เริ่มต้นเทอมที่สองพร้อมกับความหนาววววววววว.....บันทึกของครูน้อยในเดือนที่ห้า มกราคม 2551


หลักสูตรเนื้อหาการเรียนเทอมที่สอง และการเตรียมทำวิจัยในวิชา Independent Study

เริ่มต้นเทอมที่สองพร้อมกับความหนาววววววววว.....บันทึกของครูน้อยในเดือนที่ห้า  มกราคม 2551  

สวัสดีค่ะ ครูใหญ่ 

เริ่มต้นภาคเรียนที่สองแล้วค่ะ   ตามภาษาที่นี่คงต้องเรียกว่าภาคการศึกษาฤดูใบไม้ผลิ  แต่บรรยากาศที่เจออยู่ขณะนี้คงห่างไกลจากฤดูใบไม้ผลิมากมายพอสมควร  เพราะมันหนาวววววววววจับหัวใจ   ขณะที่เขียนบันทึกอยู่นี้  อุณหภูมิก็ต่ำกว่าศูนย์องศาเซลเซียสมาหลายวันแล้ว  และคงจะเป็นอย่างนี้ต่อไปอีกสักพักใหญ่เลยล่ะค่ะ 

ถึงแม้ว่าอากาศจะหนาวเย็นอย่างไร   วิชาการและกิจกรรมในภาคเรียนนี้ก็ยังอุ่นหนาฝาคั่งอยู่ดี  มาลองดูกันก่อนนะคะว่าเทอมนี้ครูน้อยลงเรียนวิชาอะไรบ้าง 

(ผู้ที่เข้ามาอ่านท่านใดอยากรู้ที่มาที่ไปหรือว่าครูใหญ่และครูน้อยเป็นใคร  ต้องไปอ่านบันทึกหมายเลข 0 ก่อนเลยนะคะ)  

เริ่มกันเลยนะคะ เดือนนี้ ขอแบ่งบันทึกเป็น 3 หมวดค่ะ

  1. หลักสูตรเนื้อหาการเรียนเทอมที่สอง
  2. การเตรียมทำวิจัยในวิชา Independent Study
  3. ปัญหา...มาอีกแล้ว

1. หลักสูตรเนื้อหาการเรียนเทอมที่สอง 

ในเทอมนี้ครูน้อยลงเรียนสามวิชาค่ะ  เป็น Coursework 2 วิชาและ Research 1 วิชา

ü      Seminar in Organizational Behavior

ü      Seminar in Applied Regression

ü      Dissertation Research  

ü                  Organizational Behavior  เรียนเกี่ยวกับ Organizational Behavior ทั้งทางด้านทฤษฎีพื้นฐานและการประยุกต์ใช้งานในองค์กร    ในเนื้อหาที่เรียนอาจารย์จะเน้นการทำวิจัยต่อยอดจากเนื้อหาที่ได้เรียนในชั้นเรียน   โดยนักศึกษาจะต้องคิดหัวข้อวิจัยใหม่ๆ ที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อที่เรียนเพื่อมาสนทนาแลกเปลี่ยนกันในชั้นเรียน  ส่วนทฤษฎีที่เรียนจะเน้นทางด้านพฤติกรรมมนุษย์และจิตวิทยาค่อนข้างมาก  แต่การประยุกต์ใช้งานทฤษฎีจะเน้นที่การนำไปปรับใช้ในองค์กร   

เท่าที่เรียนไปตอนนี้ก็พบว่าเนื้อหาที่เรียนสามารถนำไปปรับใช้กับ KM ได้หลายส่วนค่ะ   ตอนนี้ครูน้อยได้เสนอหัวข้อการเขียน Term Paper ให้อาจารย์แบบคร่าวๆ ไปแล้ว  โดยเลือกหัวข้อหลักเกี่ยวกับ Proactivity behavior ของบุคลากรซึ่งอาจจะมีผลกระทบต่อการถ่ายทอดหรือกระจายความรู้ในองค์กร  และอาจจะมีหัวข้อย่อยเกี่ยวกับความแตกต่างด้านวัฒนธรรมและปัจจัยอื่นๆ  ซึ่งจะเข้ามามีผลกระทบต่อ Proactivity behavior ไม่ว่าจะเป็นการส่งเสริมหรือบั่นทอนพฤติกรรมนี้ก็ตาม    ซึ่งอาจารย์ก็เห็นว่าเป็นหัวข้อที่น่าสนใจมากและให้การสนับสนุนอย่างดีทั้งในด้านเนื้อหาและเทคนิคการนำเสนอต่างๆ   ครูน้อยคิดว่าปิดเทอมนี้คงจะได้มีอะไรดีๆ กลับไปพูดคุยให้ชาว สคส. ฟังอีกแล้วล่ะค่ะ   ถ้ายังไม่เบื่อกันนะคะ (ยิ้มหวาน...)          

ü                  Applied Regression   โอ้โห...วิชานี้เป็นวิชาสถิติของแท้เลยค่ะ   อันที่จริงครูน้อยก็เคยเรียนมาบ้างบางส่วน  แต่ทำไมเวลาเรียนใหม่ทีไร  ชอบรู้สึกว่าเหมือนไม่เคยเรียนมาก่อนทุกทีไป  แต่ในวิชา Seminar in Applied Regression นี้  อาจารย์จะเน้นเทคนิคการทำวิจัยทางด้าน Social Science โดยใช้ Regression model และการวิเคราะห์ผลที่ได้ออกมาค่ะ   ส่วนการบ้านต่างๆ (ซึ่งมีเยอะมากกกกกกกกก  ประมาณ 30 กว่าชิ้น) จะเป็นการฝึกหัดทำ regression analysis โดยใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ต่างๆ  

ü                  Dissertation Research  ครูน้อยเลือกลงวิชานี้เพื่อใช้เวลาในการวิจัยร่วมกับอาจารย์ค่ะ   บทเรียนจากเทอมที่แล้วทำให้นักศึกษาร่วมชั้นส่วนใหญ่เลือกลงวิชานี้ในเทอมนี้  เพื่อจะได้จัดสรรเวลาในการทำวิจัยได้มากยิ่งขึ้น    เนื่องจากที่ภาควิชา Management ที่นี่จะเน้นการทำวิจัยมาก  ดังนั้น ครูน้อยก็ต้องเริ่มทำให้เป็นชิ้นเป็นอันกับเค้าแล้วเหมือนกันค่ะ  ตอนนี้อยู่ในช่วงการอ่านเพื่อหาหัวข้อก่อนลงมือเขียนค่ะ   ถ้ามีอะไรคืบหน้าก็จะรีบมาเล่าเพิ่มเติมนะคะ  

2. การเตรียมทำวิจัยในวิชา Independent Study 

ü                  อย่างที่เคยเรียนให้ครูใหญ่ทราบไปนะคะ   ว่าทาง Professor Calantone ที่เป็นผู้สอนวิชา Marketing Strategy ในเทอมที่แล้ว  ได้ตอบรับเป็นผู้ดูแลโครงงานวิจัยในวิชา Independent Study ให้ครูน้อย  ซึ่งงานนี้ครูน้อยตั้งใจจะกลับไปทำ Field Study ที่เมืองไทยในช่วงปิดภาคฤดูร้อน   ส่วนหน่วยงานหรือบริษัทที่จะเป็นเป้าหมายในการเก็บข้อมูลนั้น  คงจะพิจารณาความเหมาะสมและความเป็นไปได้ (ที่เค้าจะยอมให้เราเข้าไปเก็บข้อมูล)  ในการนี้ครูน้อยก็คงจะต้องเรียนขอคำปรึกษาจากครูใหญ่อีกครั้งหนึ่ง (หรือหลายๆ ครั้ง) นะคะ   

ü                  ดังนั้น  สิ่งที่ต้องทำในเทอมนี้  ก็คือการนำเสนอหัวข้อและรายละเอียดโครงงานวิจัย   จากนั้นอาจารย์จะแนะนำรายชื่อหนังสือหรือบทความที่จะต้องไปอ่านเพิ่มเติม  และเริ่มเขียนบทความในลักษณะเพื่อส่งตีพิมพ์ (อีกแล้ว) ให้เสร็จในส่วนทฤษฎี   และออกแบบเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยให้เสร็จ   ก่อนกลับไปเก็บข้อมูลวิจัยในช่วงปิดภาคฤดูร้อนค่ะ   หลังจากนั้น  เมื่อเก็บข้อมูลวิจัยได้แล้ว  ก็จะเข้าสู่การประมวลผลและเขียนสรุป  ซึ่งสามารถนำกลับมาทำต่อในเทอมถัดไปได้    

ü                  รายละเอียดเพิ่มเติมก็จะนำมาเสนอเป็นระยะนะคะ  กำหนดคุยครั้งแรกในต้นเดือนกุมภาพันธ์นี้แล้วล่ะค่ะ  

3. ปัญหา... มาอีกแล้ว

ü                  คล้ายๆ กับชีวิตเราจะราบรื่นเกินไปหรือเปล่า  (อันนี้ก็ขอแซวตัวเองนะคะ)  ทำไม้..ทำไม..จะต้องมีปัญหาเข้ามาให้ต้องขบคิดและหาทางออกอยู่เรื่อยๆ เลยเชียว...   เปิดเทอมนี้มาก็เจอเลยค่ะ   ครูน้อยโดนเรียกไปดุซะแล้ว... 

ü                  ก็ไม่ใช่ใครอื่นไกล... โดนหัวหน้าภาคเรียกไปดุค่ะ... ข้อหาก็ฉกาจฉกรรจ์ดีมากคือ ไม่ค่อยเข้าร่วมกิจกรรมของโรงเรียนค่ะ   ซึ่งกิจกรรมหลักๆ ก็คือ  กิจกรรม job talk ของบรรดาอาจารย์ใหม่ที่มาสมัครงานที่นี่ค่ะ    เอ..เราก็ว่าเราก็เข้าร่วมเยอะแล้วนะในเทอมที่ผ่านมา  จะมียกเว้นช่วงใกล้สอบและส่ง term paper (ผู้อ่านยังจำกันได้ไหมคะ  ที่ครูน้อยมีช่วงรันทดชีวิต  ถึงกับต้องมาขอเลื่อนส่งบันทึกกันอุตลุด) 

ü                  และก็มาถึงบางอ้อ  เมื่อหัวหน้าภาคเฉลยว่า  ก็ไอ้เจ้าช่วงนั้นนั่นแหละที่ไม่ค่อยได้เข้าน่ะ  ทางภาควิชาต้องการให้เข้าร่วมทุกครั้ง  เน้น..ทุกครั้ง  ไม่นับเป็นเปอร์เซ็นต์มากน้อยแต่อย่างใดทั้งสิ้น   จะขาดได้ก็ต่อเมื่อป่วยหรือตายเท่านั้น  (555+ อันนี้ก็เว่อร์ไปเล็กน้อยค่ะ   จริงๆ อาจารย์อนุญาตให้เว้นได้เฉพาะป่วยหรือตรงกับเวลาเรียนค่ะ)    

ü                  ซึ่งในกรณีของเทอมที่แล้ว  มีผู้สมัครเจ็ดคน   ครูน้อยเข้าฟัง job talk และเข้าร่วมประชุมที่จัดโดยเฉพาะระหว่างผู้สมัครและนักศึกษาปริญญาเอกเกือบครบทุกครั้งก็จริง  แต่ไม่ได้เข้าร่วมงานเลี้ยงรับรองตอนกลางคืน   เพราะไม่คิดว่าจำเป็นและอีกอย่างมันก็เป็นงานที่จัดตอนกลางคืน  ตัวเองก็ไม่ค่อยสะดวกในการเดินทางเนื่องจากไม่ได้ขับรถค่ะ   แต่ปรากฎว่า  หัวหน้าภาคท่านนับหมดทุกครั้ง  เลยทำให้ดูเหมือนว่าเราขาดการเข้าร่วมกิจกรรมไปค่อนข้างเยอะ  (ผู้สมัครเจ็ดคน  ต้องเข้าร่วมสามงานต่อหนึ่งคน   ก็มียี่สิบเอ็ดกิจกรรมเข้าไปแล้ว  ขาด reception ไปเจ็ดครั้งก็แย่แล้วอะไรประมาณนั้นละค่ะ)     

ü                  จะมาเศร้าก็ตรงที่โดนดุว่า  การเข้าร่วมกิจกรรมไม่ครบ (ทุกครั้ง) เป็นการแสดงออกถึงความไม่เอาใจใส่อย่างเต็มที่ในการศึกษาต่อปริญญาเอกที่นี่   เฮ้อ...ครูน้อยล่ะงงจริงๆ   แต่ก็พยายามคิดว่า  นี่ก็เป็นบทเรียนเรื่องความแตกต่างทางวัฒนธรรมอย่างหนึ่ง  ซึ่งคงไม่ใช่แค่เรื่องของวัฒนธรรมตะวันออก-ตะวันตก   แต่คงเป็นเรื่องของวัฒนธรรมองค์กรของภาควิชานี้ด้วย   เพราะได้ลองสอบถามภาควิชาอื่น  หรือคณะอื่นๆ แล้วก็ไม่มีใครเค้าเป็นกันค่ะ     

ü                  นอกจากนี้  ก็โดนดุเพิ่มเติมแต่ไม่มากเท่าข้างบนในเรื่องการทำวิจัยว่าให้เริ่มช่วยอาจารย์ทำได้แล้ว   และมาอยู่แถวโรงเรียนบ่อยๆ หน่อยและทานข้าวเที่ยงกับเพื่อนๆ บ้าง  (เอ่อ... อันนี้ก็... นะ  ทำได้ค่ะทำด้ายยยยยยยย..) 

ü                  แต่อย่างไรก็ตาม  เข้าเมืองตาเหล่.. เอ๊ย..ตาหลิ่ว  ก็คงต้องหลิ่วตาตามนะคะ   ถึงแม้ครูน้อยจะไม่ได้เห็นด้วยทั้งหมด  แต่ก็ยินดีที่จะปฏิบัติตามคำแนะนำที่ได้รับมา  เพื่อการศึกษาต่อที่นี่อย่างราบรื่นค่ะ   ที่เขียนมานี้ก็ไม่ได้จะบ่นให้ฟัง (แต่จริงๆ ก็บ่นไปแล้ว 55)  เพียงแต่คิดว่าเป็นส่วนหนึ่งของประสบการณ์การเรียนปริญญาเอกที่อยากจะบักทึกไว้  และอยากให้ผู้อ่านได้ทราบเป็นอุทาหรณ์ค่ะ   

จบแล้วค่ะบันทึกแรกของเทอมที่สอง   จริงๆ ก็มีอีกสองเรื่องที่ยังไม่ได้เล่า  คือ เรื่องการเรียนเสริมในหลักสูตร Seminar in the Use of Knowledge in Organization ซึ่งอาจารย์ที่ภาควิชาจะจัดขึ้นในเทอมนี้  เป็นแบบไม่มีหน่วยกิตและไม่มีเกรดค่ะ  ตอนนี้ยังไม่ทราบรายละเอียด   แต่ได้ลงชื่อไปแล้ว   ส่วนอีกเรื่องคือการทำ Workshop in Case Study Teaching  รายละเอียดจะนำมาเล่าเพิ่มเติมในบันทึกของเดือนหน้านะคะ  (แอบโปรโมทบันทึกของเดือนหน้าซะเลย)    

แล้วเจอกันในอีกไม่ถึง 30 วันข้างหน้านี้ค่า.....

คำสำคัญ (Tags): #independent study#organizational behavior
หมายเลขบันทึก: 162441เขียนเมื่อ 31 มกราคม 2008 10:31 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 22:32 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

ผมชอบเรื่อง ๓ ครับ    แสดงความเอาใจใส่ต่อศิษย์     อยากให้มหาวิทยาลัยไทยเอาใจใส่ นศ. ป. เอกอย่างนี้บ้าง

วิจารณ์

รายงานได้เยี่ยมยอดเลยค่ะ ครูน้อย กระชับ ได้ใจความแถมยังสื่อสารความรู้สึกเอาไว้แบบเนียนๆจนคนอ่านซึมซับได้โดยไม่ทำให้เนื้อหาขาดความเป็นเรื่องราวจริงจัง ทีเดียวค่ะ

ขอเป็นกำลังใจให้นะคะ และมาแลกเปลี่ยนด้วยว่า เคยพบประสบการณ์ทำนองเดียวกันในเรื่อง socialise กับนักเรียน Posgrad. คนอื่นๆ คือโดนอาจารย์เตือนเหมือนกันค่ะ แต่แบบค่อนข้าง friendly และแนะนำ ไม่ถึงกับทำให้เรารู้สึกผิด แต่ก็ทำให้เห็นว่า เราทำตัวแตกต่างจากสังคมของเขา ดีที่ตัวเองจะสามารถให้เหตุผลที่เขายอมรับได้ ก็เลยเลือกได้มากกว่าคุณครูน้อย ว่าจะเข้าร่วมในงานลักษณะไหนบ้าง ซึ่งเขาก็ยอมรับความแตกต่างทางวัฒนธรรมของเราอย่างเข้าใจค่ะ (อ้อ ลืมบอกว่านี่เป็นสังคมของออสเตรเลีย และสายวิชาทาง medical science น่ะค่ะ ก็คงอาจจะต้องการ การปฏิสัมพันธ์น้อยกว่าทาง KM นะคะ)  

อาจารย์ "จับตาดู" นักเรียน (แบบเอาใจใส่นะคะ) มากๆๆเลยค่ะ สังเกตุแม้กระทั่งเรื่องทานอาหารกลางวัน !!!

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท