จารุวัจน์ شافعى
ผศ.ดร. จารุวัจน์ ชาฟีอีย์ สองเมือง

เตรียมงานวันพรุ่ง


ในรายการงานที่ต้องทำมีอีกสี่ถึงห้าชิ้นครับ แต่แล้วก็ต้องวางไว้ก่อน เพราะเมื่อวานเจ้าหน้าที่สาขาวิชาเศรษฐศาสตร์ฯ  มาบอกว่า อาจารย์ครับ วิทยากรที่นักศึกษาติดต่อไว้ให้เป็นคีย์โนต์ฯ ในงานสัมมนา จะมาช้ากว่ากำหนดชั่วโมงหนึ่ง ไหนๆ อาจารย์เป็นประธานเปิดแล้ว ช่วยบรรยายต่อไปอีกสักชั่วโมงได้มัยครับ? (จริงๆ นะประธานเปิดก็ไม่ได้อยากเป็นหรอก ท่านคณบดีไม่ว่าง เลยต้องรับลูกต่อ ฮิฮิ นักศึกษาอ่านแล้วอย่าน้อยใจนะจ๊ะ อาจารย์พูดเล่น)

ท่านคณบดีชอบพูดคำหนึ่ง (อ้างอิงผู้ใหญ่อีกแล้ว ฮิฮิ) คณะนี้รับทุกสาขาวิชาที่ไม่มีสังกัด ซึ่งอันนี้ผมว่าเหมาะกับท่าน เพราะท่านพูดได้หลายภาษา แถมรู้กว้าง แต่อ้ายรองคณบดีอย่างผม แฮะๆ แลบลิ้นครับ พยายามนั่งติดโจทย์กับเจ้าหน้าที่สาขาวิชาอยู่นานครับเมื่อวาน ว่า ผมควรพูดประเด็นไหน เพื่อให้คนฟังไม่เบื่อหน้าผม และได้รับประโยชน์มากที่สุด เหตุที่ต้องใช้เวลาตีโจทย์นาน เนื่องจากนักศึกษานำเรื่องของ "ซากาต" กับการพัฒนาอย่างยั่งยืน มาเป็นโจทย์ในการสัมมนา อ้ายผมมันนักการศึกษา ความรู้ศาสนาแค่ห่างอึ่ง ถ้าขืนไปพูดเรื่องซากาต คงเป็นประเภทเอามะพร้าว (เน่า) ไปขายสวน ฮิฮิ แต่แล้วผมก็ปิ๊งขึ้นมาว่า ผมควรพูดประเด็น.... บอกไปก่อนก็กร่อยสิครับ ค่อยมาเล่าให้ฟังหลังบรรยายเสร็จแล้วกัน

พูดถึงความเป็นสหวิทยาการในคณะศิลปศาสตร์และสังคมศาสตร์แล้ว นึกถึงเหตุการณ์เมื่อวานกับเมื่อวานซืนครับ อาจารย์ต่างสองท่าน (มาคนละวันกัน) มาคุยกับผมเรื่องที่คณะจะจัดโครงการ Proceeding ในสัปดาห์หน้า (18-19 กพ.) ท่านแรกมาคุยกับผมด้วยภาษาอาหรับ คุยไปคุยมาออกเป็นมลายูบ้าง แล้วก็หวนกลับไปที่ภาษาอาหรับ คุยกันอยู่นาน จนผมสงสัยว่า ตกลงท่านไม่เข้าใจที่ผมพูดใช่มัยเนี๊ยะ วันต่อมาอีกท่านหนึ่งมา ท่านเริ่มคุยกับผมด้วยภาษาอังกฤษครับ คุยไปคุยมา ไม่แน่ใจว่าผมเอากระปุกคำศัพท์ภาษาอังกฤษไปตั้งที่ไหน (ฮิฮิ) เลยต้องเอาภาษาอาหรับมาใช้บ้างเป็นระยะ

และประเด็นนี้แหละที่หลายท่าน ตั้งแต่คุณพ่อสุดที่รักของผม จนถึงท่านคณบดีของผม เป็นห่วงผมมาก ที่ผมจะไปอยู่อเมริกาหลายเดือน มันจะรอดมัยนี้

นั่งเรียนภาษาอังกฤษมาเกือบปีแล้วครับ อาจารย์ถามว่า เป็นงัยก้าวหน้าขึ้นบ้างหรือไม่ คำตอบของผมอย่างไม่ต้องคิดนานครับ "เท่าเดิม" (ตกลงผมนั่งเรียนอะไรหว่า) ในขณะที่เพื่อนอีกสองคนก้าวหน้ากันเหลือเกิน สงสัยต้องไปอดข้าวต่างประเทศก่อนจึงจะเป็นเหมือนชาวบ้านเขาบ้าง

เมื่อวานได้รับคำชมจากท่านอาจารย์กะซอลีฮะห์มาประโยคหนึ่งครับ หลังจากที่ท่านได้อ่าน abstract บทความวิชาการของผมว่า เขียนดีขึ้น อย่างน้อยตอนนี้คนไทยอ่านรู้เรื่องแล้ว (จริงๆ ไม่ได้ตั้งใจจะให้ใครอ่าน เนื่องจากจะให้ผู้รู้สักท่านแก้ไขให้ก่อน แต่เจ้าหน้าที่ใจร้อน ส่งบทความผมให้ผู้ทรงคุณวุฒิอ่านเรียบร้อยแล้ว อายจะเลย) เรื่องมันมีอยู่ว่า เมื่อสองเดือนก่อนลองเขียนบทคัดย่อเองเป็นภาษาอังกฤษ แล้วให้อาจารย์ซอลีฮะห์แก้ไข สุดท้ายไม่เหลือประโยคของผมเองแม้แตคำเดียว ฮิฮิฮิ

บ่นแก้เซ็ง อิ่มแล้วครับ บังเอิญคืนนี้เครื่องคอมพิวเตอร์ผมมันรวนแต่หัวค่ำเลยครับ จะทำงานก็ไม่ได้จอมันกระพริบ แถมติดเชื้อ(ไวรัส)มาจากไหนก็ไม่รู้ โปรแกรมที่ใช้ทำงานแบบไม่ค่อยเต็มใจทำ (คิดไปเองหรือเปล่าก็ไม่รู้) เลยเปิดเว็บเขียนบล็อกฆ่าเวลาไปก่อนเผือว่ามันจะดีขึ้น และแล้วตอนนี้จอเป็นปกติแล้วครับ ขอนั่งทำงานก่อนนะครับ สวัสดีครับ

คำสำคัญ (Tags): #คณะ#บรรยาย#ภาษา
หมายเลขบันทึก: 164202เขียนเมื่อ 8 กุมภาพันธ์ 2008 21:27 น. ()แก้ไขเมื่อ 18 มิถุนายน 2012 15:07 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท