เมื่อวันก่อน มีโอกาสได้ไปเยี่ยมเพื่อนร่วมงานคนหนึ่งซึ่งป่วยเป็นมะเร็งตับ ตอนกลับคุยกันในระหว่างคนที่ไปเยี่ยมมาด้วยกัน เกี่ยวกับครอบครัวของคนป่วยว่าต้องมีค่าใช้จ่ายมากมากมาย (เป็นแสน) สามีของผู้ป่วยก็ต้องลางานมาเฝ้า ลูกซึ่งมีคนเดียว ยังเรียนอยู่ชั้น ป.6 เลิกเรียนก็ต้องมานอนที่โรงพยาบาล
ชีวิตเปลี่ยนแปลงไปหมด เปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรงมาก และจะรุนแรงมากขึ้นไปอีก ถ้า...
ข้าพเจ้า (ซึ่งอายุมากที่สุดในกลุ่ม) เลยเปิดประเด็นเรื่องความไม่ประมาทในชีวิต คงต้องถามตัวเองว่า เราพร้อมที่จะป่วยหรือยัง ถ้าเราป่วย ใครจะเดือดร้อนอย่างไรบ้าง ถ้าจะไม่ให้เขาเหล่านั้นเดือดร้อนเมื่อเราต้องป่วยจะทำอย่างไร ถ้าเราตายในตอนนี้ (ต้องตายแน่ๆ) ใครจะเดือดร้อนอย่างไรบ้าง ถ้าจะไม่ให้เขาเหล่านั้นเดือดร้อนเมื่อเราต้องตายจะทำอย่างไร
คิดแล้วก็นึกถึง คำสอนทางพุทธศาสนาที่ว่า จงยังความไม่ประมาทให้ถึงพร้อม
ปัจฉิมพุทธพจน์
สังขารทั้งหลายมีความเสื่อมไปเป็นธรรมดา เธอทั้งหลายจงยังความไม่ประมาทให้ถึงพร้อมเถิด
สวัสดีปีใหม่ค่ะอาจารย์
โชคดีปีใหม่ ตลอดปีและตลอดไปค่ะ
ขอให้มีความสุขเหมือนปีที่ผ่านมานะครับ
เห็นด้วยครับเมื่อปีใหม่ไปทำบุญที่วัดมหาสวัสดิ์
หลวงพ่อท่านสอนเหมือนที่ท่านคิดเลยครับ
คือสอนว่า ธรรม สูงสุดของพุทธศาสนาคือ ให้เรายึด
"ความไม่ประมาท"เป็นสรณะ ครับ แล้วทุกอย่างจะดีไปหมด
อยากบอกและตอบกับทุกคนว่าตอนนี้พร้อมที่จะตายทุกวันและเวลาเพราะมีความรู้สึกว่าได้ทำหน้าที่ของตัวเองในความเป็นแม่ได้มากที่สุดแล้วเหตุที่รู้สึกเช่นนี้เพราะในวันที่ ๓ ม.ค.ที่ผ่านมาได้ไปเจาะเลือดปรากฏว่าเลือดไม่ยอมไหลตามสลิงเจ้าหน้าที่แปลกใจมากแต่ในที่สุดก็ยอมใหลมา วันต่อมานำผลเลือดไปพบคุณหมอปรากฎผลการทำงานของตับค่อนข้างเลวร้ายแต่ไม่มากนักลูกสาว ๒คนพอจะมีความรู้ทางการแพทย์ค่อนข้างตกใจแต่ความรู้สึกของตัวเองไม่ได้ตกใจอะไรเป็นอะไรก็ได้ขอให้รู้สาเหตุลูกสาวมีเพื่อนเป็นหมอก็เลยแนะนำว่าเพราะคุณแม่ทานน้ำน้อยเป็นสาเหตุใหญ่มาถึงบัดนี้ทุกอย่างดีขึ้นและก็ได้รู้ถึงความรู้สึกน้อยๆของคนในครอบครัวและคนใกล้ชิดที่มีเจตนาดีๆให้ ขอบคุณผลเลือดนะคะที่นอกจากจะบอกอาการของโรคยังบอกถึงความห่วงใยที่ได้รับจากผู้ที่เป็นกัลยาณมิตรได้อีกด้วย
เห็นด้วยค่ะทุกคนต้องตายจึงไม่ควรประมาท ไม่ผลัดวันประกันพรุ่ง สิ่งใดควรก็ทำเสีย แต่อย่าลืมเตรียมเสบียงติดตัวไปเมื่อถึงเวลาด้วย การเตรียมตัวตายก่อนตายก็ดี อาจทำให้เรามีโอกาสดับสูญเลย ต้องจ้องให้ดีวินาทีสำคัญ ก็เห็นใจคนป่วยและครอบครัวนะคะ ใครประสบก่อนก็ทำใจยากหน่อย สวัสดีปีใหม่นะคะขอให้ทุกคนโชคดีมีสุขทุกเมื่อค่ะ
ยังไม่พร้อมที่จะตายหรอกค่ะ...ยังเรียนไม่จบเลย (ปริญญาโทอ่ะดิ) เนี่ยกำลังเข้มข้นทีเดียว...อยากให้พ่อแม่ได้ชื่นใจงัยหล่ะ ก็พยายามหมั่นสร้างบุญ และดำรงชีวิตอยู่บนความไม่ประมาท
จริงอยู่ ทุกคนต้องตาย...แต่จะตายอย่างไรล่ะครับที่จะทำให้คนรอบข้างไม่ต้องมีการเปลี่ยนแปลงในวิถีชีวิตที่สับสนวุ่นวายไปมากกว่าที่เป็นอยู่ ทำอย่างไร หากเราตายแล้ว ลูก เมีย พ่อ แม่ พี่น้อง ไม่เดือดร้อนนี่ซิน่าคิด บางคนป่วย เป็นโรคที่สิ้นค่ารักษาสูง บางคนป่วยและปุบปับเสียชีวิตเลย หรือบางคนไม่ทันได้ป่วยก็เสียชีวิตเสียแล้ว อย่างไหนที่คนเราอยากจะเลือก หรืออยากจะเป็น ผมเคยคุยกับป้าข้างบ้าน แกพูดเสมอว่าหากจะตาย ขอให้ตายง่าย ๆ ไม่ต้องทรมานคนอื่น (คือไม่ต้องให้คนอื่นต้องมาพยาบาลรักษาให้เสียค่าใช้จ่ายแพง ๆ )ป้าท่านนั้นคุยต่อว่า ฉันใส่บาตรทุกครั้งก็อธิฐานเสมอว่าหากเจ็บไข้ได้ป่วยก็อย่าขอให้เป็นนาน ขอให้ตายไว ๆ แต่เชื่อไหมครับ ป้าท่านนี้อายุ 80 กว่าปีแล้ว ยังถีบรถซาเล้งไปตัดกล้วยปลายสวนขายอย่างสบาย ชนิดที่ตัวผมเองยังอาย ป้าแกยังบอกผมอีกด้วยว่า หากจะให้ศพของเราหอมน่ะ(คนอื่นหรือลูกหลานไม่รังเกียจในการจัดงานศพ) ให้ทำประกันไว้นะ ลูก ๆ หลานเขาจะได้ไม่เดือดร้อนในการจัดงานศพให้เรา แค่นี้แหละป้าก็พอใจแล้ว