ผมได้เรียนรู้ "ศักยภาพ" ของ "คน" ในอีกมิติหนึ่งที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อนครับ
ผมขอขอบคุณทีมผู้บริหารคณะกายภาพบำบัดและวิทยาศาสตร์การเคลื่อนไหวประยุกต์ ม. มหิดล ที่แต่งตั้งผู้ทรงคุณวุฒิที่มีประสบการณ์การคัดเลือกนักกายภาพบำบัดมาทำงานคลินิกได้อย่างมีคุณภาพ
บางครั้งผมในฐานะผู้บริหารมือใหม่ ต้องเร่งเรียนรู้และเปิดใจกว้างเพื่อสร้างวิสัยทัศน์ของการพัฒนา "คน" และ "คุณภาพ" ของงานคลินิกเล็กๆ ของสาขากิจกรรมบำบัด ที่กำลังเป็นหลักสูตรใหม่ของคณะฯ และต้องเน้นคัดเลือกผู้ที่มีคุณภาพมาสร้างงานที่สร้างสรรค์ทางกิจกรรมบำบัด
ผมนับถือวิชาชีพกายภาพบำบัด ที่สร้างความเป็นหนึ่งของนักกายภาพบำบัดทั่วประเทศให้ร่วมแรงร่วมใจพัฒนาวิชาชีพอย่างมีเอกลักษณ์ ที่สำคัญการสร้างงานผ่านเครือข่าย สมาคมฯ สถาบันการผลิต จนเติบโตเป็นสภากายภาพบำบัดที่ชัดเจน ดังนั้นการสัมภาษณ์ประสบการณ์ของคุณภาพของการทำงานทางคลินิกเช่นกายภาพบำบัดและกิจกรรมบำบัด ได้แก่ ความรับผิดชอบ ความใฝ่รู้ การทำงานเป็นทีม การเปิดใจรับฟังความคิดเห็น การจัดลำดับขั้นตอนของการทำงาน การตรงต่อเวลา การมีจิตใจบริการ การมีภาวะผู้นำ ความเข้าใจในในการแก้ไขปัญหาอย่างมีเหตุผล จริยธรรมของการปฏิบัติหน้าที่ทางคลินิก ความรอบรู้เหตุการณ์และสิ่งแวดล้อม การบริหารงานที่พึงรู้ตัวบทกฎหมาย ความเสียสละในการพัฒนาวิชาชีพให้เป็นที่รู้จักแก่สังคมโดยเน้นคุณภาพของการบริการวิชาการเพื่อพัฒนาประชาคมอย่างมีความสุขทางร่างกายและจิตสังคม
บางครั้งการเรียนรู้ "วิถีการพัฒนาที่ยั้งยืนของวิชาชีพกายภาพบำบัด" สามารถนำมาเป็นประสบการณ์ของการพัฒนาวิชาชีพกิจกรรมบำบัดได้แนวทางหนึ่ง ที่สำคัญ คุณภาพของคน มิใช่อยู่ที่ทฤษฎีและการปฏิบัติ แต่ต้องมี "คุณค่าของวิชาชีพอยู่ในใจแสะท้อนด้วยทักษะทางจิตสังคมที่มั่นคงและแน่นอน"
สู้ต่อไป พี่ๆน้องๆ กิจกรรมบำบัด เราจะต้องพัฒนาวิชาชีพกิจกรรมบำบัดเพื่อสังคมไทยในทุกๆโอกาสครับ
อื้มม...จริงด้วย สัมภาษณ์คุณภาพ"คน" ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะปี 50 ที่ผ่านมา พี่หนิงก็ต้องสอบสัมภาษณ์หาเพื่อนร่วมงาน ตั้ง 3 หนแหนะค่ะ นอกจากจะสัมภาษณ์น้องเขาเพื่อหาแนวทางการทำงานร่วมกัน แล้วต้องสรุปรายงานให้ผู้ใหญ่เข้าใจด้วยว่า ทำไมเราจึงเลือกคนนี้
ขอบคุณสำหรับความคิดที่คล้ายกันกับพี่สาว มอ ชอ
โชคดีวันทำงานครับพี่หนิง