เคยอ่านบทความนี้จากเวบไซด์ ผู้จัดการออนไลน์
ในช่วงที่เกิดเหตุการณ์ธรณีพิบัติคลื่นยักษ์ซึนามิ จำได้ว่าอ่านไปน้ำตาซึมไป แต่เมื่ออ่านแล้วก็ดีใจเหลือเกินที่เกิดเป็นคนไทย
และในตอนนี้รู้สึกว่าไม่ค่อยสบายใจกับสถานการณ์บ้านเมือง ความรู้สึกหลายๆอย่าง หดหู่ เศร้าๆ ท้อแท้ และกังวลยังไงก็อธิบายไม่ค่อยถูก วันนี้ก็เลยมานั่งอ่านบทความที่เก็บไว้ อ่านแล้วก็ยังมีความรู้สึกดีกับบ้านเราเหมือนเดิม เพราะว่าเหตุการณ์แบบนี้เราอาจจะไม่เจอในที่ไหนในโลก นอกจากเมืองไทย เลยเอามาฝากกันค่ะ
คุณเคยเห็นไหม
ข้าวกล่องเป็นถุงๆ ถุงละกว่า50กว่ากล่องบรรทุกมาในรถปิคอัพเต็มคัน
คนขับจอดลงข้างถนนวิ่งมาหยิบถุงข้าวลงจากรถวางไว้กับพื้นข้างถนน
ปากเขาไม่พูดมือเขาสั่นเทาแววตาอ้อนล้าอย่างแรงและมีน้ำตาไหลพราก
พอยกถุงข้าวหมดเขาก็ขับรถออกไป
อีกเกือบชั่วโมง
ก็มีคนเห็นเขาทำแบบนั้นอีก ที่ที่ห่างจากที่แรกไม่เกิน100เมตร และเขาทำต่อไปอย่างนี้ทั้งวัน
ทหารบางคนจำเขาได้ เขาบอกเราว่า คนนี้เป็นพ่อค้าในตลาดเขาหลักนี้แหละ ลูกเมียหายไปหมด
เขาคิดว่าตายแล้ว เลยเดินขึ้นเหนือไปบ้านญาติที่ตะกั่วป่า1วัน1คืน
ถึงแล้วก็ช่วยกันทำข้าวกล่อง แล้วตัวเองก็ขับรถเอาไปส่งในผู้เคราะห์ร้าย
เขาเห็นคนเดินกันเยอะเขาก็จอดรถเอาข้าวลงวาง เขาเห็นคนนั่งกันอยู่เยอะเขาก็เอาข้าวลงกองไว้กับพื้นข้างถนน
เขาไม่พูดกับใครเลย หลายคนเห็นเขาทำอยู่อย่างนี้ 2วันแล้ว
คุณเคยเห็นไหม
ครอบครัวคนจีนพ่อขับรถไปช้าๆมีลูกเมียนั่งอยู่กะบะหลัง
พวกเขาโยนน้ำให้คนข้างถนนทุกคนที่เดินผ่าน
พวกเขากองน้ำไว้ข้างถนน แล้วพวกเขาก็ขับรถจากไป
คุณเคยเห็นไหม
ยายคนหนึ่ง
นั่งอยู่ข้างศาลาการเปรียญวัดเขาหลัก
เขาหาบมะละกอออกมาจากบ้านหลังเขา
เขานั่งสับมะละกอวางไว้ตรงหน้าตั้งแต่เช้าจนบ่าย
ฝ่ามือยายย่นเหมือนเราเอามือแช่น้ำไว้สัก5ชั่วโมง
มือสับไปๆ แต่แววตายาย ไม่ยินดียินร้าย
ทั้งฝรั่งทั้งไทยนั่งกินหยิบกินมะละกอกันพออิ่มแล้วก็เดินหลบไปให้คนอื่นเข้ามากินต่อ
คุณเคยเห็นไหม
ใครก็ไม่รู้เอาเสื้อผ้ามาวางเป็นกองไว้แล้วก็ไป
แล้วก็มีใครไม่รู้เอามากองทับเข้าไปอีกแล้วก็จากไป
คนไทยคนฝรั่งเดินตาลอยไปหยิบมาใส่หัวใส่ตัว
แต่เสื้อผ้ากองท่วมหัวไม่เคยขาดจากกองเลย
มีคนมากมาย เอามากองเพิ่มให้
หรือเป็นเทวดาหรือที่เอามาเติมให้
พวกเขาไม่ใช่คนเหมือนคุณหรือ