ในรายการงานที่ต้องทำมีอีกสี่ถึงห้าชิ้นครับ แต่แล้วก็ต้องวางไว้ก่อน เพราะเมื่อวานเจ้าหน้าที่สาขาวิชาเศรษฐศาสตร์ฯ มาบอกว่า อาจารย์ครับ วิทยากรที่นักศึกษาติดต่อไว้ให้เป็นคีย์โนต์ฯ ในงานสัมมนา จะมาช้ากว่ากำหนดชั่วโมงหนึ่ง ไหนๆ อาจารย์เป็นประธานเปิดแล้ว ช่วยบรรยายต่อไปอีกสักชั่วโมงได้มัยครับ? (จริงๆ นะประธานเปิดก็ไม่ได้อยากเป็นหรอก ท่านคณบดีไม่ว่าง เลยต้องรับลูกต่อ ฮิฮิ นักศึกษาอ่านแล้วอย่าน้อยใจนะจ๊ะ อาจารย์พูดเล่น)
ท่านคณบดีชอบพูดคำหนึ่ง (อ้างอิงผู้ใหญ่อีกแล้ว ฮิฮิ) คณะนี้รับทุกสาขาวิชาที่ไม่มีสังกัด ซึ่งอันนี้ผมว่าเหมาะกับท่าน เพราะท่านพูดได้หลายภาษา แถมรู้กว้าง แต่อ้ายรองคณบดีอย่างผม แฮะๆ แลบลิ้นครับ พยายามนั่งติดโจทย์กับเจ้าหน้าที่สาขาวิชาอยู่นานครับเมื่อวาน ว่า ผมควรพูดประเด็นไหน เพื่อให้คนฟังไม่เบื่อหน้าผม และได้รับประโยชน์มากที่สุด เหตุที่ต้องใช้เวลาตีโจทย์นาน เนื่องจากนักศึกษานำเรื่องของ "ซากาต" กับการพัฒนาอย่างยั่งยืน มาเป็นโจทย์ในการสัมมนา อ้ายผมมันนักการศึกษา ความรู้ศาสนาแค่ห่างอึ่ง ถ้าขืนไปพูดเรื่องซากาต คงเป็นประเภทเอามะพร้าว (เน่า) ไปขายสวน ฮิฮิ แต่แล้วผมก็ปิ๊งขึ้นมาว่า ผมควรพูดประเด็น.... บอกไปก่อนก็กร่อยสิครับ ค่อยมาเล่าให้ฟังหลังบรรยายเสร็จแล้วกัน
พูดถึงความเป็นสหวิทยาการในคณะศิลปศาสตร์และสังคมศาสตร์แล้ว นึกถึงเหตุการณ์เมื่อวานกับเมื่อวานซืนครับ อาจารย์ต่างสองท่าน (มาคนละวันกัน) มาคุยกับผมเรื่องที่คณะจะจัดโครงการ Proceeding ในสัปดาห์หน้า (18-19 กพ.) ท่านแรกมาคุยกับผมด้วยภาษาอาหรับ คุยไปคุยมาออกเป็นมลายูบ้าง แล้วก็หวนกลับไปที่ภาษาอาหรับ คุยกันอยู่นาน จนผมสงสัยว่า ตกลงท่านไม่เข้าใจที่ผมพูดใช่มัยเนี๊ยะ วันต่อมาอีกท่านหนึ่งมา ท่านเริ่มคุยกับผมด้วยภาษาอังกฤษครับ คุยไปคุยมา ไม่แน่ใจว่าผมเอากระปุกคำศัพท์ภาษาอังกฤษไปตั้งที่ไหน (ฮิฮิ) เลยต้องเอาภาษาอาหรับมาใช้บ้างเป็นระยะ
และประเด็นนี้แหละที่หลายท่าน ตั้งแต่คุณพ่อสุดที่รักของผม จนถึงท่านคณบดีของผม เป็นห่วงผมมาก ที่ผมจะไปอยู่อเมริกาหลายเดือน มันจะรอดมัยนี้
นั่งเรียนภาษาอังกฤษมาเกือบปีแล้วครับ อาจารย์ถามว่า เป็นงัยก้าวหน้าขึ้นบ้างหรือไม่ คำตอบของผมอย่างไม่ต้องคิดนานครับ "เท่าเดิม" (ตกลงผมนั่งเรียนอะไรหว่า) ในขณะที่เพื่อนอีกสองคนก้าวหน้ากันเหลือเกิน สงสัยต้องไปอดข้าวต่างประเทศก่อนจึงจะเป็นเหมือนชาวบ้านเขาบ้าง
เมื่อวานได้รับคำชมจากท่านอาจารย์กะซอลีฮะห์มาประโยคหนึ่งครับ หลังจากที่ท่านได้อ่าน abstract บทความวิชาการของผมว่า เขียนดีขึ้น อย่างน้อยตอนนี้คนไทยอ่านรู้เรื่องแล้ว (จริงๆ ไม่ได้ตั้งใจจะให้ใครอ่าน เนื่องจากจะให้ผู้รู้สักท่านแก้ไขให้ก่อน แต่เจ้าหน้าที่ใจร้อน ส่งบทความผมให้ผู้ทรงคุณวุฒิอ่านเรียบร้อยแล้ว อายจะเลย) เรื่องมันมีอยู่ว่า เมื่อสองเดือนก่อนลองเขียนบทคัดย่อเองเป็นภาษาอังกฤษ แล้วให้อาจารย์ซอลีฮะห์แก้ไข สุดท้ายไม่เหลือประโยคของผมเองแม้แตคำเดียว ฮิฮิฮิ
บ่นแก้เซ็ง อิ่มแล้วครับ บังเอิญคืนนี้เครื่องคอมพิวเตอร์ผมมันรวนแต่หัวค่ำเลยครับ จะทำงานก็ไม่ได้จอมันกระพริบ แถมติดเชื้อ(ไวรัส)มาจากไหนก็ไม่รู้ โปรแกรมที่ใช้ทำงานแบบไม่ค่อยเต็มใจทำ (คิดไปเองหรือเปล่าก็ไม่รู้) เลยเปิดเว็บเขียนบล็อกฆ่าเวลาไปก่อนเผือว่ามันจะดีขึ้น และแล้วตอนนี้จอเป็นปกติแล้วครับ ขอนั่งทำงานก่อนนะครับ สวัสดีครับ
ไม่มีความเห็น