ปีใหม่ที่เริ่มต้นขึ้นของคนทั่วไป หลายคนก็ยังต้องปากกัดตีนถีบกันต่อไป คนเร่ร่อนไร้บ้านที่สนามหลวงคลองหลอดก็อยู่ยากมากขึ้นเพราะมีงานสำคัญที่ผู้คนมากมายต่างหลั่งไหลมาที่สนามหลวงและใช้พื้นที่รอบ ๆ สนามหลวงเป็นที่พักผ่อนในระหว่างรอญาติสนิทมิตรสหาย ดูอย่างผิวเผินหลายคนอาจจะมองว่าก็ไม่น่าจะมีอะไร เพราะในเมื่องานสำคัญแบบนี้ทุกฝ่ายก็ต้องให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี
ในอีกมุมมองหนึ่งที่ไม่ควรมองข้ามผ่านคือคนที่ใช้ชีวิตและมีวิถีชีวิตอยู่ในพื้นที่ดังกล่าวเป็นที่พักพิง หลับนอนและอยู่อาศัย จากการสอบถามพุดคุยทำให้พบว่า หลายคนวิตกกังวลว่า หลังจากงานพระราชพีพระราชทานเพลิงพระศพสมเด็จพระเจ้าพี่นางฯจะมีคนเร่ร่อนไร้บ้านเพิ่มจำนวนมากขึ้น
เหตุที่วิตกและหวาดกลัวเช่นนั้น ก็เพราะว่าหลายคนที่อยู่ที่สนามหลวงทุกวันนี้ ก็เริ่มต้นจากการมาร่วมงานพระราชพิธีถวายเพลิงพระบรมศพของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี เมื่อปี 2538 และใช้ชีวิตอยู่ที่สนามหลวงเรื่อยมา บางคบอกว่า รุ่นใหญ่ ๆ ที่เสียชีวิตไปบางคนมาตั้งแต่ ปี 2525 ช่วงฉลองสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ 200 ปี บางคนมาตั้งแต่ช่วงงานพระบรมศพของสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินี รัชกาลที่ 7 และก็อยู่แบบปักหลักที่สนามหลวงเรื่อยมา.....
คนสนามหลวงหลายคนนั่งมองการเตรียมงานพระราพิธีของฝ่ายที่เกี่ยวข้องและบอกเล่าอย่างชำนิชำนาญ ราวกับว่า เป็นนายช่างใหญ่ที่ควบคุมงานมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน หากแต่เป็นเพียงคนตัวเล็ก ๆ ที่ไม่มีแม้บ้านจะซุกหัวนอน แต่สิ่งที่เขาเหล่านี้เห็นและนั่งเฝ้ามองผ่านช่วงวัยต่าง ๆ ที่เขาอยู่ในพื้นที่ มันคือภาพที่สะสมเรื่องราวและพร้อมที่จะบอกเล่าความเป็นไปของเมืองหลวงที่มากด้วยเรื่องราวต่าง ๆ มากมาย ที่หลายคนมองข้ามผ่าน
เรื่องราวบอกเล่า เล่าขานตำนานเมือง ตำนานการใช้พื้นที่สนามหลวงในช่วงเวลาต่าง ๆ ที่ คนสนามหลวงน่าจะเป็นผู้เล่าเรื่องได้ดีที่สุด น่าจะมีใครซักคนลงไปเก็บเรื่องราวเหล่านี้โดยละเอียดแล้วนำกลับมาเล่าให้คนเมืองที่มีโอกาสมากกว่า เขาเหล่านี้ เพื่อที่จะได้เห็นมุมมองที่แปลกและตกต่างกันออกไปท่ามกลางเหตุการณ์ณืสำคัญแห่งประวัติศาสตร์ของชาติ แบบนี้
ไม่มีความเห็น