ป้าดอกไม้ไหว


จากประสบการณ์ชีวิตที่ไม่ค่อยพบความสมหวังทำให้ป้าดอกไม้ไหวบอกกับตัวเองเสมอมาว่าสิ่งที่น่าสมเพชที่สุดคือการเป็นกระเทยแก่และยากจนแต่ฉันไม่คิดว่าน่าจะเป็นเช่นนั้น

กลับจากไปเที่ยวเชียงใหม่-เชียงรายเมื่อช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา...ทดลองการเดินทางแบบซื้อทัวร์ไปเที่ยวคนเดียวซึ่งสะดวกสบายดีและวิวธรรมชาติสวยงามมาก  ได้ภาพสวยๆมาอวดพี่ๆน้องๆที่ทำงานอยู่พอสมควร ญาติหลายคนสงสัยว่าทำไมถึงอยากไปเที่ยวแบบนี้ ฉันก็อธิบายว่าฝึกไว้ก่อนที่จะทดลองไปเที่ยวเองที่สิงคโปร์ซึ่งจะต้องไปร่วมเดินทางกับคนอื่นๆซื้อแพคเก็จทัวร์แบบเดียวกันกับเรา...

เลือกไปเที่ยวเชียงรายส่วนหนึ่งนอกจากเพราะว่าเป็นสถานที่ที่ไม่เคยได้ไปมาก่อนแล้วเหตุผลอีกส่วนหนึ่งก็มาจากคำชวนที่เคยได้รับจากคนไข้รายนึง ซึ่งฉันขอเรียกชื่อว่าป้าดอกไม้ไหว เธอหรือเขาเป็นชายที่ชอบแต่งกายเป็นผู้หญิงแต่อาจไม่ได้ผ่าตัดแปลงเพศแต่จะแต่งหน้าทาปากและสวมเสื้อผ้าเป็นผู้หญิง...ป้าดอกไม้ไหวมีอาชีพขายพวงมาลัยและดอกไม้สดแผงเล็กๆอยู่ในหมู่บ้านจัดสรรแห่งหนึ่ง...เป็นหนุ่มเมืองเหนืออยู่จังหวัดเชียงรายแต่จับพลัดจับพลูมาทำมาหากินอยู่ในกรุงเทพฯจนกระทั่งถึงวาระสุดท้าย

เคยคุยกันว่าทำไมจึงมาขายดอกไม้แกก็ให้คำตอบง่ายว่าเพราะชอบและมันสบายใจดีค่ะ..สิ่งที่ทำให้ฉันประทับใจในตัวของป้าดอกไม้ไหวก็คือ การพูดจาไพเราะ...เอเชียหลานของเพื่อนสนิทคนหนึ่งของฉันเป็นลูกค้าขาประจำของป้าดอกไม้ไหวซึ่งป้าดอกไม้ไหวจะเอ็นดูและมักแถมดอกไม้ให้เสมอ

ฉันมารู้ว่าป้าดอกไม้ไหวเป็นผู้ติดเชื้อเอชไอวีตอนที่แกมาผ่าตัดริดสีดวงทวารที่โรงพยาบาล ซึ่งก่อนผ่าตัดเราจะมีการให้คำปรึกษาและขอเจาะเลือด...ป้าดอกไม้ไหวแกเป็นคนเรียนไม่สูงแต่จิตใจดีหลังจากที่ฟังการบอกเล่าเกี่ยวกับพฤติกรรมเสี่ยงต่างๆแกก็นิ่งๆไปก่อนจะถามว่า..อย่างถ้าว่าแกติดเชื้อขึ้นมาแล้วหนูเอเชียที่มาซื้อดอกไม้กับแกจะมีปัญหาอะไรไหม...ฉันจึงตอบว่าป้าดอกไม้ไหวสามารถขายดอกไม้ได้เหมือนเดิมนะ..เพราะเจ้าไวรัสเอชไอวีนี้มันไม่ได้ติดต่อกันทางผิวสัมผัสหรือการพูดคุยกันพร้อมๆกับที่ฉันเอื้อมมือไปบีบมือเธอเบาๆ...ป้าดอกไม้ไหวตัดสินใจตรวจเลือดส่วนหนึ่งเพราะอยากรักษาอาการเจ็บป่วยและอีกส่วนหนึ่งเพราะเธอ/เขาไม่แน่ใจว่าตนเองติดเชื้อไปแล้วหรือยัง....ฉันฟังประวัติที่ป้าดอกไม้ไหวเล่าอย่างซื่อๆแล้วก็ได้แต่สวดมนต์ภาวนาขอให้มีปาฏิหารย์สักหน่อยเถอะแต่ปาฏิหารย์ไม่มี...ผลการตรวจพบว่าป้าดอกไม้ไหวติดเชื้อเอชไอวี..ป้ารับรู้อย่างซึมๆบอกกับฉันว่าไม่เป็นไรหรอกค่ะคุณหมอแค่รู้ว่าถึงติดเชื้อนี้แล้วแต่ยังทำงานขายดอกไม้ต่อไปได้ฉันก็ดีใจแล้วแต่คุณหมออย่าเพิ่งไปบอกใครนะ เพราะปกติคนเขาก็มองว่ากระเทยแก่และยากจนอย่างอิฉันนี่มันเป็นสิ่งที่น่าสมเพชมากที่สุดอยู่แล้ว...ทั้งๆที่น่าจะเศร้าแต่ฉันก็อดขัดป้าดอกไม้ไหวไม่ได้..ฉันย้อนถามสั้นๆว่า"จริงหรือ"เท่านั้นน้ำตาของแกก็ไหลทะลักออกมา..เนื่องจากเคยคุยกันมาก่อนหน้านั้นทำให้รู้ว่าป้าดอกไม้ไหวไม่ใช่คนที่หัวคิดฉับไวนักฉันก็เกรงว่าป้าอาจจะเข้าใจผิดในคำพูดที่เจตนาจะให้คิดจึงอธิบายเพิ่มเติมต่อไปอีกนิดว่า"ที่เมื่อฉันพูดว่าจริงหรือนี่ไม่ใช่เพราะว่าไม่ยอมรับป้าดอกไม้ไหวหรอกนะหากแต่ฉันมองเห็นจากป้าที่ว่าสิ่งที่น่าสมเพชที่สุดคือการเป็นกระเทยแก่และยากจน..ฉันมองว่าป้าดูถูกตัวเองมากเกินไปหรือเปล่า...อะไรที่ทำให้ป้าคิดเช่นนั้นหรือ...แล้วป้าดอกไม้ไหวก็เล่าเรื่องที่คับใจของแกว่ามันมาจากการไม่สมหวังในชีวิตและความรักของแกตั้งแต่สมัยวัยรุ่นจนถึงปัจจุบัน

คุณหมอรู้ไหมผู้ชายคนแรกที่มาทำให้ป้าเป็นแบบนี้มันก็เป็นอย่างป้านี่แหละ..ไม่มีใครรักจริงมีแต่ตอนอยากได้อะไรก็มาเอาแต่หลังจากนั้นก็ไม่ใส่ใจใยดี..ฟังแล้วก็เลยนึกต่อว่าถ้าเกิดป้าไม่สบายมาก/ช่วยเหลือตนเองไม่ไหวแล้วจะมีใครช่วย..ป้าก็บอกว่ามีญาติลูกพี่ลูกน้องอยู่ที่เชียงรายถ้าหนักหนาจริงๆก็อยากที่จะกลับไปบ้าน

จำประโยคหนึ่งที่ป้าบรรยายถึงดอยตุงว่ามันสวยงามมากเลยนะคะถ้าคุณหมอมีโอกาสไปเชียงรายอย่าลืมต้องแวะไปให่ได้นะ

หลังผ่าตัดไปแล้วป้าดอกไม้ไหวก็แวะมาหาหมออายุรกรรมตรวจรักษาต่อเกี่ยวกับเอช

หมายเลขบันทึก: 158091เขียนเมื่อ 8 มกราคม 2008 13:10 น. ()แก้ไขเมื่อ 7 กุมภาพันธ์ 2013 19:43 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท