ท้อได้ ถอยได้ แต่ก็ต้องเดินหน้าต่อไป


ท้อได้ ถอยได้ แต่สุดท้ายก็จะต้องเดินหน้าต่อไป!!!

เมื่อต้นเดือนธันวาที่ผ่านมาผู้เขียนได้มีโอกาสไปประชุมของคณะเทคนิคการแพทย์ที่มช.อีกแล้ว ซึ่งครั้งแรกที่ผู้เขียนไปเมื่อ 2 ปีที่แล้วก็ได้นำเรื่องมาเขียนไว้เป็นบันทึกแรกสุดใน gotoknow และอีกเรื่องที่ประทับใจคือ จากหิ้ง สู่ห้อง สู่ห้าง คราวนี้ก็เป็นอาจารย์ท่านเดิม (จำชื่อไม่ได้แล้ว) แต่ผู้เขียนก็ยังคงประทับใจเช่นเดิม ซึ่งในครั้งนี้ดูเหมือนว่าจะได้รับข่าวดีว่าท่านได้รับการแต่งตั้งเป็นศาสตราจารย์ด้วย ซึ่งก็เป็นเวลาเกือบสองเดือนมาแล้ว ประมาณว่า ... 

 

วันนั้นอาจารย์เกริ่นแบบแซว ๆ ว่า ผมได้รับเชิญมาพูดเรื่องวิจัยทุกปี จนทำวิจัยไม่ทัน พวกเราหลายคนอดยิ้มไม่ได้ อาจารย์เล่าให้ฟังว่า บาง Lab. มีแต่ของที่สั่งซื้อ และส่วนใหญ่เป็นเครื่องมือและน้ำยาจากต่างประเทศทั้งนั้นเลย อาจจะยกเว้นบ้างก็เป็นไม้เขี่ยเลือด อาจารย์มีภาพที่แสดงอยู่ภาพหนึ่งในสไลด์ของท่าน  (อาจารย์วาดเอง เนื่องจากเป็นคนชอบวาดรูป) เป็นภาพนก(ตัวเดียว โดดเดี่ยว) ที่บินอยู่เหนือทะเลทรายที่แห้งแล้ง ซึ่งเกิดขณะนี่รู้สึกท้อแท้ มากกับงานที่ทำ อย่างที่เล่าในบันทึกนี้ว่า บางครั้งทำมาคนไทยก็ไม่ยอมรับ ต้องส่งไปต่างประเทศนำเข้ามาอีกที ซึ่งขณะนี้อาจารย์มีผลงานที่มีบริษัทของคนไทยเป็นตัวแทนจำหน่ายแล้วในนามคนไทย ถ้าจำไม่ผิด

อาจารย์ยกตัวอย่างถึงประเทศไต้หวัน เขามีนักวิจัยที่ทำงานวิจัยจริง ๆ นำโจทย์วิจัยจากผู้ใช้ ไปเป็นคำถามวิจัย แล้วนำมาใช้ เมื่อมีปัญหาผู้ใช้ก็นำไปให้ผู้ที่วิจัยทำการปรับปรุง ซึ่งเราไม่ได้มีองค์กรแบบนั้น เป็นทั้งผู้ใช้ ผู้วิจัย ผู้จำหน่าย ซึ่งก็คงยากที่จะประสบความสำเร็จ สุดท้ายก็ต้องนำเข้า อีกทั้งปัจจุบันบริษัทจากต่างประเทศก็มีกลยุทธ์มากมายทั้งพากินพาเที่ยว แจกของฯ เป็นต้น ซึ่งอันนี้เห็นจริง 

 

ตอนที่นั่งฟัง ผู้เขียนอดรู้สึกภูมิใจไม่ได้ว่าที่ Lab. หน่วยเคมีเรายังมีน้ำยาที่เตรียมเองกันอยู่บ้างถ้าคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ในห้อง Lab สัก 20 - 30  ได้มั๊ยหนอ เช่น การทดสอบ Phosphorous, ALP, Total Protein, Creatinine ทั้งเครื่อง CX-3 & H. 917, Electrolytes บางตัว, Direct Bilirubin, Urine/CSF protein, SI & TIBC, GGT  มีการทดสอบพิเศษอีก (แต่อย่าไปนับสารเคมีที่ใช้เตรียมล่ะ และเครื่องมือล่ะ)

หลังจากกลับจากประชุมเชียงใหม่ผู้เขียนก็ได้รับมอบหมายให้นำน้ำยา Direct bilirubin มาใช้เป็นจริง เป็นจัง ซึ่งก็มีปัญหาบ้างเหมือนกันที่ผ่านมาผู้เขียนก็พยายามปรับปรุงมาตลอด แต่สัปดาห์นี้ก็อดรู้สึกท้อบ้างแล้วเหมือนกัน จนอดพูดเปรย ๆ กับอาจารย์ท่านหนึ่งว่า ไม่น่าทำเลย ซื้อน้ำยาบริษัทก็สิ้นเรื่อง เพราะเรื่องของเรื่องจะให้ผู้เขียนเปลี่ยนสูตรใหม่ทำอย่างบริษัทเป๊ะ ๆ ซึ่งผู้เขียนก็ขอยืนยันเจตนาเดิมว่าขอเปลี่ยนบางส่วน(ไม่ชอบเลียนแบบ) เพราะสูตรที่ผู้เขียนเตรียมมีดีบ้างเหมือนกัน ซึ่งอาจารย์ก็ยอมรับค่ะสุดท้ายเราก็พบกันครึ่งทาง เพราะการที่ได้คุยกับท่านก็ได้ความรู้และรับทราบข้อมูล และข้อบกพร่องบางอย่างจริง ซึ่งผู้เขียนก็ยังคงต้องทำ และอาจจะต้องปรับปรุงต่อ ๆ ไปอีก...

สำหรับคนที่ทำงานวิจัยนั้น(รวมทั้งตัวเอง) บางครั้งอาจรู้สึกท้อได้  ถอยได้ แต่สุดท้ายก็จะต้องเดินหน้าต่อไป!!! เอ๊ะ !! ไม่รู้คิดถูกหรือเปล่า (หรือควรหยุดไปเลย)

 
หมายเลขบันทึก: 161515เขียนเมื่อ 26 มกราคม 2008 13:55 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 22:29 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

สำหรับคนที่ทำงานวิจัยนั้น(รวมทั้งตัวเอง) บางครั้งอาจรู้สึกท้อได้  ถอยได้ แต่สุดท้ายก็จะต้องเดินหน้าต่อไป!!! เอ๊ะ !! ไม่รู้คิดถูกหรือเปล่า (หรือควรหยุดไปเลย)

เห็นด้วยอย่างยิ่งค่ะ รวมไปถึงงานอื่นๆ ด้วย ท้อได้ ถอยได้ เพื่อใคร่ครวญ  แต่หากพบว่า มันเป็นสิ่งที่สร้างคุณค่าอยู่ ต้องเดินหน้าต่อ  เป็นกำลังนะคะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท