บทละครเรื่อง พระมะเหลเถไถ


อ่านออกเสียงให้สนุกสนานเพลิดเพลิน

 

 ภาษาในวรรณคดี  เป็นภาษาที่ต้องอาศัยการตีความและต้องจินตนาการผสมผสานเข้าไป เพื่อสัมผัสให้ถึงปฏิภาณกวี  ซึ่งจะสอดแทรกอยู่ในถ้อยคำและเนื้อหาที่แต่ง  ตอนผู้เขียนศึกษาวรรณคดีล้านนาอยู่ที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่  เคยเดินทางไปเก็บข้อมูลแถวอำเภอรอบนอกของเชียงใหม่หลายอำเภอ ถึงกับไปนอนค้างอ้างแรมแบบโฮมสเตย์ ก็เคยมี  แต่ตอนนั้นไม่รู้ว่าเข้าไปอยู่แบบโฮมสเตย์เท่านั้นเอง น้ำใจไมตรีของคนพื้นเมืองชาวเชียงใหม่จริงใจใสสะอาด  เพราะพวกเขาพยายามถ่ายทอดเรื่องราวของวรรณคดีล้านนา  และคติชนวิทยา ได้อย่างน่าประทับใจ  ในครั้งนั้นผู้เขียนก็นำเรื่องพระมะเหลเถไถ ไปอ่านให้เขาฟัง  เป็นการแลกเปลี่ยน   พวกเขาชอบใจและขอลองอ่านออกเสียงด้วยตนเอง  ถึงจะไม่เข้าใจความหมาย  แต่ก็สนุกกับคำ  วันนี้เลยคัดลอกให้"คุณนิรนาม" อ่านออกเสียงเล่นๆ  และถ้าที่บ้านมีเด็กเล็กๆ ที่เป็นจอมป่วน  ลองอ่านพระมะเหลเถไถ  สยบพฤติกรรมดู  เพื่อเป็นการสร้างนิสัยให้คุ้นเคยกับสมบัติล้ำค่าที่เรามีแต่ไม่ค่อยได้ใช้ ......

เรื่องพระมะเหลเถไถ  เป็นเรื่องล้อเรื่องจักรๆวงศ์ๆ  ซึ่งไม่ได้มีเนื้อหาจรรโลงใจอะไรนัก  ผู้แต่งอาจจะมีเจตนาส่วนตัวแทรกอยู่ก็ได้  ลองอ่านส่วนหนึ่งที่คัดลอกมาสั้นๆ ก่อน  ถ้าชอบใจก็ลองหาอ่านฉบับสมบูรณ์ดูนะคะ

