คนหลังคัน

ตกปลา เกาะกระดาน 5 ม.ค. 51

เมื่อวันที่ 4 ม.ค. 51 ทีมงานคนหลังคันจาก ศูนย์วิจัยปาล์มนำมันสุราษฏร์ธานี (5 คน)  ก็พร้อมออกเดินทางจาก สุราษฏร์ฯ เพื่อมุ่งหน้าสู่ท้องทะเลอันดามันในจังหวัดตรัง และเมื่อเวลา17.00 น. ก็ใด้ออกเดินทางโดยมาทาง อ.กาญจนดิฐ์ เข้า เซาร์เทิร์น  แล้วไปออกสายเอเชีย ไปทาง อ. บ้านนาสาร ผ่าน ราชมงคลท่งใหญ่ เพื่อไปนัดพบ สมาชิก คนหลังคัน จาก จ. นราธิวาส อีก1 ท่าน ที่สถานีรถไฟ อ.ทุ่งสง เมื่อเวลา 17.00น. สมาชิกจาก นราฯ ก็มาถึงจึงออกเดินทางทันที แล้วมาถึงที่พัก                    ณ.วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีตรัง เวลา 21.00 น.อาบน้ำ ทานข้าว แล้วเข้านอน    

เช้าวันใหม่ 5 ม.ค. 51  - เวลา03.00 น. ทุกคนก็ออกเดินทางจากวิทยาลัยฯ ซื้อของใช้ต่างๆในตัวจังหวัด แล้วไป ปากเมงเพื่อซื้อกุ้งเป็น ( ตัวละ 5บาท **แพงมากๆ**) วันนี้กุ้งไม่มี เลยได้มาแค่60ตัว จากนั้นมุ่งสู่หาดยาวด้วยหัวใจที่เต้นดังกลองศึก เมื่อมาถึงก็นำอุปกรณ์ลงเรือแล้วมุ่งหน้าไปยังเกาะลิบง โดยเตรียมสายลาก 2 สาย ใช้เหยื่อ ราพาล่า ขาวหัวแดง และ เขียวท้องเหลือง cd14 เวลาผ่านไป 45นาที ก็มาถึงปะการังใหม่(กะหรังใหม่)บริเวณหลังเกาะลิบงโดยสายลากไม่มีอะไรมาแตะต้องแม้แต่น้อย สมาชิกทั้ง 6 จึงเริ่มอยู่หลังคันทันทีที่เรือทอดสมอและตั้งลำเสร็จ น้ำลึก25 เมตรบ้างก็ตกหน้าดิน บ้างก็ลอยเหยื่อเป็นซึ่งกระผมใด้โสกเหยื่อเป็นใด้ปลามันแดงประมาณ 50 ตัวเลือกแต่ตัวใหญ่ ไม่นานสมาชิกก็ใด้ปลาเก๋า ข้างปาน ตะมะ ขึ้นมาบนเรือ เวาลาผ่านไปปลากินเหยื่อห่างตัวจึงย้ายหมายมาที่ ซากเรือจม ทุกคนจึงกลับมาอยู่หลังคันอีกครั้ง แต่ปลาก็ไม่กินเบ็ด จึงตัดสินใจย้ายหมายไปที่ กองหินโผล่หัวเกาะกระดาน (ตุ-กนเกาะดาน)น้ำลึก30 เมตรหมายนี้ใด้พบกับฝูงปลาหางแข็ง และปลากระมง จำนวนมากขึ้นไล่จับลูกปลา ดัง ตูมๆและนานคล้ายเสียงประทัดก็ว่าใด้โดยมีนกนางนวลทะเลจำนวน1000-2000 ตัวคอยจับลูกปลากินด้านบนทำให้เป็นที่น่าดูชมยิ่งนัก การปฏิบัติการจึงเริ่มขึ้น โดยการลาก2สายเช่นเคย และเหยื่อตัวเดิมลากวนอยู่3รอบปลาไม่มองเลยเปลี่ยนเป็นลากด้วยเบ็ดตกปลาโอ และเหยื่อเจ็ต เวียนอยู่2-3 รอบปลาก็ยังไม่กิน จึงใช้วิธีลากแต็ก(คือการลอยเหยื่อเป็นแล้วขับเรือลากช้าๆ)โดยใช้กุ้งเป็นแต่ปลาก็ยังไม่กินจึงทอดสมอตกปลาหน้าดิน จนเย็นมากแล้วจึงย้ายไปที่หัวเกาะกระดานน้ำลึก40เมตรเพื่อจอดเรือพักผ่อนในคืนนี้และตกหมึกกลางคืน(เอาไฟล่อหมึกไปด้วย)เวลา 20.00 น.เริ่มมีหมึกเข้าจึงเริ่มตกกันโดยใช้โยทะกา และกุ้งปลอม ซึ่งข้าพเจ้าตกได้ประมาณ10 ตัว ขนาด3-4 ตัว/กิโลกรัม (หมึกหอม)จนหมึกออกหมดจึงเข้านอน   

เช้าวันใหม่ 6 ม.ค. 51 -เราจึงมุ่งหน้าไปยังเรืออวนลากเพื่อขอเหยื่อปลาทูเป็นจะนำมาลอยปลาอินทรี แต่กลับไม่มีปลาทูจึงได้ กั้ง ปลาแดง ปลาทูตาย ปู หมึก กุ้งมังกรมาดูต่างหน้าแทน จึงออกเดินทางอีกครั้ง ทั้งลอยทั้งตกหน้าดิน ทั้งลาก แต่ปลาก็ไม่กิน ได้แต่ปลาหน้าดินเพียงเล็กน้อย พอตอนเที่ยงจึงตัดสินใจกลับหาดยาวเพื่อเดินทางกลับสุราษฯจึงเป็นโอกาศสุดท้ายในทะเลตรังจึงทำการลากเบ็ดตามแนวเกาะโดยลง 3สาย ใช้เหยื่อของ ลาพาร่าทั้ง3 สาย คือ ขาวหัวแดง เขียวท้องเหลืง ฟ้าขาว ลากได้10นาทีความหวังที่รอคอยก็มาถึง เมื่อขาวหัวแดงโดนตัวปริศนาใต้นำกระชากสายออกจากรอกอย่างแรงคันเบ็ดโค้งงอเกือบเป็นรูปตัว U จึงเริ่มมีการต่อสู้เกิดขึ้น5นาทีผ่านไปเจ้าตัวปริศนาก็ขึ้นมานอนเล่นบนเรือและมันคือ ปลาสากเหลืองขนาด5-6 กิโลกรัม เราจึงทำการลากต่อแต่ไม่มีอะใรเกิดขึ้นจนถึงฝั่ง ได้ให้ค่าตอบแทนไต๋เรือและเก็บอุปกรณ์กลับบ้านเป็นอันว่าสิ้นสุดทริปนี้

      การตกปลาได้บ้างไม่ได้บ้างเป็นเรื่องธรรมดายิ่งช่วงหลังปลาเหลือน้อยแพราะโดนระเบิดปลา อวนลากชายฝั่ง การดำยิง การทำลายป่าชายเลน และภาวะโลกร้อนทุกคนจึงควรช่วยกันรักษาทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม เพื่อได้มีสัตว์นำใว้ได้กินกันชั่วลูกชั่วหลาน

     

 

[ส.ด.]

คนหลังคัน=หลังคันเบ็ด?

เคยไปพักที่เกาะลิบงแล้วนั่งเรือไปเที่ยวเกาะกระดาน

เกาะรอกหนุกมาก  อยากไปอีกแต่มันอยู่ไกลเหลือเกินนั่งรถกันเมื่อยเลย

                                                       คนเมืองฉะ

 

[โก๊ะจิจัง แซ่เฮ]

สวัสดีเจ้าค่ะ

         สาธุ!! บาปกรรม ๆ จริงๆเลยเจ้าค่ะ ตกปลา.....(ตกได้เท่าไหร่ เอามาแบ่งกันบ้างนะเจ้าค่ะ) คิคิ....ไม่เคยไปเกาะสักทีเจ้าค่ะ แต่ตอนนี้ก็เกาะเหมือนกัน เกาะคุณพ่อกับคุณแม่อยู่เจ้าค่ะ

        แวะมาเป็นกำลังใจให้เจ้าค่ะ ----> น้องจิ ^_^

[หนุ่ม ร้อยเกาะ]

หวัดดีครับ

• เคยตกเบ็ด ลากเบ็ด เหมือนกันครับ แต่ในทุ่งนา หรือหนองน้ำ โดยคันเบ็ดที่ทำจากไม้ไผ่ ไม่ทันสมัยเหมือนเดี๋ยวนี้
• บันทึกมาแลกเปลี่ยนกันบ่อยๆนะครับ