"คุณคุณขา..นั่งหน้าจอนานไปรึเปล่าเอ่ย ?"

นั่งนานแล้วมีสิทธิ์เป็นโรคอะไรได้มั่งเนี่ยะ ?

วันนี้ OOHOOH มะค่อยสบายค่ะ (อีกและ) จริง ๆ นา..มันโหวง ๆ เหวง ๆ มันหมุน ๆ ยังงัยม่ายรุ (วัยทองอ๊ะป่าวเนี่ยะ !) สงสัยว่าจาน้ำในหูไม่เท่ากันนะแน่.. แต่คิดไปคิดมา น่าจะเพราะนั่งหน้าคอมมากไปแน่ ๆ นอน ๆ เลย สงสัยต้องไปวัดสายตาบ้างแล้วล่ะค่ะ

ทีนี้..นอกจากสายตาแล้ว ถ้า OOHOOH นั่งหน้าคอมนาน ๆ แล้วเนี่ยนะคะ..คุณ ๆ ว่าน่าจะเป็นโรคอะไรได้บ้างอีกเอ่ย ? เอาไปเลยค่ะแบ่ง ๆ กันไป (ใครจะเป็นก็มะหวงนะคะมะหวง อิ..อิ..)

รู้เพื่อป้องกันโรคจาก คอมพิวเตอร์

โรคจากคอมพิวเตอร์

โรคภัยสมัยใหม่ มาพร้อมกับคอมพิวเตอร์ เจ้าสมองกลหลักที่แพทย์ที่ตรวจสุขภาพพนักงานประจำปีในสำนักงานต่างๆ ตรวจพบว่า โรคที่พนักงานเป็นมากที่สุดและพบบ่อยคือ โรคตาแห้ง โรคตาเป็นต้อลม โรคภูมิแพ้ โรคลำไส้อักเสบ ส่วนสุภาพสตรีก็จะพบว่า เป็นโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบเป็นจำนวนมาก

โรคตาแห้ง เป็นโรคที่รบกวนการทำงาน ไม่มีอาการเจ็บป่วยหนักมาก โรคตาแห้งเป็นอาการหนึ่งที่พบก่อนที่จะอักเสบบานปลายกลายเป็นต้อลมได้ โดยเริ่มจากรู้สึกแสบตา เคืองตา จากนั้นก็จะขยี้ตา ถ้าเป็นมากๆ ก็จะเกิดอาการกระตุกบริเวณกล้ามเนื้อตา ปวดตา ปวดหัว

อาการโรคตาแห้ง เกิดจากน้ำหล่อเลี้ยงในดวงตาลดน้อยลง มีสาเหตุมาจากโดนแสง โดนลม หรือมองจอคอมพิวเตอร์ติดต่อกันเป็นเวลานานเกินไป (บางตำราบอกว่า 20 นาที แต่คุณหมอบอกว่าจะให้ดีห้ามเกิน 1 ชั่วโมงเด็ดขาด)

ที่สำคัญขณะใช้คอมพิวเตอร์ ต้องให้สายตาอยู่ห่างจากจอไม่ต่ำกว่า 1 ฟุต หรือบางครั้งในการใช้คอมพิวเตอร์ชนิดตั้งโต๊ะนั้น จอคอมพิวเตอร์จะอยู่ในตำแหน่งที่ทำให้ผู้ใช้ต้องมีมุมมองของสายตาขึ้นข้างบน (มองไปยังมุมสูง) เป็นผลให้เปลือกตาเปิดกว้างขึ้น และอาจมีการกะพริบตาลดลง เป็นผลให้มีการสูญเสียความชื้นจากดวงตามากขึ้น

วิธีแก้ไข ก็คือ ใช้คอมพิวเตอร์ให้น้อยลงเท่าที่จำเป็น (ทำมะได้ง่ะ) ตั้งจอคอมพิวเตอร์ให้อยู่ในมุมต่ำ ทำให้มุมมองของสายตา เป็นการมองลงล่าง ซึ่งจะทำให้เปลือกตาเปิดแคบลง

ส่วน วิธีการที่จะบำบัด ที่รวดเร็ว สำหรับอาการตาแห้ง คือ การใช้ยาหยอดตา ยาหยอดตาจะช่วยยับยั้งการคั่งของเลือดบริเวณตา หรือการบีบรัดที่เป็นต้นเหตุในการเกิดอาการตาแห้งไร้ความชุ่มชื่น ไม่ว่าคุณจะใช้ยาหยอดตาหรือการกะพริบตาบ่อยๆ ทุก 5 วินาที ก็สามารถช่วยให้ดวงตามีน้ำหล่อเลี้ยงดวงตาอยู่เสมอ

เอาล่ะค่ะ..พอจะทราบกันบ้างและว่าจะเป็นอะไรได้อีกบ้างนอกจากจะเกี่ยวกับสายตาแล้ว..แต่เนื่องจากในสภาพปัจจุบันแล้วเนี่ย..เราอาศัยคอมพิวเตอร์กันแทบจะทุกเรื่องเลย..แล้วเราจะหลีกเลี่ยงโรคนี้ได้เหรอคะเนี่ย ? OOHOOH ล่ะงง..ง๊ง..งง.. คุณล่ะคะ งงมั้ยเอ่ย ?

"ความไม่มีโรค..เป็นลาภอันประเสริฐ"

ที่มา : http://www.bloggang.com