..ทำไมหลับก็ยังฝันถึง :)


ได้แต่ฝันหวาน..ได้แต่เพ้อไป.. ว่าหัวใจแอบรักใครคนหนึ่ง..

นึกถึงเพลงเก่าเพลงหนึ่งของคุณผุสชา โทณะวณิก "..ได้แต่ฝันหวาน ได้แต่เพ้อไป ว่าหัวใจแอบรักใครคนหนึ่ง..."  แล้วก็ให้เคลิ้มได้ทุกครั้งไป .. เพลงอะไรช่างหวานร้ายกาจขนาดนี้  ...ว่าแต่ .. แล้วที่เราฝันเมื่อคืน เกิดจากอะไรกันนะ...

จำได้ว่าในตำราไทยโบราณเค้าบอกว่า ความฝันแบ่งได้เป็น 4 อย่าง คือ

1. เทพนิมิต   หมายถึง มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์มาดลบันดาลให้ฝันล่วงรู้เหตุการณ์ล่วงหน้า เกิดได้ยากถึงยากมาก (แต่ถ้าฝันจริงก็น่าเชื่อถือขนาดเอามาตีเป็นตัวเลขได้)

2. จิตนิวรณ์  หมายความตรงตัว คือ จิตใจอาวรณ์ คิดถึง พะวงถึง เป็นห่วงเป็นใย เก็บเอามาคิดมาฝันเป็นตุเป็นตะ  ถือเป็นความฝันชนิดที่เชื่อเอาจริงจังไม่ได้ (เหมือนเวลาฝันถึงแฟนน่ะนะ)

3. ลางสังหรณ์ เป็นความฝันที่เกี่ยวข้องกับความสามารถภูมิรู้พิเศษเฉพาะบุคคล ไม่ได้เกิดง่ายๆ ทั่วไป (แต่หลายคนชอบคิดเอาว่าตัวเองมีลางสังหรณ์)

4. ธาตุพิการ ความฝันชนิดนี้เกิดจากความปั่นป่วนความไม่สบายกายใจ โดยเฉพาะในเด็กเล็กเวลาไม่สบายมีไข้อาจร้องเอะอะ นอนแล้วผวาจนตื่น หรือละเมอร้อง

ทีนี้ก็รู้แล้วว่าฝันแต่ละชนิดเป็นยังไง .. แล้วเมื่อคืนนี้ฝันเพราะจิตนิวรณ์หรือเปล่านะ...

คำสำคัญ (Tags): #ความฝัน#คิดถึง
หมายเลขบันทึก: 166493เขียนเมื่อ 21 กุมภาพันธ์ 2008 01:58 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 มิถุนายน 2012 18:19 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (8)
  • ชอบสไตล์การเขียนของคุณหมอค่ะ น่ารัก น่าอ่าน เบา ๆ สบาย แต่เต็มไปด้วยข้อมูล เรียกว่าได้ทั้งความรู้และความบันเทิงค่ะ
  • ลูกสาวฝากชม ว่าแมวน้อยในรูปน่ารักมาก แต่คุณแม่อยากเห็นหน้าคุณหมอบ้างน่ะค่ะ

ตามประสบการณ์ ถ้าฝันช่วงรุ่งเช้า มักมีส่วนจริงค่ะ Sasinanda

พี่อักษร ทับแก้ว :  ขอบคุณค่ะ เพิ่งเริ่่มหัดเขียนเอง... ชอบเจ้าแมวน้อยนี่เหมือนกันค่ะ น่ารักดี ขอบคุณเผื่อเจ้าแมวน้อยด้วยค่ะ


คุณ sasiannda : เสียดายจังค่ะ เพราะเข้านอนไม่เป็นเวลาซักที

อยากฝันแบบเทพนิมิตจังเลย ให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วยดลบันดาลให้พี่น้องชาวศูนย์อนามัยที่ 5 เขียน blog กันทุกคนเหมือนสาวน้อยคนนี้...สาธุ..

ผมเองอยากให้ฝันที่ฝันอยู่นี่เป็นจริงก็พอคงจะทำให้ทุกคนมีความสุขมากเลย..แต่ตอนนี้ยังไม่บอกหรอกว่าฝันอะไร

ถ้าฝันร้ายแล้วจะกลายเป็นดีจริงหรือเปล่าคะ

..ความฝัน..ถ้าเชื่อว่ากระแสจิต(จากภายนอกตัวเรา) มีจริง จึงอาจแทรกเข้ามาสร้างภาวะการรับรู้โดยขณะที่เราหลับซึ่งไม่มีความจำเพาะเจาะจงแล้วกลายเป็นความฝัน..ตามที่โบราณจำแนกเป็นระยะเวลาที่เราฝันคือ ยาม๑ บุพนิมิต ยาม๒ จิตนิวรณ์ ยาม๓เทพสังหรณ์ และยาม๔ ธาตุโขภ..หรืออาจนำเทียบกับอาการธาตุที่เกิดให้สมองทำงานในสภาวะขณะเรานอนหลับ..คงคล้ายสกรีนเซฟเวอร์ที่ทำงานโดยการสุ่ม..มีการทดลองหลายอย่างที่ทำให้เชื่อว่า..ขณะที่สภาพแวดล้อมที่เราสัมผัสในขณะหลับมีความเกี่ยวข้องกับ..ความฝัน..

ควมฝันเกิดจากความกังวลค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท