รับประทานเนื้อแดงและเนื้อสำเร็จรูปมากมีผลต่อมะเร็ง


รับประทานเนื้อแดงและเนื้อสำเร็จมากมีผลต่อมะเร็งละไส้ใหญ่และมะเร็งอื่นๆ

การรับประทานเนื้อแดงและเนื้อสำเร็จรูปมากมีผลต่อมะเร็งลำไส้ใหญ่  มะเร็งปอด มะเร็งตับ  มะเร็งหลอดอาหาร

       ทุกท่านเห็นหัวข้อที่ดิฉันเขียนคงขยาดไม่ต้องการรับประทานเนื้อสัตว์ใช่มัยค่ะ 
      
ดิฉันมีโอกาสได้อ่านบทความของท่านนายแพทย์ วัลลภ  พรเรืองวงศ์  และขอขอบคูณท่านมา ณ โอกาสนี้
      ท่านเขียนไว้ว่า  การรับประทานเนื้อสัตว์มากจะก่อให้เกิดมะเร็งปอด  มะเร็งตับ  มะเร็งลำไส้ใหญ่ มะเร็งหลอดอาหาร  แล้วดิฉันจึงขออนุยาตท่านนำเอาผลงานบางส่วนของท่านมาเขียนต่อเพื่อเผยแพร่ความรู้และเป็นสิ่งเตือนใจของท่านๆที่นิยมบริโภคเนื่อสัตว์  รวมทั้งตัวดิฉันด้วยนะค่ะ  และบางครั้งเราก็ชอบทานเนื้อกะทะ  หมูกะทะ  ตัวนี้แหละยิ่งทำให้เกิดมะเร็งได้เร็วขึ้น

      ท่านได้บรรยายไว่ว่า  การกิเนื้อแดง  (red meat) หรือเนื้อสำเร็จรูป (processed meat) มากเกิน เพิ่มความเสี่ยงมะเร็งหลายอย่าง รวมทั้งมะเร็งปอด มะเร็งลำไส้ใหญ่ มะเร็งตับ และมะเร็งหลอดอาหาร

สิ่งที่พิเศษสุดๆ สำหรับผู้ชายคือ ผู้ชายที่กินเนื้อแดงเกินจะเพิ่มความเสี่ยงมะเร็งตับอ่อนอีกด้วยนะค่ะ

ท่านอาจารย์ดอกเตอร์อะแมนดา ครอส และคณะ แห่งสถาบันมะเร็งแห่งชาติ สหรัฐฯ ทำการศึกษากลุ่มตัวอย่าง 500,000 คน อายุ 50-71 ปี ติดตามไป 8 ปี ผลการศึกษาพบว่า กลุ่มตัวอย่างเป็นมะเร็งประมาณ 1 ใน 10 หรือ 53,396 คน

ผลการศึกษาพบว่า กลุ่มตัวอย่างที่กินเนื้อแดงมากที่สุดมีความเสี่ยงต่อมะเร็งหลอดอาหาร มะเร็งลำไส้ใหญ่ มะเร็งตับ และมะเร็งปอดเพิ่มขึ้น 20-60% เมื่อเทียบกับกลุ่มที่กินเนื้อแดงน้อยที่สุด

เนื้อแดง (red meat) ในที่นี้หมายถึงเนื้อสัตว์บกขนาดใหญ่ โดยเฉพาะเนื้อวัว เนื้อหมู และเนื้อแกะ

กลุ่มตัวอย่างที่กินเนื้อสำเร็จรูปมากที่สุด (แบ่งกลุ่มตัวอย่างเป็น 5 กลุ่ม นับกลุ่มที่กินมากที่สุด 20% แรก) มีความเสี่ยงต่อมะเร็งเพิ่มขึ้นได้แก่

  • มะเร็งลำไส้ใหญ่เพิ่มขึ้น 20% โดยเฉพาะมะเร็งไส้ตรง หรือลำไส้ใหญ่ส่วนล่าง (rectal carcinoma)
  • มะเร็งปอดเพิ่มขึ้น 16%

เนื้อสำเร็จรูป (processed meat) ในที่นี้หมายถึงเบคอน ไส้กรอกทั้งที่ทำจากเนื้อแดง และสัตว์ปีก เช่น เป็ด ไก่ ฯลฯ

คณะอาจารย์ที่วิจัยกล่าวว่า สมมติฐานที่อาจอธิบายผลการเพิ่มความเสี่ยงมะเร็งจากเนื้อแดง และเนื้อสำเร็จรูปได้แก่

  1. เนื้อแดงมีไขมันอิ่มตัวสูง
  2. เนื้อแดงมีธาตุเหล็กสูง... ธาตุเหล็กที่มากเกินมีส่วนเพิ่มการเกิดอนุมูลอิสระในร่างกาย
  3. สารเคมีที่เกิดจากการปรุงอาหาร และการถนอมเนื้อแดง เช่น NOC (n-nitroso compounds), HCAs (heterocyclic amines), PAHs (polycyclic aromatic hydrocarbons) ฯลฯ

การพึงปฏิบัติ
    1.เราควรหันมารับประทานโปรตีนจากพืช เช่น ถั่วเหลือง  ถั่วหลาย
ชนิดผสมกัน  เต้าหู้ แทนโปรตีนจากสัตว์สักครึ่งหนึ่ง
     2. กินข้าวกล้องกับอาหารจากพืชมื้อละ 3-5 อย่างขึ้นไปมีส่วนช่วยให้ได้โปรตีนคุณภาพสูงที่ดีกับสุขภาพ

    ++++  สารต้านอนุมูลอิสระ(แอนตี้ออกซิแดนท์) สารพฤกษเคมีหรือสารคุณค่าพืชผัก และเส้นใย(ไฟเบอร์)เพิ่มมากขึ้นทำให้สุขภาพโดยรวมดีขึ้น ++++

...

หมายเลขบันทึก: 156373เขียนเมื่อ 28 ธันวาคม 2007 12:05 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 22:09 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (7)

น.ส.สุกฤตา วงศ์ภาคำ ม.6/12 เลขที่ 43

น.ส.กนิษฐา โฮมวงศ์ ม.6/12 ,16

นายไพโรจน์ วรรณพงษ์ เลขที่ 3 ม.6/12

น.ส.มณีรัตน์ พละชีวะ

เลขที่ 28 ม.6/12

วิลาภรณ์ บุตรสะอาด 6/12 เลขที่38

อ่านแล้วจะนำความรู้ที่ได้รับมาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันคะ......

เกศรินทร์ สิงห์รัมย์ 6/12 52

อ่านแล้วจะนำไปปฏิบัติตามค่ะอาจารย์

นส.ปาริฉัตร งิ้วพรหม

ม.6/11 เลขที่ 24

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท