แนวคิดองค์รวมเชิงนิเวศ


ให้รู้นิเวศวิทยาเพื่อแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมของโลก

ความท้าทายในปัจจุบันคือการสร้างสรรค์ชุมชนที่ยั่งยืน  นั่นคือสังคมวัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อมทางกายภาพ  ซึ่งเรามีความพึงพอใจตามความต้องการและความหวังโดยไม่ได้ทำให้ความหลากหลายที่ผสมผสานกันเป็นโลกธรรมชาติถูกทำลายให้ลดน้อยถอยลง  ที่ซึ่งจะเป็นโอกาสให้กับคนรุ่นใหม่ในอนาคต

ในความพยายามที่จะสร้างสรรค์บำรุงชุมชนให้ยั่งยืนได้นั้น  เราสามารถเรียนรู้บทเรียนอันมีค่าจากระบบนิเวศ  ซึ่งได้แก่ชุมชนที่ยั่งยืนของพืช สัตว์ และจุลินทรีย์  เพื่อที่จะให้เข้าใจระบบนิเวศเราจำเป็นต้องเรียนรู้หลักการพื้นฐานของนิเวศวิทยา  นั่นคือภาษาแห่งธรรมชาติ  เราทั้งหลายจำเป็นต้องเป็นผู้รู้นิเวศวิทยา (eco-literate)  เราจะต้องคิดในเทอมของความสัมพันธ์ ความเชื่อมโยง และปริบทแวดล้อม ในทางวิทยาศาสตร์แนวทางใหม่ของการคิด  รู้จักการในนามการคิดอย่างเป็นระบบ (systematic thinking) โดยคิดให้สิ่งมีชีวิตทั้งหลาย ระบบนิเวศ และระบบสังคม และเป็นที่รู้กันว่าระบบดังกล่าวจะต้องบูรณาการเป็นองค์รวม ซึ่งคุณสมบัติของระบบทั้งหมดไม่สามารถจะลดรูปลงเป็นส่วนเล็กย่อย

การคิดอย่างเป็นระบบได้ยกระดับขึ้นไปสู่ระดับใหม่ระหว่าง 20 กว่าปีมานี้โดยการพัฒนาความวิทยาศาสตร์ของความซับซ้อน  เกี่ยวข้องกับภาษาคณิตศาสตร์ใหม่เกือบทั้งหมด  และชุดของมโนทัศน์ เพื่ออธิบายความซับซ้อนของระบบสิ่งมีชีวิต

การก้าวเข้ามาของทฤษฏีใหม่ของระบบสิ่งมีชีวิตคือรากฐานสำนึกรู้นิเวศวิทยา (ecological literacy) แทนที่จะมองจักรวาลเป็นเหมือนเครื่องจักรที่ประกอบด้วยองค์ประกอบของโครงสร้างพื้นฐาน  นักวิทยาศาสตร์ได้ค้นพบว่าในโลกวัตถุ สุดท้ายแล้วก็คือเครือข่ายรูปแบบของความสัมพันธ์ที่แยกออกจากกันไม่ได้  นั่นคือดาวเคราะห์ โลกเป็นเหมือนสิ่งที่มีชีวิต เป็นระบบที่ปรับความสมดุลย์ของตัวเองได้ การมองร่างกายเป็นเหมือนเครื่องจักร และมองจิตใจเป็นส่วนที่แยกออกไป  จะต้องแทนเป็นอีกแบบที่ไม่เพียงเฉพาะสมองเท่านั้นแต่ยังรวมถึงระบบภูมิคุ้มกัน เนื้อเยื่อ และแม้แต่แต่ละเซลก็เป็นระบบของสิ่งมีชีวิตและความคิด  การวิวัฒนาการไม่ได้มองเป็นการแข่งขันเพื่อการอยู่รอดที่จะคงอยู่อีกต่อไป แต่ค่อนข้างที่จะพึ่งพาอาศัยร่วมมือกัน (co-operative dance) ที่ซึ่งการสร้างสรรค์และการปรากฏของสิ่งใหม่เป็นแรงผลักดัน

 ด้วยทัศนะใหม่ของความจริงแท้ที่ได้จากการรู้นิเวศวิทยาสำนึกรู้นิเวศวิทยา จะกลายเป็นรากฐานทางเทคโนโลยี ระบบเศรษฐกิจและสถาบันทางสังคมในอนาคต  เป็นที่ชัดแจ้งว่าสิ่งนี้ได้เข้าไปเกี่ยวข้องกับทางการศึกษาอย่างลึกซื้งในศตวรรษที่ 21 คงจะเป็นประสบการณ์ของการเรียนรู้ที่จะเอาชนะสิ่งแปลกแยกไปจากโลกธรรมชาติ จำเป็นต้องมีหลักสูตรที่สอนเด็กๆ ถึงความจริงอันเป็นรากฐานของชีวิตที่ของเสียจากสปีชีหนึ่งเป็นอาหารให้อีกสปีชีหนึ่ง ในเรื่องนี้เป็นวงจรอย่างต่อเนื่องโดยอาศัยเครือข่ายของสิ่งมีชีวิต (Web of life) ที่พลังงานขับเคลื่อนวงจรนิเวศมาจากดวงอาทิตย์ ที่ซึ่งความหลากหลายยืนยันถึงลักษณะสำคัญที่ ชีวิตจากเริ่มต้นมากกว่า 3000 ล้านปีมาแล้วไม่ได้เข้ามายึดครองโลกโดยการแข่งขันแย่งชิง แต่ด้วยการร่วมมือเสริมกันแบบเครือข่าย  การสอนความรู้ใหม่เหล่านี้ ที่ซึ่งเป็นภูมิปัญญาโบราณ จะเป็นบทบาทที่สำคัญที่สุดทางการศึกษาในศตวรรษนี้

หมายเลขบันทึก: 165084เขียนเมื่อ 13 กุมภาพันธ์ 2008 18:15 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 22:43 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท