปิด dict ก็หายากมาก เพราะต้องดูประโยคตัวอย่าง จึงมักจะเสี่ยงเดาไปเลย ให้โดนว่าหรือหน้าแตก เพราะสุดท้ายอาจารย์ก็ต้องบอก ขนาด constrast คำง่ายๆ ก็ปวดหัวว่า ว่าจะตามด้วย in หรือ to หว่าตรงนี้ (เพราะ ตามได้ทั้งสองอย่าง ) ที่น่าทึ่งมากคือคำว่า to come up with เอาซะเต็มที่นะ ทั้ง up ทั้ง with แต่มีวันหนึ่ง ประหลาดใจมาก ไปหน้า ม. กรุงเทพๆ มีชายแก่กองหนังสือขายอยู่ แต่ละเล่มเก่ามาก เหมือนเทวดาคงสงสาร เห็นหนังสือ ที่ชื่อว่า  A Grossary of Pharses with Prepositions ของ THOMAS LEE CROWELL เปิดดูใช่เลยมีทุกคำที่เป็น กริยาตั้งแต่ง่ายไปจนระดับสูง ที่เป็นกลุ่มเฉพาะตามด้วย prepositions ที่น่าตกใจคือซื้อมาราคา 5 บาท ไม่เคยซื้อเล่มไหนคุ้มเท่านี้มาก่อนเลย55

คำสำคัญ (Tags): #verbs
หมายเลขบันทึก: 166987เขียนเมื่อ 23 กุมภาพันธ์ 2008 20:09 น. ()แก้ไขเมื่อ 17 มิถุนายน 2012 17:24 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (17)

ว้าว...ว้าว...กลับมาพร้อมกับเรื่องข้อความรู้ที่โดนใจเหมือนเดิมนะคะ

หายไปนานครับ อาจารย์สบายดีนะครับ ตอนแรกว่าจะเขียนเกี่ยวกับ Youtube.com ในการเรียนภาษาเพราะ site ที่ ทำได้หลายอย่าง และเป็นอะไร ที่ interactive มากแต่ ก็ยังไม่เข้าใจการใช้บางจุด คงต้องเป็นครั้งหน้าครับ

 

สวัสดีครับ

พักหลังถ้าเีขียนอังกฤษ ผมอาศัยครูกูเกิ้ลเหมือนกัน

ใส่ทั้งประโยคไปเลย ดูสิว่า คนอื่นเขาใช้เหมือนหรือใกล้เคียงไหม

ก็พอไหวนะครับ ;)

ฝากไว้คำหนึ่ง

to zero in on

P 3. वीर

ตอบ คุณวีร์

ไปดูช็อกโกแลตยังครับ ดูแปล sub Eng สิครับ ถ้าไม่เยอะและใช้ได้ดี ก็มีอยู่เท่านั้นครับ เป็นภาษาที่สื่อสารได้แบบ straight forward พวกนี้เป็นภาษาที่ฝรั่งใช้กัน ถ้าดูในวรรณกรรมจะเยอะครับ  font เท่ห์ครับ

ตอบ อาจารย์ ธวัชชัย

ผมเคยได้ยินว่า มี free revision ครับ ฝรั่งแก้ฟรี(งานเขียน) แต่ไม่เคยลอง       ใช้ google อาจมีปัญหา consistency ของการเขียนหรือเปล่าครับ ไม่แน่ใจ คือมันอาจจะ ทางการมากไปหรือไม่ทางการเลย แต่ idea อาจารย์นี่ดีครับ

'to zero in on'

to fix all your attention on the person or thing mentioned.

I zero in on the issues that  you have questioned me.

อ่านพบ  to come out for--สนับสนุนค่ะ

The political  party leader  came out for his candidates on the lection.

to come out  with ---เสนอ/ตีพิมพ์ /ออกสู่ตลาด

 

ตอบพี่ Sasinanda

to come out for ถ้าไม่รู้มาก่อนว่าแปลว่าสนับสนุนผมคง แปลว่าออกมาเพื่อ......... แหงครับ

เคยถามเพื่อนว่าเรียนภาษาจีนยากเปล่า เพื่อนบอกว่าง่ายเดี๋ยวกูพูดได้. ผมบอกว่าอยากอ่าน Tao Te Ching เพื่อนบอกสัก 20 ปีแล้วกัน :-P.

  • สวัสดึค่ะ เป็นสมาชิกใหม่ชื่อพี่อักษรค่ะ
  • เห็นด้วยค่ะว่าเรื่อง phrasal verbs เป็นเรื่องยากเพราะ เมื่อ verbs มารวมกับ prepositions เป็น phrasal verbs แล้ว บางคำมีความหมายเปลี่ยนไปจากคำแต่ละคำเดี่ยว ๆ
  • และสาเหตุที่ทำให้ภาษาอังกฤษเป็นเรื่องยากสำหรับพวกเราก็คือในภาษาพูดเต็มไปด้วย phrasal verbs พวกนี้
  • วันก่อนดูทีวีซิทคอมของอเมริกา ได้ยินใช้คำว่า pissed off หลายครั้งทีเดียว เช่น I was really pissed off ( ฉันโมโหหงุดหงิด จริง ๆ เลยนะเนี่ย ) หรือมักจะได้ยินคนหนึ่งพูดกับอีกคนหนึ่งด้วยสีหน้าโมโหว่า " Piss off" (ไปให้พ้น) แต่คำพวกนี้ไม่สุภาพนะคะ ถ้าไม่โมโหจริง ๆ ก็อย่าเอาไปใช้เลยนะ ใช้แค่ I"m so mad ก็พอค่ะ

