การที่เรามาทำงานในแต่ละวัน ถ้าอยากสนุกนั้นไม่ยากเลย เมื่อมีโอกาสได้พบเพื่อนร่วมงานต่างหน่วยงาน บางวันได้คุยกับคนก็เกิดการเรียนรู้ หรือตั้งเป็นข้อสังเกตที่นำไปต่อยอดในการทำงานได้
นานมาแล้วที่ไม่เคยพบกับเหตุการณ์แบบนี้ ตอนที่เข้ามาทำงานช่วง 5 ปีแรกเคยมีผู้บังคับบัญชาที่อยู่เหนือเราไป 2 ชั้น เป็นหัวหน้าที่หาได้ยากยิ่งในความเห็นของเรา เพราะทำให้ลูกน้องทุ่มเททำงานให้ด้วยใจ ไม่ว่างานจะเหน็ดเหนื่อย หนักหนาสาหัส จากครั้งนั้นเป็นประสบการณ์ตรง แต่คราวนี้ ขนาดว่าไม่ใช่หัวหน้าของเรา แต่กลับรู้สึกปลื้มใจ และประทับใจในความสัมพันธ์ของคนคู่หนึ่ง ที่อดีตเคยเป็นนายลูกน้องกันมาก่อน
เรื่องมีอยู่ว่า ช่วงนี้เป็นช่วงก่อตั้งคณะกรรมการต่างๆ หลายคณะที่เราต้องเข้าไปรับผิดชอบเป็นเลขาคณะบ้าง เป็นหัวหน้าคณะบ้าง จึงเกิดเหตุการณ์ต้องเจรจาขอตัวคนมาทำงานจากผู้บังคับบัญชาของเขา เริ่มแรกต้องคุยกับพี่ระดับฝ่ายท่านหนึ่งเพื่อเชิญเป็นกรรมการคณะใหญ่ และพี่เขาต้องเลือกระดับแผนกมาอีกหนึ่งท่านเพื่อมาเป็นหัวหน้าทีมงานย่อย พี่ระดับฝ่ายเสนอให้เราเลือกหลายชื่อ เราจึงต้องไปหาข้อมูลว่าแต่ละท่านนั้นเหมาะสมกับงานที่มาทำมากน้อยแค่ไหน หลังจากขอคำปรึกษาเรื่องนี้กับผู้บริหารระดับส่วนในบริษัทท่านหนึ่ง ว่าจะเลือกคนนี้ดีไหม ไม่รู้เขาจะเต็มใจมาทำหรือเปล่า เพราะงานเขายุ่งมาก ก็ได้รับคำตอบว่า ถ้าหากบอกไปว่าพี่ระดับฝ่ายท่านนั้นเป็นคนขอให้มาทำ เขาไม่มีวันปฏิเสธ บอกให้ทำอะไร ทำให้ทุกอย่าง ครั้งแรกที่ได้ยินยังบอกว่า “ขนาดนั้นเชียวหรือ ไม่อยากเชื่อ”
หลังจากนั้นวันนึง ตัดสินใจได้จึงโทรไปทาบทามเจ้าตัว และบอกว่าคนที่แนะนำให้มาขอ คือพี่ระดับฝ่ายท่านนั้น เขาบอกว่า ยินดีที่จะช่วยถ้าพี่ท่านนี้ให้ทำอะไร ทำให้ได้ทุกอย่าง เพราะรักมาก และยังอยากช่วยเราทำงานด้วย ตอนที่ได้ยินรู้สึกอึ้งไป แล้วก็ตื้นตันแทนพี่ท่านนั้น จึงบอกไปว่า....ถ้าเราเป็นพี่ระดับฝ่ายท่านนั้นมาได้ยินแบบนี้ คงดีใจมากที่มีคนรักเรา ภักดีกับเราถึงขนาดนี้ หลังจากวางสายโทรศัพท์แล้ว เกิดความคิดนั่งทบทวนเหตุการณ์ หาเหตุและผล รวมถึงประสบการณ์ที่เราเองก็เคยคุย หรือร่วมงานกับพี่ผู้จัดการฝ่ายท่านนี้มาหลายงาน แม้จะไม่ได้ใกล้ชิด มากนักก็ตาม
ทั้งที่ทั้งคู่ไม่ได้เป็นเจ้านายลูกน้องกันแล้ว ความผูกพัน อยากช่วยงานก็ยังมีอยู่ อย่างนี้ต้องเรียกว่าพี่ท่านนั้นต้องมีพระคุณกับเขามาก ไม่ได้ใช้พระเดชแต่เพียงอย่างเดียว คาดเดาว่าน่าจะมาจากการให้เกียรติ ให้ความสำคัญ ดูแลลูกน้องเหมือนน้อง เหมือนลูก ให้รางวัลเมื่อทำดี
งานนี้ได้ของแถม นึกถึง Appreciative Inquiry หรือ AI ขึ้นมาทันที ได้เรื่อง ต้องหาโอกาสไปสัมภาษณ์ หรือพูดคุยลึกๆ แล้วคงให้พี่เขาช่วยทำ story telling เพื่อเป็นตัวอย่างดีๆ ในการพัฒนาผู้นำคนอื่นๆ หลังจากนั้นอีกไม่กี่วัน นำเรื่องนี้ไปเล่าให้เจ้านายฟัง พี่เขาก็ชอบมากและช่วยต่อยอดว่า น่าจะใช้ตัวอย่างนี้เป็นกระบวนการหนึ่งที่นำไปช่วยสร้างบรรยากาศการทำงานในองค์กรให้แข็งแรง มากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ
พอดีมีมิตรรักมาให้ความเห็นด้านล่าง เกี่ยวกับการให้ใจ เพื่อให้ได้ใจ
ลองดูตัวอย่างการตอบแทนความรักของสิงโตที่มีต่อความรักและเมตตาของคนที่ช่วยชีวิต เป็นการให้ใจแบบสิงโต น่ารักดีค่ะ
ผมเคยได้ยินมาว่า ๑)ในหมู่ทหารนั้น ลูกน้องจะตายแทนนายได้ ๒)ผู้บัญชาการเรือ เมื่อถูกยิงจะจม จะให้ลูกน้องสละเรือก่อน ตนเองจะออกจากเรือทีหลังหรือยอมจมไปกับเรือเลย
ที่ผมเห็นมาเองครั้งหนึ่ง คือในร้านอาหารแห่งหนึ่งที่จังหวัดกำแพงเพชร (ไม่อยากบอกเลยว่าชื่อร้านกำแพงเพชรโภชนา มีข้าวหน้าไก่และก๋วยเตี๋ยวไก่ ที่อร่อย) ผมและครอบครัวก็เข้าไปทาน ปรากฏว่ามีทหารนั่งทานกันอยู่เต็ม โชคดีว่าเขาได้กันครบแล้ว จึงไม่ได้คอยนาน ได้เห็นว่าเวลาจ่ายเงิน พลอากาศเอกวรนารถ อภิจารี ซึ่งเป็นผู้บัญชาการทหารอากาศในขณะนั้น ลุกไปควักจ่ายเงินเองที่เคาน์เตอร์ โดยคนอื่นนั่งมองเฉยๆ (อย่างเห็นว่าเป็นเรื่องปกติ)
ส่วนในแวดวงแพทย์ด้วยกันเวลาไปกินข้าว พี่ก็ต้องจ่ายเป็นวัฒนธรรมอยู่แล้ว
ก็เลยคิดว่าการเป็นนายต้องเป็นผู้ให้ จึงจะได้ใจจากลูกน้อง
หายไปนานเลยนะคะ ดีมากเลยคะที่เราได้พบพะกับคนในสายงานเดียวกันจะได้มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้คะ และทำให้เรามีเพื่อนใหม่เพิ่มมากขึ้นคะ
สวัสดีค่ะ
ขอขอบพระคุณ คุณหมอ ที่มาให้ความเห็นเพิ่มเติม ซึ่งเป็นแวดวงที่แตกต่างออกไปจากภาคธุรกิจ ทำให้เห็นว่าแต่ละสังคมย่อยมีวัฒนธรรม หรือธรรมเนียมปฏิบัติที่แตกต่างออกไป
สำหรับที่บริษัทจะมีวัฒนธรรมแตกต่างจากที่คุณหมอได้เล่าให้ฟังค่ะ บางหน่วยงานพี่ใจดี ก็จะเหมือนในกลุ่มแพทย์ แต่บางคนก็ไม่ใช่ เลี้ยงบ้างเป็นบางโอกาส ทำให้กรณีตัวอย่างที่เล่าให้ฟัง เป็นเรื่องที่ไม่ค่อยพบเห็นมากนัก สำหรับผู้จัดการฝ่ายท่านนี้ อยากเรียกว่าซื้อใจคนได้ด้วยใจ ตอนที่คณะนักร้องประสานเสียงเดินไปร้องเพลงอวยพรปีใหม่ตามหน่วยงานต่างๆ มีพี่ท่านนี้ท่านเดียวที่ควักเงินให้เป็นค่าขนมเป็นธนบัตรสีน้ำตาล คุณค่าของสิ่งที่ได้รับไม่ใช่เงิน แต่คือสินน้ำใจ
หัวหน้าบางคนพอโยกย้ายไป ก็ไม่มีความผูกพันใดๆ ลึกซึ้ง และการจะขอให้คนมาทำงานร่วมกับเราเป็นคณะทำงานพิเศษ เป็นการขอข้ามสายงาน และต้องให้เจ้าตัวยินยอมพร้อมใจ แล้วจึงจะไปขอผู้บังคับบัญชาก็มี ดังเรื่องที่จะมาเล่าให้ฟังในบันทึกต่อๆ ไปค่ะ
สวัสดีค่ะ
citrus เห็นด้วยกับครูหล้า ค่ะ คนเรานั้นอยากได้ใจคนอื่น ก็ต้องให้เขาด้วยใจด้วย ไม่ว่าเราจะคบเขาแบบไหนก็ตาม
เมื่อวันก่อนได้รับ e-mail จากเพื่อน เขาส่ง clip mpeg มาให้ดู เป็นเรื่องของผู้หญิงคนหนึ่งที่พบลูกสิงโตป่วยปางตาย อยู่ในป่า เธอเก็บมาชุบเลี้ยง ให้การรักษาจนแข็งแรง และคิดว่าจะนำไปไว้ที่สวนสัตว์ วันหนึ่งเธอไปเกาะลูกกรงเรียกเจ้าสิงโต พอเขาเห็นผู้หญิงคนนี้ก็ยืน แล้วยื่นขาหน้าทั้งสองมากอดคอ และพยายามเอาหน้ามาซบ พฤติกรรมเหมือนคนไม่มีผิด
แสดงว่าสัตว์ก็รับกระแสจิตแห่งความรัก และเมตตา ซ้ำยังมีความรักตอบและสามารถแสดงออกคล้ายคนได้อีกด้วย
สวัสดีค่ะคุณ
อยากจะบอกเหมือนกันค่ะ เพราะพี่เขาเป็นคนที่มีทัศนคติทางบวก และใครมีปัญหา ไปขอความเห็น หรือขอความช่วยเหลือ ก็มักจะไม่ผิดหวัง โดยเฉพาะ citrus ตั้งแต่มาทำงานที่ธุรกิจนี้ ก็เคยไปขอความช่วยเหลือบ้าง แม้แต่ตอนที่ไปเรียนต่อ ต้องทำรายงานวิจัย ยังไปขอให้พี่เขาช่วยตอบแบบสอบถาม เขาก็ยินดีช่วยค่ะ
สวัสดีค่ะ อาจารย์ นก
รู้สึกเหมือนกันค่ะ ว่าไม่ค่อยมีโอกาสเข้ามาเยี่ยมเยียน G2K บ่อยเหมือนเมื่อก่อน เพราะช่วงที่ผ่านมาไม่รู้จะเขียนอะไรดีค่ะ ประกอบกับมีกิจกรรมนอกเรื่องงานช่วงเย็นมากไปหน่อย อิอิ
พอเปิดมาปีใหม่ ต้องรับผิดชอบงานมากขึ้น ช่วงเย็นถึงค่ำบางทียังต้องนั่งทำงานอยู่เลยค่ะ พอกลับมาบ้าน หมดแรง...จะรับประทานอะไรเพิ่มแรงดีล่ะคะ
ภาษิตจีนโบราณบอกว่า "นกไร้ขน คนไร้เพื่อน ยากจะขึ้นสู่ที่สูงได้"
ความหมายตรงตัวอยู่แล้ว คนเราถ้าจะเก่งเพียงคนเดียว ไม่มีเพื่อน ไม่มีลูกน้อง ไม่มีหัวหน้าคอยสนับสนุน ย่อมยากที่จะเจริญก้าว หน้าในการงานได้โดยง่าย
คนเก่งต้องเก่งทั้งในการบริหารจัดการตนเอง และการบริหารจัดการผู้อื่นให้สามารถทำงานบรรลุเป้าหมายได้ในที่สุด
มีความสามารถในการสร้างแรงจูงใจ
สามารถตัดสินใจ แก้ปัญหาและแสดง ออกได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตลอดจนการมีสัมพันธภาพที่ดีกับผู้อื่น
ดังนั้น การที่ หัวหน้า ออกเงินให้ลูกน้อง อาจเป็นเพียวส่วนเดียวที่แสดงความใจกว้างค่ะ ยังมีส่วนประกอบอย่างอื่นอีกมากมาย
การที่ลูกน้อง สามารถ พึ่งพิงได้ในยามมีปัญหางาน หรือเป็นผู้แสดงความสามารถให้ประจักษ์ ก็สำคัญค่ะ
หัวหน้าที่ทั้งดีและเก่ง จึงน่า จะเอาใจลูกน้องไว้ได้ค่ะ
ใครอ่ะครับพี่ส้ม อยู่ฝ่ายอะไรน้า อยากรู้จัง
ผมเองก็เกือบต้องไปอยู่ในคณะที่พี่ส้มดำเนินการซะแร้ววว พอดีว่าอาจจะมีโยกย้ายนิดหน่อย ภายในบริษัทเดิม ลูกพี่เค้าเลยไม่ได้ส่งชื่อผมไป
น้องเอก IF3 จ๊ะ
ดีใจจังที่มาเยี่ยมพี่ พี่ที่กล่าวถึงเขาเป็นใหญ่ในบางซื่อฝ่ายที่ทำผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ค่ะ
เสียดายจัง ไม่ได้มาร่วมกันสร้างสรรค์วัฒนธรรมองค์กร