อันเนื่องมาจากบันทึกนี้ ชาวบ้านอยากเห็นการเรียนรู้ที่ต่อเนื่อง ซึ่งเป็นบันทึกที่สะท้อนให้เห็นว่าชาวบ้านอยากเรียนรู้ต่อเนื่องจริงๆถ้าเรื่องนั้นอยู่ในความสนใจของเขา ชาวบ้านที่ว่าคือชาวตำบลบางจาก อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช เขาตั้งวงแลกเปลี่ยนเรียนรู้เรื่องการจัดการกองทุนสวัสดิการชุมชนกับต่างพื้นที่ทั้งจากพื้นที่ตำบลในจังหวัดนครศรีธรรมราชเองและจากพื้นที่ตำบลของต่างจังหวัด
ชาวบ้านตำบลบางจาก อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช พอใจที่ได้เรียนรู้ถึงความเปลี่ยนแปลงตนเองของสมาชิกกองทุนสวัสดิการลดรายจ่ายวันละบาทของชุมชนตำบลน้ำขาว อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา ที่ตัวแทนของ ดร.ครูชบ ยอดแก้ว มาเล่าให้ฟัง เช่น กรณีของขี้เหล้าที่เอาแต่ดื่มสุราเมื่อเข้าโปรแกรมสัจจะลดรายจ่ายวันละบาท แล้วได้รับการสนับสนุนเครื่องตัดหญ้าจากกองทุนสวัสดิการชุมขน นำไปรับจ้างตัดหญ้า คิวรับจ้างตัดหญ้ามีไม่ได้ขาด จากขี้เกียจก็กลายเป็นคนขยัน มีรายได้ สนใจแต่การทำงาน จนเลิกเหล้าไปในที่สุด หรือกรณีของคนพิการที่เข้าโปรแกรมสัจจะลดรายจ่ายวันละบาท แต่เป็นคนพิการที่มีความสามารถทางจักสาน ได้รับการทุนสนับสนุนจากกองทุน ได้รับการส่งเสริมด้านการตลาด ในที่สุดก็สามารถทำเป็นอาชีพได้ และมีตัวอย่างอื่นๆอีกหลายตัวอย่าง
ผู้เล่าสรุปว่าการลดรายจ่ายได้วันละหนึ่งบาทนั้นหากใครทำได้ก็ถือว่ามีความสามารถแล้ว แต่ที่สำคัญกว่านั้นคือว่ากว่าจะลดได้วันละหนึ่งบาทมันต้องฟันฝ่า พยายาม อดทน กล้ำกลืน เด็ดเดี่ยว บากบั่น มานะ ฯลฯ กันอย่างไร ตรงนี้แหละเป็นสีสันมากกว่า หรือว่าจะต้องวางแผนอนาคตตนเองอย่างไรเมื่อได้ทุนส่งเสริมการประกอบอาชีพ หรือได้รับการสนันสนุนเครื่องตัดหญ้าหนึ่งเครื่อง จะต้องคิดและตัดสินใจโดยใช้กระบวนการเรียนรู้ตลอดเวลาจึงจะดำรงหรือพัฒนาได้
อย่ามองกองทุนสวัสดิการชุมชนแต่เพียงตัวเลขอย่างเดียว ขอได้มองเชิงคุณภาพที่ซ่อนอยู่ข้างในควบคู่ไปด้วย ผู้เล่าซึ่งเป็นตัวแทนจากตำบลน้ำขาวเสนอให้ชาวตำบลบางจากได้บันทึกประสบการณ์ต่างๆไว้ อารมณ์คนตำบลบางจากคล้อยตามไปมากทีเดียว รับว่าจะทำสิ่งนี้ เพราะผู้เล่าบอกถึงประโยชน์ของการบันทึกไว้มากมายทีเดียว ไม่ว่าจะใช้ประโยชน์ด้านการหาคนดีคนเก่งของหมู่บ้าน เกษตรกรตัวอย่าง ผู้นำดีเด่น ฯลฯ
บทเรียนใหม่ของชาวตำบลบางจากคือบันทึกความรู้และประสบการณ์การทำงานกัน
เรื่องนี้ยังมีต่อครับ
เห็นดีด้วย ควรให้กำลังใจคนที่ทำความดีอย่างต่อเนื่อง