P

ตอบ คุณ  V
อยากบอกคนที่เรียนภาษาจีนคือเรียนไม่เป็น จะใช้เวลานานมาก เราควร เรียนแบบสนทนากับคนจีนโดยตรงเลย เอาให้สื่อสารกันได้ก่อนค่อยมาเรียนอ่านเขียนครับ ปัญหาการเรียนภาษาจีนคือเรียนกับอาจารย์ไทยแล้วพูดภาษาไทยในชั้นเรียน

มาเรียนก็มาอ่านแต่ละบทแล้วก็ไป เรียน20 ปีก็เรียนไม่ได้ครับ

P 11. พี่อักษร ทับแก้ว

ตอบ พี่อักษร

piss ไม่มี off ถ้าเป็น slang จะขำมากเพราะมันคือ pee ครับ เปิด dict เขาบอกว่า piss off อีกความหมายหนึ่งนอกจาก to make sb annoyed คือ get away ครับ ผม อยากติด UBC เหมือนกัน แต่คิดว่าไม่ค่อยมีเวลา จึงดูทุกอย่างทั้งบันเทิงข่าว เรื่องไร้สาระ มีสาระ ผ่่่าน youtube ครับ ดีใจที่ได้รู้จัก N2MU

 

ประมาณ Dào Dé Jīng มันต่างจากบทสนทนาเยอะหน่อย :-)

เรื่องภาษาจีน เป็นอย่างที่คุณฉัตรชัยบอกค่ะ ว่าต้องเรียนพูดก่อน ให้สื่อสารกันได้ก่อน แล้วค่อยเรียนเขียน

พอดีลูกชาย แต่ก่อนทำงานที่ฮ่องกง2 ปี เวลาอยู่ในอ็อฟฟิต พูดอังกฤษ ออกมาข้างนอกหัดพูดจีน พี่ไปหาเขา งงเลย พูดจีนรู้เรื่องสบายเลย พอไปอยู่เซี่ยงไฮ้อีก6เดือน ก็คล่องขึ้น คือเวลาไปจีน ไม่ลำบากเลย

เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว ไปFortune Town กัน คนขายพูดกันให้บอกราคาผ่านๆ เขาก็พูดต่อราคาเป็นภาษาจีน เลยได้ลดพิเศษ

เรื่องภาษานี่ ต้องพูดกับคนชาตินั้นๆ จริงๆ จะเป็นเร็วค่ะ

และก็พอดีมีBossเป็ชาวฝรั่งเศส พากันไปฝรั่งเศส อีกเป็นเดือน ก็ได้ภาษาฝรั่งเศสอีกหน่อย เพราะBoss ไม่ยอมพุดภาษาอื่นด้วยเวลานอกงาน  นอกจากภาษาฝรั่งเศส เจตนาจะสอนภาษาให้

ก็ไม่เลวค่ะ คบคนหลายชาติ

ตอบคุณ V

ผมเดาว่า dao de jing ของคุณวี น่าจะเป็น da dao de shen jing

dao คือ หนทาง (ธรรม)  shen jing คือคัมภีร์ เดาเอานะครับ ถ้าผิดต้องอภัย  แต่ไม่รู้เหมือนกันครับ ผมมีความรู้น้อย ตอนที่เรียนจีนจะอ่านเป็น gu shi (นิทานโบราณ) แต่ก็เป็นเบสิก

ขอให้ฟังคนจีนรู้เรื่องและ สนทนากับเขาได้ก่อนอย่างอื่นจะตามมาครับ ภาษาจีน เขาจะเรียน เป็นระดับ มี 500 คำ 1000 คำ แค่พันคำก็จะสามารถสื่อสารพื้นๆได้

 

ตอบ พี่ sasinanda

เคยสอนนักเรียนที่เป็นผู้ใหญ่ครับ พี่เขาแต่งงานกับคนฝรั่งเศส ที่บ้านพูดภาษาฝรั่งเศสเป็นภาษากลาง ผมว่าไพเราะนะครับ

เราเรียนกับเจ้าของภาษานี่ก็ดีมากครับ แต่มันเสียค่าใช้จ่ายมาก ไม่น่าเชื่อนะครับ เรียนภาษาค่าใช้จ่ายสูงมากจริงๆ แต่ก็เห็นใจครับฝรั่งนี่รายได้เขาสูงกว่าคนไทย  จริงๆอยากจะใช้ภาษาจีนที่มีอยู่น้อยนิดเหมือนกัน แต่นี่มัน  blog  Eng ไม่รู้จะได้ไหม   wo  zhen de  hen  gao xing  you ji hui shuo zhong wen  ไม่ได้ใช้นานตลกดีครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท