วันนี้ทำการทดสอบพิเศษ VMA เสร็จเร็ว เลยมีเวลาพอได้มานั่งเขียนบันทึกบ้าง ช่วงเช้าขณะนั่งทำ VMA นายดำเดินผ่านมา บอกทำไมห้องนี้เหม็นจัง แต่เราคนทำ Lab. รู้สึกเฉย ๆ การทำ VMA นับว่าเป็นการสร้างกลิ่นเหม็นเหมือนกันแต่ก็ไม่มาก และไม่ติดตัวเท่ากับการทำการทดสอบ Protein electrophoresis ในวันอังคารที่ผ่านมา ซึ่งการทำการทดสอบนี้มีขั้นตอนมาก ๆ และเป็นการทดสอบที่สร้างกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์มาก เอาเป็นว่าเมื่อไรได้กลิ่นนี้ แสดงว่ามีการทำการทดสอบนี้แน่ ๆ ... เพราะขั้นตอนหลังจาก run band โปรตีนแล้วก็ต้องนำไปย้อมสี แล้วล้างสีออกโดยใช้ 5 % ของกรดอะซิตริก ซึ่งสัปดาห์นี้ผู้เขียนเตรียมน้ำยาใหม่ด้วย แม้จะเตรียมใน Hood แล้วก็ตาม
เอาเป็นว่าทำการทดสอบครั้งใดเล่นเอาไม่กล้าออกจากห้องไปไหนมาไหนเลย เพราะเป็นกลิ่นเหม็นเปรี้ยวติดตัว บางครั้งเจ้าตัวก็ไม่รู้ด้วยความชิน ซึ่งผู้เขียนจะจมูกไวมากกับกลิ่นนี้ ทำให้ช่วงหลัง ๆ มานี้ร้านไหนใช้น้ำส้มสายชูเป็นเครื่องปรุง ผู้เขียนจะเลิกทานร้านนั้นอย่างจำพวกข้าวขาหมู ข้าวหมูแดง เป็นต้น
จะว่าไปหน่วยเคมีคลินิกเรา ก็ตั้งตรงอยู่บนห้องศพ แต่กลิ่นศพ แม้พวกเราจะไม่ชอบแต่พวกเราก็ไม่แพ้ แปลกแต่จริง ถ้าเป็นกลิ่นน้ำหอม พวกเราแพ้แบบมีอาการ ไม่ว่าจะจาม จมูกฟุดฟิด มีน้ำมูก เป็นอย่างนี้หลายคน เราลองวิเคราะห์กันว่าเพราะอะไร???.สรุปกันว่า..
พวกเราอาจจะชินกับกลิ่นธรรมชาติ แม้จะเน่า หรือเหม็นเพียงใด เราไม่แพ้ แตกต่างกับกลิ่นหอมแต่มาจากการสังเคราะห์ แม้หอมแต่เราแพ้ ...
ก็ไม่รู้ว่าวิเคราะห์ถูกหรือผิด
ไม่มีความเห็น