น้ำนมสีแดง
บทกวีนิพนธ์เรื่อง “น้ำนมสีแดง” เป็นกวีนิพนธ์ประเภทร้อยแก้ว เป็นนิทานเกี่ยวกับแม่หมาป่าที่ยอมสละชีวิต เพื่อลูกหมาป่าทั้งสามตัว กวีจะเริ่มต้นจากการ พรรณนาธรรมชาติไว้อย่างยิ่งใหญ่แล้วไปจบลงด้วยคติธรรมตัวละคร : แม่หมาป่า , ลูกหมาป่า 3 ตัว , พราน (ผู้ถูกกล่าวถึง) , รุกขเทพเจ้าป่า
ฉาก : จะเริ่มต้นจากการพรรณนาธรรมชาติที่วังเวงอ้างว้าง ไปจนถึงป่าใหญ่ที่โล่งกว้าง
เรื่องย่อ : มีแม่หมาป่าอยู่ตัวหนึ่งกำลังจะออกไปหาอาหารให้ลูกหมาป่ากิน ซึ่งลูกหมาป่าก็รออยู่ในโพรงไม้ใต้ซอกหิน แต่บังเอิญแม่หมาป่าเกิดพลาดพลั้งขาหลังข้างหนึ่งไปติดกับดักของนายพราน แม่หมาป่าตกใจมาก ในนาทีอันคับขันแม่หมาป่าตัดสินใจกัดขาตัวเองจนเข่าขาดหนีไป แต่แม่หมาป่าก็เจ็บปวดแสนสาหัส เลือดไหลตลอดทาง เพราะรีบวิ่งมาหาลูกน้อย สามลูกหมาป่าดีใจ รุมล้อมแม่หมาป่าเพื่อขออาหาร แม่หมาป่าสุดเจ็บปวด เดินโซเซเสียหลักล้มลงแต่ก็รีบกลับตัวอยู่ในท่าให้นมลูก แม่หมาจ้องมองลูกแล้วสลดใจ บอกกับลูกๆทุกตัวว่า “ลูกเอ๋ย คืนนี้แม่เหนื่อยเหลือเกินแล้ว ยังหาเหยื่อมาให้ลูกไม่ได้เลยแต่แม่ยังมีน้ำนมสีแดงเหลืออยู่ แม่เก็บเอาไว้ให้ลูกเป็นพิเศษ แต่ต้องผลัดกันดื่มทีละตัวนะ” ลูกหมาป่ายังไร้เดียงสามันจึงดูดเลือดจากบาดแผล ด้วยความเข้าใจผิดคิดว่าเป็นน้ำนมวิเศษ จึงดื่มจนอิ่ม
กระทั่งแหมแม่หมาป่าสุดอ่อนเพลีย ชีพจรเต้นช้าลงเพราะสูญเสียเลือดมาก ลูกหมาตัวสุดท้องถามแม่ว่า "ทำไมน้ำนมของแม่เป็นสีแดงและปนรสเนื้อหวาน ลูกไม่เคยกินเลย” “ลูกเอ๋ย นี่แหละน้ำนมมื้อสุดท้ายที่แม่เก็บไว้ทั้งชีวิต แม่อยากให้ลูกดื่มจนหมด” เสียงแม่หมาค่อยๆแผ่วลง แต่ก็ยังสั่งลูกว่า “ถ้าเลยสามวันแล้วแม่ยังไม่ตื่นถ้าลูกหิวก็ขอให้ลูกแทะกินซากของแม่เป็นอาหารได้เลย รีบโตเร็วๆและอย่าทอดทิ้งกัน ถ้าเจ้าคิดถึงแม่และความรักแท้ของแม่ให้ลูกเรียกหาแม่ตรงพระจันทร์บนฟากฟ้า” พลันแม่หมาก็สิ้นใจตาย เมื่อลูกแม่หมาเห็นก็รู้สึกโศกเศร้า ซบกับศพของแม่แล้วร้องไห้ สามวันผ่านไปลูกหมาหิวโหยไม่ไหวนึกถึงคำที่แม่ได้บอกไว้จึงพากันแทะเล็มซากของแม่หมาป่า เมื่อลูกหมาป่าโตรขึ้นก็ยังจำคำมั่นสัญญาอาลัยแม่ไม่เคยลืม จึงพร้อมใจกันไปหอนที่ยอดผาเพื่อระลึกถึงคุณค่าน้ำใจของมารดาอันประเสริฐสุด ต่อมาสามลูกหมาป่าก็ใกล้ตาย จึงพร้อมใจกันตาย ยึดเอาผาของแม่เป็นสุสานข้อคิดที่ได้รับ : ได้เห็นถึงความรักของแม่ที่ประเสริฐสุดยอมเสียสละแม้กระทั่งชีวิตเพื่อลูกขนาดตายไปแล้วยังสั่งลูกไว้ว่าเมื่อหิวก็ให้กินซากศพของแม่ได้เลย ไม่เคยคิดถึงชีวิตตนเองคิดถึงแต่ลูกของตน เหมือนคำที่ว่า “แม่ไม่เคยต้องการอะไรจากลูก ลูกอยากได้อะไรแม่ก็ให้ได้ แม้กระทั่งชีวิตของแม่แม่ก็ให้ได้”
***** ถ้ามีปัญหาหรือมีข้อเสนอแนะใดก็เชิญได้นะค่ะ *****
ขอบคุณมากนะค่ะ แล้วจะหามาให้อ่านอีกค่ะ
เป็นการใช้ภาษาไทยได้อย่างสวยงาม มีความสุนทรียภาพของภาษาจริงๆ
เวลาพิมพ์ยากไหมครับ เพราะเวลาอ่านต้องใช้นิ้วไล่ไปตามตัวอักษรด้วย ( มันไม่ธรรมดา) เหมือนการอ่านทั่วๆไป
ชีวิตแม่นั้นประเสริฐนัก
ให้แต่แม้แต่ชีวิตของแม่
น่าเสียดายที่แม่ไม่ได้สอนลูกให้ใช้ชีวิตกับโลกภายนอก
น่าเสียดายจริง ๆ ค่ะ
ดีครับ น้องอรนุช
เป็นการใช้ ภาษา/สำนวน/การลำดับเหตุการณ์ ได้ดีมากครับ เป็นกำลังใจให้นะครับ
ประสพ สิทธิเลิศ
รักแม่มากที่สุด แม่คือชีวิตของลูก รักแม่มากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
ซึ้งมากค่ะ....อ่านแล้วน้ำตาไหลเลย
เก่งจังเลยค่ะ....ถ้าพี่เขียนนวนิยาย จะไปอุดหนุนนะคะ....
ตอนนี้กำลังเข้ามหาลัยแล้วค่ะ..อยากเก่งแบบพี่จังเรียนปีไหนแล้วค่ะ
ให้ข้อคิดดีมาขออนุญาตนำไปเล่าให้เด็กนักเรียนในห้องฟังนะค่ะ
ขอเอาไว้เผยแผ่ในวันแม่ปีหน้าหน่อยนะครับ อ่านแล้วกินใจมาก ในมุมมองของแม่ที่เสียสละนะครับแต่จริงๆ แล้วแม่ก็มีหลายมุมมอง มุมมองนี้เป็นสิ่งเตือนใจที่ดีทีเดียว แต่เผอิญเป็นครู เคยได้สัมผัสกับแม่หลายคน(ของนักเรียน) ลองหาแง่มุมอื่นบ้าง แล้วจะติดตามนะครับ