หน้าแรก
สมาชิก
นางสาว กรกนก งาม...
สมุด
Enterprise Resour...
ERP
นางสาว กรกนก งามสิริธนากุล
สมุด
บันทึก
อนุทิน
ความเห็น
ติดต่อ
ERP
Enterprise
Resource Planning (ERP)
การพัฒนาคอมพิวเตอร์ฮาร์ดแวร์และซอฟท์แวร์
เริ่มแรกคอมพิวเตอร์ยุคแรกนั้นถูกสร้างขึ้นในปี
1944
โดยมีขนาดใหญ่ ราคาแพง และความจุน้อย ถัดมาก็มีคอมพิวเตอร์ทางธุรกิจยุคแรกที่เรียกว่า คอมพิวเตอร์เมนเฟรม ซึ่งคอมพิวเตอร์เมนเฟรมจะเหมาะสำหรับการทำงานที่เป็นลำดับหรืองานกระบวนการทางข้อมูลที่ซ้ำๆ กัน ต่อมาก็เริ่มมีคอมพิวเตอร์ที่มีขนาดเล็ก ราคาที่ถูกลงและเร็วกว่า ไม่นานก็เกิดชิฟคอมพิวเตอร์หรือว่าไมโครโปรเซสเซอร์ขึ้น และถูกทำให้สมบูรณ์ในทางธุรกิจเมื่อ
IBM
ได้เปิดตัวคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลหรือว่า
PC
ในปี
1981
โดยเพิ่มความสามารถและราคาที่ลดลง
ขอบเขตหน้าที่ของการปฏิบัติงาน
จะประกอบด้วยงานบริหารด้านต่างๆ ดังนี้ คือฝ่ายการตลาดและฝ่ายขาย (มีหน้าที่ทางการตลาด การขาย ดูแลลูกค้า ประเมินการขายฯ), ฝ่ายผลิตและฝ่ายจัดการทรัพยากร (มีหน้าที่ทางด้านการจัดซื้อ การขนย้าย การผลิต การวางแผนซ่อมบำรุงฯ), ฝ่ายบัญชีและฝ่ายการเงิน (มีหน้าที่ทางด้านบัญชี การเงิน การจัดสรรและควบคุมราคา วางแผนด้านงบประมาณฯ), ฝ่ายทรัพยากรมนุษย์ (มีหน้าที่ทางด้านการว่าจ้าง การฝึกสอนฯ)
กระบวนการทางธุรกิจ
เกิดจากการทำงานของแต่ละฝ่ายทุกๆ ฝ่ายมารวมกัน โดยที่แต่ละฝ่ายนั้นจะต้องพึ่งพาอาศัยข้อมูลของฝ่ายอื่นๆ ด้วยไม่ว่าจะเป็นองค์กรขนาดใดๆ ก็ตาม ดังนั้นจึงเกิดซอฟท์แวร์ที่เรียกว่า
ERP
เกิดขึ้น
ERP
เป็นระบบที่ใช้ในการจัดการและการวางแผนการใช้ทรัพยากรต่างๆ ขององค์กร โดยเป็นระบบที่เชื่อมโยงระบบงาน ข้อมูลต่างๆ ขององค์กรเข้าด้วยกัน เพื่อช่วยให้การวางแผนและบริหารทรัพยากรขององค์กรเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเริ่มจากในช่วงปี
1960
และ
1970
มีการพัฒนาการขึ้นจากระบบการติดตามรายการสินค้าอย่างง่ายไปยังซอฟท์แวร์
Materials Requirement Planning
หรือ
MRP
โดยหน้าที่พื้นฐานของ
MRP
จะใช้คอมพิวเตอร์เมนเฟรมในการจัดลำดับไฟล์ และต่อมาได้มีการพัฒนา
MRP
ไปเป็น
MRP 2
และได้ถูกพัฒนาต่อมาเป็น
ERP
ต่อมาบริษัท
SAP
เริ่มการพัฒนาเวอร์ชันการประสานงานกันของผลิตภัณฑ์ซอฟท์แวร์ เรียกว่าระบบ
R/2
เพื่อเพิ่มความสามารถในการติดตามของซอฟท์แวร์ และในปี
1988
SAP
ก็การพัฒนาระบบ
R/3
และถูกจำหน่ายในปี
1992
โดยปี
2000
SAP AG
มีลูกจ้าง
22,000
คนใน
50
ประเทศและ
10
ล้านผู้ใช้ และมีคู่แข่งหลักในตลาด
ERP
คือ
PeopleSoft, J.D. Edwards, Oracle
และ
Baan
ประโยชน์ของ
ERP
คือ
1.
ช่วยรวบรวมข้อมูลทางการเงินของบริษัท เพื่อให้เข้าใจถึงภาพรวมของฐานะทางการเงินและการดำเนินงานของบริษัท ซึ่งจะส่งผลต่อการตัดสินใจของผู้บริหารได้
2. ERP
จะทำให้บริษัทดำเนินการต่างๆ ได้ง่ายรวมถึงการสื่อสารกันระหว่างภายใน และยังสามารถตรวจสอบสถานะการดำเนินงานได้ ซึ่งจะเป็นการประสานกันระหว่างกระบวนการ
3.
สร้างมาตรฐานและเพิ่มความรวดเร็วในกระบวนการผลิต ซึ่งบริษัทผู้ผลิตที่ใช้ระบบต่างๆ กันสามารถเชื่อมโยงข้อมูลและสื่อสารกันได้ โดยที่
ERP
ได้เข้ามาช่วยสร้างมาตรฐานดังกล่าวในกระบวนการผลิตแต่ละขั้นตอนโดยใช้ระบบคอมพิวเตอร์ระบบเดียว ทำให้ประหยัดเวลา เพิ่มผลิตภาพการผลิตและลดต้นทุนต่อหน่วยได้เป็นอย่างดี
4.
ลดภาระด้านสินค้าคงคลัง
ERP
จะช่วยให้กระบวนการผลิตเป็นไปอย่างราบรื่นและยังเพิ่มประสิทธิภาพของการผลิต ด้วยยอดการสั่งซื้อที่เป็นจริง ทำให้ช่วยลดสินค้าคงคลังได้ และยังช่วยในการวางแผนในการขนส่งสินค้าไปยังลูกค้าซึ่งจะช่วยลดสินค้าขั้นสุดท้ายในระบบคงคลังของการขนส่งได้เป็นอยางดี
5.
ช่วยจัดและสร้างระบบมาตรฐานในเรื่องข้อมูลทางด้านบุคลากร โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริษัที่มีหลายหน่วยธุรกิจ ซึ่ง
ERP
จะสามารถขจัดปัญหาการสื่อสารเรื่องผลประโยชน์และบริหารไปยังพนักงานทุกคนได้
เขียนใน
GotoKnow
โดย
นางสาว กรกนก งามสิริธนากุล
ใน
Enterprise Resource Planning
คำสำคัญ (Tags):
#uncategorized
หมายเลขบันทึก: 15779
เขียนเมื่อ 16 กุมภาพันธ์ 2006 16:42 น. (
)
แก้ไขเมื่อ 20 มิถุนายน 2012 15:26 น. (
)
สัญญาอนุญาต:
จำนวนที่อ่าน
จำนวนที่อ่าน:
ความเห็น (0)
ไม่มีความเห็น
ชื่อ
อีเมล
เนื้อหา
จัดเก็บข้อมูล
หน้าแรก
สมาชิก
นางสาว กรกนก งาม...
สมุด
Enterprise Resour...
ERP
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID
@gotoknow
สงวนลิขสิทธิ์ © 2005-2023 บจก. ปิยะวัฒนา
และผู้เขียนเนื้อหาทุกท่าน
นโยบายความเป็นส่วนตัว (Privacy Policy)
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท