ตั้งแต่ปลายปีที่แล้วจนถึงปีนี้ (พูดเหมือนจะนานมากเลยครับ) มีประเด็นหนึ่งที่ผมพยายามนำเสนอให้หลายๆ ท่านที่พยายามใช้ความคิดเพื่อทำความเข้าใจกับที่ผมนำเสนอฟัง คือ ทำไมผมจึงเรียกร้องการขยายฐานความคิดเกี่ยวกับอิสลามศึกษาให้มีความครอบคลุมมากกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน
ประการที่หนึ่ง อิสลามศึกษาในประเทศไทยตอนนี้มีสภาพเป็นอย่างไร คำตอบคือ เป็นการสอนเรื่องของศาสนาอิสลามให้กับนักเรียนในโรงเรียนได้เรียนรู้ ซึ่งปัจจุบันมีเวลาในการสอน ตั้งแต่สองชั่วโมงต่อสัปดาห์ไปจนถึง... (เท่าไรผมไม่แน่ใจ) ที่เห็นชัดๆ อาจจะถึงขั้นหกสิบเปอร์เซนต์เช่นในโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลาม เป็นต้น
ประการที่สอง การให้เวลาสอนประมาณ สองถึงแปดชั่วโมง (โดยประมาณ) ต่อสัปดาห์เพียงพอกับการสร้างเยาวชนให้เป็นผู้ศรัทธาที่สมบูรณ์แล้วหรือยัง สังเกตง่ายๆ ในเกือบทุกชุมชนยังคงมีการสอนนอกเวลาเรียนให้กับเยาวชนอีก เช่น ในโรงเรียนตาดีกา โรงเรียนคุรุสัมพันธ์ แสดงว่า ยังไม่พอใช่หรือไม่
ประการที่สาม ถ้าผมตั้งคำถามว่า ถ้าท่านมีห้องเรียนหนึ่งห้องเพื่อสอนอิสลามศึกษาอย่างเดียวตลอดปี ท่านคิดว่าเวลาสอนที่เหลือท่านจะสอนอะไรเข้าไปอีก (ขออธิบายเพิ่มนิดหนึ่งนะครับว่า ถ้าเอาเวลาเรียนที่มีการสอนอิสลามศึกษากันอยู่ปัจจุบันมาคำนวน จะพบว่ายังมีเวลาสำหรับการสอนเหลืออีก ดังนั้นเวลาที่เหลือจะทำอะไร)
ประการที่สี่ เยาวชนที่เรียนในโรงเรียน(รัฐหรือเอกชน) ในระดับชั้นพื้นฐานกับโรงเรียนตาดีกาหรือคุรุสัมพันธ์ เป็นเยาวชนกลุ่มเดียวกันหรือไม่ คำตอบอันนี้ชัดครับว่า กลุ่มเดียวกัน (ขอตอบเองเลย) แล้วทำไมจึงปล่อยให้เยาวชนเหล่านั้นรับภาระหนักในการเรียนตลอดเจ็ดวัน แถมบางครั้งครูโรงเรียนหนึ่งสอนอย่างหนึ่ง อีกโรงเรียนหนึ่งสอนอีกอย่างหนึ่ง ตัวอย่างง่ายๆ ครับ ถ้ามีผู้ใหญ่ให้ของ ครูคนหนึ่งสอนว่า ให้ยกมือไหว้ แล้วกล่าวว่า ขอบคุณค่ะ หรือขอบคุณครับ แต่ครูอีกคนหนึ่งสอนว่า ยกมือไหว้ เป็นบาป และเวลาจะขอบคุณให้กล่าวว่า ตารีมากาเซะ หรือ ญาซากัลลอฮ์ โอ้ แล้วเยาวชนลูกหลานท่านจะไม่ปวดหัวแย่หรือครับ
หลายปีที่ผ่านมา รัฐพยายามแก้ปัญหานี้โดยการนำเอาอิสลามศึกษาเข้าไปอยู่ในโรงเรียน แต่จนถึงปัจจุบันความเชื่อมั่นของผู้ปกครองยังไม่มีกับระบบดังกล่าวมากนัก ดังนั้นรูปแบบการจัดการศึกษาเดิมของเยาวชนจึงยังคงอยู่
วันนี้ผมเลยเสนอไปยังทุกฝ่ายว่า ถ้าผมตั้งโจทย์ให้กับชุมชนว่า ถ้าชุมชนเป็นเจ้าของโรงเรียนเอง แบบไหนที่ท่านต้องการ
เดี๋ยวบันทึกหน้าผมจะให้คำตอบของผมครับ (ต้องไปประชุมแล้ว)
คือยากที่จะเข้าใจกับคนบ้านเรา