บทละครเรื่อง พระมะเหลเถไถ

แต่งโดย คุณสุวรรณ ในสมัยรัชกาลที่ 3

(ช้าปี่)* เมื่อนั้น พระมะเหลเถไถมะไหลถา สถิตย์ยังแท่นทองกะโปลา ศุขาปาลากะเปเล วันหนึ่งพระจึงมะหลึกตึก มะเหลไถไพรพรึกมะรึกเข แล้วจะไปเที่ยวชมมะลมเต มะโลโตโปเปมะลูตู ตริแล้วพระมะเหลจึงเป๋ปะ มะเลไตไคลคละมะหรูจู๋ จรจรัลตันตัดพลัดพลู ไปสู่ปราสาทท้าวโปลา ฯ๖คำฯ เพลงช้า ๏ ร่าย ครั้นถึงจึงเข้าตะหลุดตุด ก้มเกล้าเค้าคุดกะหลาต๋า มะเหลไถกราบไหว้ทั้งสองรา จึงแจ้งกิจจามะเลาเตา ด้วยบัดนี้ตัวข้ามะเหลเถ ไม่สบายถ่ายเทกะเหงาเก๋า จะขอลาสองราหน้าเง้าเค้า เที่ยวมะไลไปเป่าพนาวัน ฯ๔คำฯ ๏ เมื่อนั้น ท่านท้าวโปลากะปาหงัน กับนางตาลากะปาลัน ได้สดุบตรุบหันมะเลเท มะลอกทอกบอกว่าจะลาไป พนาปำทำไมจะไพล่เผล มะเลอเตอเป๋อเปื้อนเที่ยวเชือนแช จึงตรัสห้ามมะเหลเถมะเลทา เจ้าอย่าไปไชเชกะเปลู จงเอ็นดูพ่อเถิดมะไหลถา พระมะเหลไถเฝ้ามะเลาชา ก็จำให้ลูกยามะลาปอง ฯ๖คำฯ ๏ เมื่อนั้น มะเหลไถทูลลามาหงองก๋อง จึงตรัสสั่งเสนากะจารอง ให้ผูกม้าปาป๋องกะงึงกึง ฯ๒คำฯ ๏ บัดนั้น เสนารับสั่งกะงังกึ่ง ไม่นั่งนิ่งวิ่งไปมะลึงตึง มะลันตันครั้นถึงจึงบอกกัน ว่าบัดนี้มีรับสั่งมะเหลเถ ให้ผูกม้าปาเปกะหงันกั๋น จะเสด็จเตร็จเตร่มะเลตัน ว่าแล้วชวนกันมะแลงแตง ฯ๔คำฯ ๏ ยานี ผูกเบาะอานพานหน้ามะเหลาะเตาะ เข็มสลักปักเปาะกะแง๋งแก๋ง เตรียมทั้งพหลพลแปงแมง แล้วไปทูลแถลงมะแรงตา ฯ๒คำฯ ๏ ร่าย เมื่อนั้น พระมเหลเถไถมะไหลถา ได้ฟังเสนาทะเลาปา เสด็จมาที่สรงมะลงโช ฯ๒คำฯ เสมอ ๏ โทน สระสรงทรงสุคนธ์ปนตลึก ลูบไล้ไป่ปีกกะโง๋โก๋ สนับเพลาเชิงไชกะไรโจ ภูษาสีสะโรกะโปลัน เจียรบาดปักทองกะลองเต็ด ปั้นเหน่งเพชรสายสอดจรอดฉัน ฉลององค์อย่างน้อยกะปอยลัน มะลวงชวงปวงปันคั่นทองกร มงกุฎแก้วแวววาบมาราบรับ กรรเจียกจันปันกับมะหลอนฉอน ธำมรงค์จินดากะราชอน ตลุดฉุดอรชรมะลอนชัน ดูเลือบเชือบเหลือบแลกะโปงโลง งามดังปังโปงกำงั๋นกั๋น กะงวยกวยฉวยพระแสงมะแรงตัน มอระตอก็รันขึ้นอาชา ฯ๘คำฯ เชิดฉิ่ง ๏ ร่าย พร้อมหมู่โยธาพะลาแหน พลาหับนับแสนแน่นหนา ได้ฤกษ์เลิกพหลมะลนทา ออกจากภารากะปาโล ฯ๒คำฯ กราว ๏ ชมดง พระชมเขาเนาเนินกะหรกกก รุกขชาติดาษดกมะโหลโต๋ มะลาตันสาระพันกะลันโป กะลาปียี่โถมะโยตัน มะโยติงปริงปรางลางสาบ ลางสาดหาดหาบมะหลันปั๋น มะลันปีสีเสียดประเหยียดกัน ประยงคุ์แก้วแถวพันมะลันดา มาลีดวงพวงช่อมะลอชร มาลีชาดมาดซ้อมมะรอนฉา มะรินชิงจิงจ้อมะยอตา มะยมเต็มเข็มลามะกาโล มะกาลิงปิงปุ่มกะทุ่มท้อน กะทิงถินกลิ่นขจรมะลอนโหว มลิวันมันโมกกะโหลกโก กุหลาบแกมแนมโยทกาลี กาหลงชงโคมะโยแป๋ว มะโยปมนมแมวมะแลวฉี มะไลยฉาวสาวหยุดมะลุดลี มลิลาสารภีมะลีโช พระชมปักษากาลาชอน กะลาฉินบินว่อนกะล่อนโฉ กะลิงเฉียบเหยียบแต้วเค้าแมวโม เค้าเมงหมิ่นผินโผพะโวตา พะวาติบจิบจาบคาบไข่ ขาบเคียงเขาไฟไถลถา ถลาโถมโจมจับมารับกา รับกันจำพันจากะสาลม กะสาเล่นเบญจวันมะลันปี มะลันโปโนรีมะลีสม มะลาโสนโกญจากะทาทม กะทาเทืองเงื่องงมมะลมปา มะลาปิงคลิ้งโคลงอีโลงแล่น อีลุ้มลี้อีแอ่นกะแรนฉา กะเรียนฉาบคาบคั้นมะรันบา มาร่อนบินกินหว้ามะลาแชง มะลาชัดสัตวากระสาสูง กระแสเสียงเถียงยูงกะรูงแฉ่ง กะรอกฉวยกล้วยไม้ดูไวแวง ดุเหว่าหวานขานแข่งระแวงวัง ระเวงแว่วแจ้วเจื้อยระเรื่อยร้อง ระเรื่อยรี่มี่ก้องมะลองกั๋ง มะเลียบกิ่งทิ้งถ่อนมะลอนกัง มะเล่นกิ่งชิงรังมะลังโต มาโลดเต้นเม่นหมีชะนีบ่าง ชะนีแบดแรดช้างกะงางโก๋ กะแหงนเกยเสยแทงทะโยงโย ทยานโยกโศกโสทะโลเป ทลายป่นกล่นเกลื่อนทะเลือนเท่า ถลาโถมถล่มเท้าทะเลาเส ถลันสำถลำสวบระยวบเย ระยำทับเทมะเลทอน มะไลโทโคถึกมรึกคี มรึกคาพาชีมะหลอนฉอน มาลบเชือเสือสิงห์มะหิงษ์จร มหาใจไกรสรมะลอนชา ฯ๒๘คำฯ เชิด ๏ (สมิงทอง) เมื่อนั้น พระมะเหลเถไถมะไหลถา เพลิดเพลินฤทัยมะไลทา ลืมทุกข์ศุขามะลาจี ละเลิงจนสนธยาหัศดง หัสดับลับลงคิรีศรี พระจึงมีสิงหนาทประภาษพี สั่งพวกเสนีมะลีทา ให้ยับยั้งพหลกะรนจง กะร้อมชอมล้อมวงมะรงฉา แล้วให้ช่วยกันมะรันทา มะเรทับพลับพลาพนาลี ฯ๖คำฯ ๏ (ร่าย) บัดนั้น เสนารับสั่งมาลังปี๋ มะลุกปุกคุกเข่ามะเลาตี มะรันทังดังมีมะลีทา เกณฑ์กันฟันแฝกมะแลกแจง คัดขุดลุดแชงมาแลงฉา กะรับชับสรรพเสร็จมะเร็จตา สำเร็จตามบัญชามะลาเท ฯ๔คำฯ เจรจา ๏ เมื่อนั้น พระมเหลเถไถมะไหลเถ เสด็จขึ้นพลับพลามะลาเท มะไหลถอนนอนเอ้ทะเวกา ฯ๒คำฯ

  ยังมีต่ออีกนะคะ

หมายเลขบันทึก: 159869เขียนเมื่อ 17 มกราคม 2008 22:08 น. ()แก้ไขเมื่อ 21 มิถุนายน 2012 13:46 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (6)

อ่านยากจังครับ ถ้าแต่งเป็นภาษาบาลีคงจะได้เพราะสระอะเยอะเหลือเกิน

(เหมือนนั่งบริกรรมคาถาอะไรสักอย่าก็ไม่รู้) 555 หัวเราะครั้งที่ 1

ยังไงก็ขอให้ 999 เดินต่อไปครับ 

ขอถามถามอะไรอีหน่อยครับ คุณสุวรรณ ในสมัยรัชกาลที่ 3 นี่เป็นลูกศิษย์

ของสุนทรภู่หรือเปล่าครับ   สัมผัสคำเยอะเหลือเกิน อ่านจนลิ้นพันกันหมดแว้ว

555 หัวเราะครั้งที่ 2 

ถามอีกทีครับ ตอนพิมพ์นี่ตาลายเป็นลายสก็อตเลยเปล่า
อ่อ ลืมหัวเราะครั้งที่ 3 555 หัวเราะครั้งที่ 3

ขอเรื่อง ตัวอักษรชื่อ บอกฐานะ ความรัก อะไรประมาณนี้อะครับ

ขอขอบพระคุณล่วงหน้าคร้าบ 

555 หัวเราครั้งที่ 4 

ก้อหนุดดีอ่ะค่ะ

แต่ยังอ่านม่ายจบอ่ะ

มานยาวอ่ะค่ะ

โพสก่อน

เด๋วอ่านต่อค่ะ

แล้วข้อมูลที่คุณนำมาเสนอ

ได้สาระมาก

ได้ติดตามที่เขียนหลายหัวข้อค่ะ

 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท