การทำเพดานเทียม (obtulator) ซึ่งในการทำต้องมีการพิมพ์ปากด้วย ซึ่งการพิมพ์ในเด็กแรกเกิด (อายุ 1- 2 วัน) และมีปากแหว่งเพดานโหว่ด้วย เป็นสิ่งที่ต้องใช้ประสบการณ์และการเตรียมความพร้อมที่ดี
เมื่อพบเด็กแรกเกิดที่เป็นปากแหว่งเพดานโหว่ สิ่งแรกที่ทันตแพทย์จะต้องทำคือการให้กำลังใจกับพ่อแม่ การอธิบายถึงขั้นตอนการรักษาและผลการรักษา ซึ่งส่วนใหญ่ผมจะใช้รูปทั้งจากในหนังสือ และที่เก็บไว้มานำเสนอให้ผู้ปกครองและญาติดูด้วยกัน สิ่งที่ต้องทำต่อมากรณีที่เด็กมีเพดานโหว่คือการทำเพดานเทียม (obtulator) ซึ่งในการทำต้องมีการพิมพ์ปากด้วย ซึ่งการพิมพ์ในเด็กแรกเกิด (อายุ 1- 2 วัน) และมีปากแหว่งเพดานโหว่ด้วย เป็นสิ่งที่ต้องใช้ประสบการณ์และการเตรียมความพร้อมที่ดี
- ในส่วนแรกหลังจากพูดคุยกับพ่อแม่ ผู้ปกครอง จนเข้าใจเรียบร้อยแล้ว คือการประเมินสุขภาพของเด็ก เด็กที่น้ำหนักแรกเกิดน้อย ช่องปากแคบ ปากแหว่งเพดานโหว่ที่กว้างมาก ๆ จะทำให้การพิมพ์ปากทำได้ยากมากกว่า
-
การเตรียมอุปกรณ์และเจ้าหน้าให้มีความพร้อม จะช่วยให้งานเสร็จเร็วขึ้น ที่สำคัญคือการเตรียมเครื่องดูดในช่องปาก เพื่อเตรียมดูดวัสดุที่อาจหลุดเข้าไปในช่องปากเด็ก โดยต้องให้ผู้ช่วยระวังตัวไว้ตลอดเวลา
- หลังจากตรวจดูในช่องปากแล้ว จะทำการเลือกถาดพิมพ์ปาก (ควรมีถาดพิมพ์ปากซึ่งทำจากเด็กที่เป็นปากแหว่งเพดารโหว่ในรายอื่น ๆ เก็บไว้) หากขนาดไม่พอดี อาจกรอให้เล็กลง หรือเพิ่มขนาดโดยต่อด้วยขี้ผึ้ง
- เมื่อเตรียมถาดพิมพ์ปากได้ขนาดแล้ว จะต้องทากาวยึดวัสดุพิมพ์ปากและปล่อยให้แห้งก่อน (ถ้าไม่แห้งจะติดเลอะปากเด็ก)
-
วัสดุพิมพ์ปากควรเป็นแบบแข็งตัวเร็ว ในบ้างครั้งอาจต้องผสมน้ำอุ่น เพื่อให้แข็งตัวเร็วมากขึ้น
- ก่อนพิมพ์ปาก ควรใช้ผ้าก๊อสสะอาดอุดบริเวณช่องเพดานโหว่ที่ลึก เนื่องจากเวลาพิมพ์วัสดุพิมพ์ปากอาจฉีกขาด ตอนดึงออกจากช่องปาก ซึ่งจะเอาออกยากมากเพราะเด็กไม่อยู่นิ่ง (อย่าลืมนับผ้าก๊อสว่าอุดไปกี่ชิ้น เพราะเมื่อพิมพ์เสร็จแล้ว ต้องเอาออกให้หมด ซึ่งเช็คจากการนับจำนวนชิ้น)
- ในระหว่างพิมพ์ปาก หากเด็กร้องไห้เสียงดัง แสดงว่าเด็กยังหายใจได้ แตถ้าหากเด็กเงียบ และหน้าเขียว ให้ขยับถาดพิมพ์ปากเล็กน้อย เพื่อให้มีช่องให้เด็กสามารถหายใจได้ (การที่วัสดุพิมพ์ปากแข็งตัวเร็วจะช่วยให้เอาวัสดุพิมพ์ออกมาได้เร็วขึ้น แก้ปัญหานี้ได้)
- หลังจากพิมพ์เสร็จ ตรวจแบบรอยพิมพ์ว่าได้ตามต้องการหรือไม่ อย่าลืมตรวจในช่องปากว่ามีวัสดุหลงเหลือหรือไม่ ถ้ามีเอาออกให้หมด
- นำแบบรอยพิมพ์ไปเททำแบบด้วยปูนเทแบบ
- นำมาอุดรอยโหว่ ด้วยขี้ผึ้ง
- ก่อนนัดใส่เพดานเทียม ให้ผู้ปกครอง หรือพยาบาลงดการป้อนนม 2-3 ชั่วโมง ก่อนใส่ เพื่อให้ง่ายต่อการสอนให้ดูดนม
- เวลาใส่ให้ตรวจดูว่ามีรอยกดบริเวณไหนบ้าง ให้กรอออก ดังนั้นการใช้วัสดุแบบใส ในการทำเพดานเทียมจะช่วยให้ตรวจหารอยกดได้ง่ายขึ้น
-
เวลาดูดนมให้ตั้งศรีษะเด็กขึ้น ระวังเด็กสำรัก หากหากเป็นไปได้ให้สอนการดูดนมมารดา (ในรายนี้มารดาออกมาจาก ward ไม่ได้)
- เด็กจะดูดนมได้ดี หากเพดานเทียมแนบสนิท และไม่กดเจ็บ สังเกตุได้จากลักษณะการดูดนม ซึ่งเด็กจะมีความสุขที่ได้ดูด
-
เพดานเทียมนอกจากจะทำให้เด็กดูดนมได้แล้ว ยังเป็นการสร้างความผูกพันระหว่างพ่อแม่กับเด็ก การให้ความหวังกับพ่อแม่ว่าหากเด็กน้ำหนักมากขึ้น แข็งแรงมากขึ้น การผ่าตัดแก้ไขจะทำได้ดีขึ้น เป็นการสร้างกำลังใจให้กับพ่อแม่ที่สำคัญ นอกจากนั้นการที่เด็กสำรักน้ำหรือน้ำนม จากการไม่ใส่เพดานเทียม ก็จะลดน้อยลง (การสำลักน้ำเข้าปอด เด็กอาจเป็นโรคนิวมอเนีย เสียชีวิตได้)
-
การทำเพดานเทียมควรจะทำในช่วง 1-3 วันแรก เพราะถ้าหลังจากนั้น เด็กจะยอมรับเพดานเทียมได้ยากขึ้น ซึ่งอาจเกิดจากการที่เด็กคุ้นกับลักษณะช่องปากที่มีมาแต่เกิดแล้ว
- ขอบคุณครับ ..............