หลังจากกลับดูงานปกติเราน่าจะสดชื่น กระตือรือร้น แต่วันนี้กับรู้สึกเหมือนเรากำลังอ่อนล้าเอามาก ๆคล้ายกับเพิ่งผ่านการต่อสู้อะไรมาสักอย่าง
ในความรู้สึกตนเอง เรากำลังอ่อนไหวต่อสิ่งต่าง ๆรอบข้าง อ่อนไหวต่อคำพูด อ่อนไหวต่อสายตา เรานั้นเป็นเพียงมนุษย์ปุถุชนคนหนึ่งย่อมมีบ้างที่ต้องรู้เจ็บ รู้ร้อน รู้หนาว
พยายามตั้งสติตนเอง เรากำลังทำอะไรอยู่ ทำเพื่อใคร ทำไปทำไม???
นี่คือความเจ็บปวดที่เกิดขึ้น ไม่กับตนเอง แม้แต่ "เพื่อน" ผู้ร่วมงาน และคนใกล้ชิดที่กำลังเผชิญอยู่
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับผู้ร่วมงานของเรา ความเห็นที่หลากหลาย หลายความเห็นเป็นกำลังใจ แต่หลายความเห็นต้องการกระทบและต่อว่าคนข้าง ๆ
ก่อนที่จะสอนผู้อื่น ผมจะพยายามมองตัวเองก่อนเสมอ ก่อนจะพุดอะไร ต่อว่าใคร จะพยายามคิดเสมอว่าตัวเราเองดีแค่ไหน
มีข้อมูลดีเพียงพอขนาดไหน แหล่งข้อมูลเป็นอย่างไร
การเปลี่ยนแปลงอย่างไรก็ต้องเกิด...เกิดขึ้นกับทุกสรรพสิ่งในโลกนี้
ที่ผ่านมาเรายังรับได้...ทนได้...
เหตุไฉน..........
ให้โอกาสคนอื่นเท่ากับให้โอกาสตนเอง....... คิดอยู่เสมอ
เราทำเพื่อใคร...???
เหตุการณ์...ไม่อยากให้กลับมาซ้ำรอยเดิม.......3 ปีแห่งความล้าหลัง.....
สวัสดีครับ...
ความฝันและเป้าหมายยังคงเดิม..ไม่จางหาย คือองค์กรที่มีชีวิตและคุณภาพครับ....
แต่การเปลี่ยนแปลงอาจจะเร็วและรุนแรงไปหน่อยนะครับ....
หลายสภาวะ หลายประกฏการณ์ หลายเรื่องราวที่เกิดขึ้น...
ตอนนี้ผมเรียนรู้ รับรู้ด้วยความเข้าใจครับว่า มันเป็นธรรมชาติ...เป็นสิ่งที่ดีที่ทำให้เราเห็นและรับรู้ผลกระทบ ปฏิกิริยาต่างๆ.
.เป็นสิ่งที่บอกว่าเรากำลังทำไป เร็วและอาจจะมีมุมเดียว ไม่ได้มองผู้คนอื่นๆอีก ที่ยังต้องร่วมงาน ต้องเดินทางไปกับเรือลำเดียวกัน ลำนี้...
เหมือนว่า..เรื่องราวที่เกิดขึ้นคอยกระตุกให้เราได้มองย้อนกลับไปดูแล ใส่ใจกับผู้คนมากขึ้น...เรียนรู้และเข้าใจวาระของผู้คนต่างๆ
และทำให้เราช้าลง เพื่อคอยเก็บเกี่ยวเรื่องราว ปัญหาอุปสรรคที่อาจจะตกค้างระหว่างทางเดิน ทำให้ทางเดินของเรายั่งยืน อนาคตแข็งแรง...
ไม่เป็นไรครับ..ใจเย็นๆ...
ผมว่า...การเปลี่ยนแปลงที่ประกอบด้วยกุศลจิต...การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นจากผู้นำที่เชื่อมั่นในเรื่องความยุติธรรม ในเรื่องความดี ความจริง ความงาม นั้น จะทำให้ผู้คนค่อยๆเปลี่ยนแปลง และเข้าใจในที่สุดครับ...
อุปสรรคของเรากับคนอื่นก็ไม่ต่างกันครับ
คือเป็นเรื่องของจิตใจ เป็นเรื่องจิตวิญญาณ...คือระดับของการรู้
..หรือพุทธิภาวะ...
...เราก็ยังต้องเรียนรู้อีกมากมายเช่นกันครับ...เพื่อละวางความยึดถือ..
..เราก็ต้องเรียนรู้อีกมากครับ..เพื่อเรียนรู้กิเลส..ที่อาจจะทำให้เราหลง...
...ขอให้ท่านกระท้อนเจริญในธรรมยิ่งๆขึ้นนะครับ....
เรียนท่านสุพัฒน์
การเปลี่ยนแปลงในสายตาเราอาจมองเป็นกุศลจิตจริง ๆผมไม่เคยไขว่คว้าจากที่ใด ๆ หากแต่เป็นไปตามธรรมชาตและความเหมาะสม
จริง ๆอยากให้มองที่เนื้องานมากกว่าตัวบุคคลเนาะ?
การเรียนรู้และการเปลี่ยนแปลงไม่มีวันสิ้นสุด...
ไม่เป็นไรหรอกครับ......เวลายังเหลืออีกนานในการก้าวสู่จุดหมายที่พวกเราต้องการ
สวัสดีค่ะ
- เห็นท่านเขียนหน้านี้นาน ๆ คิดเหมือนกันค่ะว่า คนทำงาน เริ่มเจอปัญหาเข้าแล้ว
- การเปลี่ยนแปลงย่อมเกิดกระแสตามมาหลายด้าน ทั้งด้านดีและด้านลบ วัฒนธรรมที่เคยดำเนินมา ย่อมได้รับการกระทบ กาลเวลาอาจทำให้ลืมเลือน หรือจางหาย
- ชื่อว่าศรัทธา ความมุ่งมั่น เพื่อข้ารับใช้แผ่นดินพ่อหลวง คงมุ่งมั่นฟันฝ่าอุปสรรคนี้ไปได้
- อุปสรรคมีไว้คอยฟันฝ่า ปัญหามีไว้คอยแก้ไข เหมือนเรากินข้าวย่อมกินกับยังไง ยังงั้นเลยค่ะ อิ อิ อิ ( เปรียบเทียบไม่เห็นเข้าท่าเลยแฮะ ล้อเล่นค่ะ)
สู้โว้ย เหมือนนักยกน้ำหนักหลานย่าโม ค่ะ
สวัสดีครับอาจารย์เพชรน้อย
รู้สึกเศร้าในเรื่องท่านสมคบมาก ๆ
และรู้สึกเศร้าปนแสลงใจเมื่อได้อ่านจากหลายความเห็น หลายความเห็นในนั้นเป็นความเห็นที่ให้กำลังใจ แต่หลายความเห็นนั้นมีที่มา
เพราะหลายความเห็นต้องการส่งกระทบคนรอบ ๆข้างมากกว่า
ท่านสุพัฒน์บอกอย่าหวั่นไหว "คนทำดี คิดดี ผลย่อมออกมาดี" พยายามให้กำลังใจทั้งตนเองและเพื่อนร่วมงาน
สวัสดีครับท่านกระท้อน
เมื่อรักจะทำงาน เราหลีกสิ่งที่ท่านประสบไม่ได้เลย บางครั้งเราก็รู้สึกท้อแท้ เบื่อหน่ายในสิ่งที่เราทำดีแต่มีคนป่วน พูดไม่รักษาน้ำใจใครต่อใครที่ร่วมงาน แต่มันเป็นสัจจธรรมของโลก ถ้าทุกคนรวมพลังทำงานอย่างจริงใจไม่สนใจคำพูดไร้สาระ ผลประโยชน์ก็จะเกิดแก่สังคม
มาให้กำลังใจครับ
สวัสดีครับ อ.ขจิต
ยังสู้เสมอครับ ไม่มีถอย 3 ปีที่ผ่านมายิ่งกว่านี้ยังทนได้ครับ
ขอบคุณสำหรับกำลังใจ
จะขออนุญาตปรึกษาการทำค่ายเยาวชน(แนวใหม่)ครับ
สวัสดีครับท่านอัยการชาวเกาะ
ความเห็นและกำลังใจของท่านทำให้ผมพร้อมครับ
บอกตัวเองเสมอครับว่า "เราไม่ได้ทำเพื่อตนเอง เราทำเพื่อประชาชนครับ"
ขอบคุณครับสำหรับกำลังใจที่ส่งมาครับ
เป็นเช่นนั้นเองนะครับผม นักรบย่อมต้องมีบาดแผล
วิกฤติเป็นโอกาส ทำให้ดี และทำให้ดีที่สุดนะครับ
------------------------
เป็นกำลังใจให้ครับ
สวัสดีค่ะ
-เมื่อรบต้องมีบาดแผล หากเราเป็นนักรบ(เหมือนความคิดคุณเอก)
แต่ไม่เป็นไร พยาบาลตัวน้อย(น้อยเสียเมื่อไรตั้ง 50 กว่า ๆ )
จะคอยล้างแผล ส่วนหมอสุพัฒน์จะคอยรักษา
แถมมนต์ดำจากพ่อมดอ๊อดอีกต่างหาก
รับรองไม่หายก็ให้รู้ไปเลยค่ะ 555
เรื่องการพัฒนาเยาวชนของเรา
คิดว่ามีหลายๆท่านที่เราสามารถติดต่อได้มาช่วยกัน
เช่น คุณยอด(ปางมะผ้า) และองค์กรที่ทำงานด้านเด็ก หายๆคนที่ผมรู้จัก งานนี้สนุกแน่ๆครับ
สู้ๆครับ
สวัสดีครับเอกน้องรัก
อานุภาพและพลังจากเพื่อน Blogger ช่างมีอานุภาพเหลือร้าย จากคนที่รู้สึกอึดอัดกลัดกลุ้มก้อผ่อนคลายกลายเป็นกำลังใจเสียได้นี่!
ช่างชื่นใจกับคำว่าการพัฒนาเยาวชนของเรา นี้เสียจริง
รอคาบสถาพรกลับมา จะเชิญหารือร่วมกันอีกครั้งครับ
สวัสดีครับอาจารย์เพชรน้อย
-เมื่อรบต้องมีบาดแผล หากเราเป็นนักรบ(เหมือนความคิดคุณเอก)
แต่ไม่เป็นไร พยาบาลตัวน้อย(น้อยเสียเมื่อไรตั้ง 50 กว่า ๆ )
จะคอยล้างแผล ส่วนหมอสุพัฒน์จะคอยรักษา
แถมมนต์ดำจากพ่อมดอ๊อดอีกต่างหาก
รับรองไม่หายก็ให้รู้ไปเลยค่ะ 555
หายแล้วครับผม หายตั้งแต่รู้ว่าเรามี "เพื่อน" และมีกำลังใจครับผม !!
"เรากำลังอ่อนไหวต่อสิ่งต่าง ๆรอบข้าง อ่อนไหวต่อคำพูด อ่อนไหวต่อสายตา เรานั้นเป็นเพียงมนุษย์ปุถุชนคนหนึ่งย่อมมีบ้างที่ต้องรู้เจ็บ รู้ร้อน รู้หนาว
พยายามตั้งสติตนเอง เรากำลังทำอะไรอยู่ ทำเพื่อใคร ทำไปทำไม???
นี่คือความเจ็บปวดที่เกิดขึ้น" ขอเป็นกำลังใจให้ค่ะ แต่ดิฉันเคยอ่านหนังสือ"รอยพระยุคลบาท" ของพล.ต.อ.วสิษฐ์ เดชกุญชร ที่เขียนไว้ว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้ทรงพระกรุณาพระราชาทานพระให้ ก่อนที่จะเอาไปบูชาให้ปิดทองเสียก่อน แต่ให้ปิดเฉพาะหลังพระเท่านั้น และพระราชทานพระบรมราชาธิบายว่า ที่ให้ปิดทองหลังพระก็เพื่อจะได้เตือนตัวเองว่า การทำความดีไม่จำเป็นต้องอวดใคร หรือประกาศให้ใครรู้ ทำหน้าที่เพื่อหน้าที่ และถือว่าความสำเร็จในการทำหน้าที่เป็นบำเหน็จรางวัลที่สมบูรณ์แล้ว
ทุกวันนี้ดิฉันใช้ข้อความนี้แหละค่ะ สำหรับการดำเนินชีวิต