วันที่ 1 กพ. 2551 เดินทางออกหน่วย พอสว.บ้านบวกหญ้า
>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>
วันที่ 31 มกราคม 2551:
เวลา 19.30 น. เดินทางออกจาก สอ.บ้านด่าน ฝนตกหนักมากไม่ยอมหยุด เราเดินทางด้วยรถโฟวินเป็นคันสุดท้ายพอเดินทางเข้าเส้นทางเข้าหมู่บ้านบวกหญ้าเป็นระยะทาง 8 กิโลเมตร สุดๆๆทางเละมากรถขึ้นดอยไปได้แค่2กิโล ล้อมีแต่โคลนรถไถลซ้ายขวาไปมา (ขวามือเป็นทางไหลเขา) ฝนตกหนักไม่ยอมหยุดจะรอดไมเนี้ย มีบางช่วงเราต้องลงจากรถดันรถให้เคลื่อนไปได้ เนื้อตัวเปื้อนโคลน ตัวเปียกโชก เป็นประสบการณ์ชีวิตอีกครั้งหนึ่งของผม แล้วรถก็ไม่สามารถฝาเส้นทางวิบากจนมาถึงหมู่บ้าน ฝนตกทั้งคืน
วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2551 :
เวลา 8.00 น. เราประกอบพิธีไว้อาลัยและดำเนินงานตรวจรักษาและทันตกรรมจนเสร็จสิ้น ชาวบ้านบางคนปลาบปลี้มที่ได้มาตรวจกับแพทย์เนื่องจากหมู่บ้านอยู่ไกลจากโรงพยาบาล(38 กิโลเมตร)
เวลา 10.00 น. รถของนายอำเภอติดโคลนอยู่กลางทางไม่สามารถขึ้นมาได้ ชาวบ้านช่วยกันงัดรถจนสามารถขับกลับไปได้แต่เราเนี้ยดิทำไงดี
เวลา 14.00 น. ออกเดินทาง แต่หนนี้รถโฟวินที่เรานั่งมาไม่สามารถขับไปได้ "เราต้องเดินเท้าแล้วละ" "ไม่ไกลหรอกแค่ 8 กิโลเองขึ้นภูแวก็หนักกว่านี้สบายๆอยู่แล้ว" และแล้วเราก็ออกเดินทางด้วยโฟวินขับเคลื่อนด้วยเท้า มีพี่บางคนถอดรองเท้าเดิน ฝนยังตกไม่หยุด เสื้อกันฝนก็ไม่ได้เอามา เดินฝ่าฝนตัวเปียก หนาวก็หนาว เดินแทบจะล้มเพราะลื่นโคลน แต่วันนี้เราก็สุขใจที่ได้ทำความดีถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระพี่นาง....
หมอกระเป๋าเขียว
(วิสิทธ์ มารินทร์)
เพิ่มเติมจากหมอกระเป๋าเขียว
----------------------------------------------------------------------------------------
"ขอให้ถือประโยชน์ส่วนตนเป็นกิจที่สอง ประโยชน์ของเพื่อนมนุษย์เป็นกิจที่หนึ่ง ลาภ ทรัพย์ และเกียรติยศ จะตกแก่ท่านเอง ถ้าท่านทรงธรรมแห่งวิชาชีพไว้ให้สูงสุด"
(พระราชดำรัสของพระบิดาแห่งการแพทย์และสาธารณสุขไทย)
เป็นกำลังใจให้.....นะ.....ทุกคนสู้ๆ....
สวัสดีค่ะ
งานรักษาพยาบาลและทันตกรรมของหน่วยพอ.สว.
ช่วยสร้างขวัญกำลังใจให้ชาวบ้านที่ห่างไกล
ที่พบบ่อยๆ คือจะมีข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ของอำเภอจากทุกหน่วยงานเข้าไปพบปะพี่น้องประชาชน
อันเป็นผลมาจากความจงรักภักดีในองค์พระมหากษัตริย์และพระราชวงค์ทุกพระองค์นั่นเอง
ขอขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีดีของหมอกระเป๋าเขียวนะคะ