วันที่ 27 ธันวาคม มีการประชุมทีมวิจัยโครงการแผนที่เดินทางเศรษฐกิจพอเพียง ผู้เข้าร่วม คือ ศ.อภิชัย พันธเสน ตัวเราเอง ดร.พิพัฒน์ ยอดพฤติการจากสถาบันไทยพัฒน์ ทีมงานมหาวิทยาลัยบูรพา นำโดยอาจารย์ชัยยนต์ ที่ดูมิติการกระจายอำนาจ อาจารย์สุนทรี จากคณะเภสัชฯจุฬา ซึ่งดูมิติสุขภาวะ อาจารย์ชญาณี จากคณะเศรษฐศาสตร์ ธรรมศาสตร์ มิติเศรษฐกิจและเทคโนโลยี
ที่ไม่ได้เข้าร่วมเพราะติดภารกิจ คือ ทีมมิติการศึกษาและจริยธรรมสังคมและวัฒนธรรมจากธรรมศาสตร์ มิติการลดช่องว่างทางเศรษฐกิจและสังคมจากมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี มิติสิ่งแวดล้อม จากนิดาและทีดีอาร์ไอ และอ.ภีมจากมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ซึ่งช่วยดูภาพรวมก็ติดการประชุมที่หาดใหญ่
การประชุมทีมวิจัยครั้งนี้เพื่อแก้ไขรายงานและแผนที่เดินทางครั้งสุดท้าย และเพื่อวางแผนการทำงานต่อไปข้างหน้า
การปรับปรุงแผนที่เดินทางเศรษฐกิจพอเพียง
แผนที่เดินทางจากข้อมูลและการระดมสมอง 3 ครั้ง มองจากระดับปัจเจก ไปสู่กลุ่ม ชุมชน พื้นที่ และสุดท้ายเป็นระดับโครงสร้างภาพรวม ประกอบด้วย 6 ยุทธศาสตร์ พูดย่อๆ คือ สร้างสังคมคุณธรรม สร้างสังคมเรียนรู้ สร้างองค์กรชุมชนและชุมชนเข้มแข็ง สร้างการเมืองแบบมีส่วนร่วมและสมานฉันท์ สร้างเสริมสิ่งแวดล้อม ลดช่องว่างทางเศรษฐกิจสังคมและสร้างภูมิคุ้มกันทางเศรษฐกิจ
ตัวแผนที่เดินทางนั้น ที่ประชุมมีการปรับแก้ไขเล็กๆน้อยๆในส่วนกลยุทธ์และแผนงาน แต่เรื่องสำคัญที่เราขอให้ทุกคนช่วยดูคือ กลยุทธ์ ว่าด้วย “การสร้างการรู้เท่าทันโลกาภาภิวัฒน์” ที่พูดถึงกันมากนั้น ในทางปฏิบัติจะทำอย่างไร ข้อเสนอเดิมมีอยู่เพียง 3 แผนงาน แต่สุดท้ายที่ประชุมก็ได้เพิ่มแผนงานที่ 4 คือ การติดตามสถานการณ์และเฝ้าระวังผลกระทบที่เกิดจากโลกาภิวัฒน์ เช่นการเปิดเสรีทางการค้า...
แนวทางการทำงานต่อ
ดร.พิพัฒน์ มีส่วนสำคัญในการเสนอความคิดตรงนี้ แล้วพวกเราก็ช่วยกันสานต่อ สรุปคือสิ่งที่พวกเราควรทำจะต้องมีสามส่วน
ส่วนแรกคือแผนที่เดินทางเศรษฐกิจพอเพียง ที่กำลังจะออกมาเป็นรูปร่าง ถือว่าเป็นแผนแม่บทในระดับมหภาค พวกเราตั้งใจจะให้เป็น rolling plan มีความยืดหยุ่นที่หน่วยงาน กลุ่มองค์กรต่างๆจะนำไปปรับใช้เอง ในทิศทางที่สอดคล้องกันภายใต้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
ส่วนที่สองที่ต้องทำต่อ คือ การแปลงแผนสู่การปฏิบัติ โดยโครงการน่าจะสนับสนุน ทุน/งบประมาณ และสนับสนุนนักวิจัยที่จะเข้าไปมีส่วนร่วมกับหน่วยงานที่ประสงค์จะนำแผนที่เดินทางไปแปลงสู่การปฎิบัติ เป็นลักษณะของงานวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม
ส่วนที่สาม คือ การติดตามประเมินผล ซึ่งอาจทำแบบการจัดการความรู้ควบคู่กับส่วนที่สอง
ภาคีร่วมมือ
ที่ประชุมพูดถึงหน่วยงานที่น่าจะเป็นภาคีร่วมมือในการนำร่องการแปลงแผนสู่การปฏิบัติ ซึ่งแบ่งเป็น
เชิงยุทธศาสตร์
พวกเรามองหน่วยงานที่อาจจะนำแผนที่เดินทางนี้ไปสนับสนุนให้หน่วยอื่นๆประยุกต์ใช้ คือ สภาพัฒน์ฯ สกว. สสส. . (ที่อาจารย์ปาริชาติ วลัยเสถียร เสนอเพิ่มเติมนอกห้องประชุม คือ พอช)
เชิงองค์กรที่จะเป็นต้นแบบขององค์กรพอเพียง
เชิงประเด็น
กองทุนเพื่อการปรับตัวของภาคการผลิตและบริการที่ได้รับผลกระทบจากการเปิดเสรีทางการค้า ได้ติดต่อผ่าน สมาคมไทยอุตสาหกรรมผลิตยาแผนปัจจุบัน เพื่อหาทีมวิจัยศึกษาแนวทางการปรับตัวของอุตสาหกรรมยาที่ได้รับผลกระทบจากโลกาภิวัตน์ โดยสมาคมถามมาทางอาจารย์สุนทรีว่า แนวทางเศรษฐกิจพอเพียงพอจะหาทางออกตรงนี้ให้ได้หรือไม่ พวกเราเห็นว่า ประเด็นนี้ตรงกับที่พวกเราอยากเห็นว่า เศรษฐกิจพอเพียงจะสร้างภูมิคุ้มกันโลกาภิวัตน์ได้อย่างไร จึงคิดกันว่า เราน่าจะเข้าไปช่วยทำโครงการนี้ เป็นการหาคำตอบ ขณะเดียวกันก็จะได้พันธมิตรในการขับเคลื่อนงานเศรษฐกิจพอเพียงในระดับอุตสาหกรรม คือ สมาคมไทยอุตสาหกรรมผลิตยาแผนปัจจุบัน
ถ้าทำได้อย่างที่คิด ประสบการณ์ทางภาคปฏิบัติขององค์กรเหล่านี้จะสร้างการเรียนรู้ที่สำคัญสำหรับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจพอเพียงในระดับต่างๆ ในช่วง 5 ปีแรกของเส้นทางยาวไกล 20 ปีที่ผู้เข้าร่วมการระดมสมองได้ช่วยกันกำหนดวิสัยทัศน์ไว้
แต่เฉพาะหน้า คือ เขียนงานให้เสร็จ นำเสนอและคุยกับ สกว.อีกครั้ง...
** ไม่ทราบว่ามีองค์กร หน่วยงาน พื้นที่ใด สนใจแผนที่เดินทางและสนใจมีส่วนร่วมในกระบวนการแปลงแผนสู่การปฎิบัติบ้าง
## ดูข้อมูลเพิ่มเติมเรื่องแผนที่เดินทางเศรษฐกิจพอเพียงได้ใน http://gotoknow.org/blog/road2se
เรียนคุณหมอ
ขอบพระคุณที่ติดตามและสนใจงานโครงการเศรษฐกิจพอเพียงค่ะ ตอนนี้กำลังรีบสรุปงานเสนอ สกว.เพื่อปรึกษาเรื่องแนวทางการขยับงานต่อ มีความคืบหน้าอย่างไรจะรายงานให้ทราบนะคะ
ปลูกนาเพื่อชีวิต