ขอสันติสุขจงมีแด่แผ่นดิน


ความเรียง ถึงผลการเลือกตั้ง 23 ธันวาคม 2550 เมื่อมีคำถามและคำตอบ ต่อการยอมรับผลการลงคะแนนเสียงเลือกตั้งของประเทศไทย ในท่ามกลางเรื่องราว มุมมอง ความคิดเห็น และความรู้สึกหวั่นใจต่ออนาคตของประเทศไทย ที่มีเพียงปรารถนาให้การเมืองไทย เดินทางต่อไปได้ในเบื้องหน้า ด้วยการยอมรับในเสียงประชาชนที่ปรากฎ แม้จะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยก็ตาม ขอให้ประเทศไทยยังเดินทางต่อไป ขอสันติสุขจงบังเกิดขึ้นแด่แผ่นดินแห่งนี้

ขอสันติสุขจงมีแด่แผ่นดิน

อ้างอิง - ภาพ http://burabhawayu.multiply.com/photos 

ต้องยอมรับโดยตรง

เมื่อนั่งฟังผลสำรวจคะแนนเสียง

ผลสำรวจนอกคูหาอย่างไม่เป็นทางการ

ผมรู้สึกผิดหวัง

เมื่อกล่าวถึงการเลือกตั้งที่กำลังผ่านไป ในวันอาทิตย์ที่ 23 ธันวาคม 2550 ซึ่งปรากฎผลอย่างไม่เป็นทางการว่า พรรคพลังประชาชนมีโอกาสได้จัดตั้งรัฐบาลมากที่สุด หากพิจารณาตามสัดส่วน การเมืองเชิงคณิตศาสตร์ หรือคณิตศาสตร์การเมืองในสังคมการเมืองไทย การจัดสรรผลประโยชน์แบบคิดง่าย

หากพิจารณาตามเสียงเลือกตั้งของประชาชน

ก็ต้องนับว่าคะแนนความนิยมยังปรากฎ

ยังยืนยันในฟากฝั่งการเมืองเดิม

หรือยังคงเชื่อว่ากลุ่มนักการเมืองกลุ่มนี้ ที่นำเสนอนโยบายนำประเทศสู่ความมั่งคั่ง ด้วยการใช้นโยบายเดิมของพรรคไทยรักไทย ใช้กลุ่มนักการเมืองของไทยรักไทย และใช้นโยบายชูผู้นำแดนไกลเช่นคุณทักษิณ ชินวัตร กระทั่งเนื้อหาชัดเจนว่าจะนำคุณทักษิณกลับประเทศไทยอย่างปลอดภัย หรือจะนำเสนอร่างกฎหมายนิรโทษกรรมแก่นักการเมือง 111 ท่าน

ผมขอยอมรับตามตรง

ว่ารู้สึกผิดหวังสักเล็กน้อยถึงปานกลาง

สำหรับผลคะแนนสำรวจนอกคูหาเลือกตั้งครั้งนี้

โดยส่วนตัวผมยืนยันว่า ผมออกไปสิทธิเลือกตั้งตามหลักยุทธศาสตร์ เพื่อต้องการถ่วงดุลย์อำนาจอันยิ่งใหญ่ของพรรคพลังประชาชน และกลุ่มการเมืองฟากคุณทักษิณ ชินวัตร ในท่ามกลางความไม่ไว้วางใจ ต่อวิสัยท่าทีและแววตาทางการเมืองของกลุ่มการเมืองกลุ่มนี้

หลังจากเดิมตั้งใจว่าจะแสดงคะแนนเสียง

โดยการขอยกเว้นการลงคะแนน

ไปใช้สิทธิแต่ไม่ลงคะแนน

แต่หลังจากเห็นสภาพการยุทธ์ของฟากฝ่ายพรรคพลังประชาชน ในท่าทีที่ต้องการนิรโทษกรรมอดีตนักการเมือง และนำคุณทักษิณ ชินวัตร กลับมาฟอกย้อมทางการเมือง ผมคิดว่า คงต้องแสดงความคิดเห็น และสิทธิโดยส่วนตัวสักเล็กน้อย แต่เมื่อผลการลงคะแนนเสียงทางการเมืองออกมาเช่นนี้

ผมก็ยอมรับ

และขอยอมรับต่อคะแนนเสียง

ต่อคะแนนความนิยมของประชาชนคนไทย

หากท่านทั้งหลายจะตัดสินใจ และเชื่อมั่นในแนวทางการบริหารงานของรัฐบาล ที่มีสภาพไม่แตกต่างจากพรรคไทยรักไทยเดิม เป็นพรรคพลังประชาชน ที่ต้องการกลับเข้ามาบริหารราชการแผ่นดิน โดยไม่หวั่นเกรงต่อคำทักท้วงเรื่องการทุจริต และประพฤติมิชอบในหลากหลายประเด็น

 

หากพิจารณาตามความจริงของการเลือกตั้งครั้งนี้

คงได้รับคำตอบว่ายังมีผู้ซึ่งชื่นชอบชื่นชม

และมีการหาเสียงเพื่อได้คะแนนนิยม

ในตัวตนของรัฐบาลเดิม ที่เชื่อมั่นว่ายังสามารถทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ และได้รับคำตอบจากเสียงสวรรค์ เสียงประชาชนในแต่ละพื้นที่ หรือกระทั่งเสียงบอกกล่าวว่าต้องการนำคุณทักษิณ ชินวัตร กลับคืนสู่ประเทศไทย เพื่อพิสูจน์ตนเองในชั้นศาล

ไม่ว่าจะเป็นเช่นไร

ผมยังเชื่อมั่นในเสียงของประชาชน

แต่ก็ยังคงต้องยืนยันว่า ไม่ต้องการให้ใครกลับมาใหญ่

โดยใช้เสียงประชาชนเป็นข้ออ้าง จริงอยู่ที่เสียงคะแนนนิยมเหล่านั้นมีอยู่มากมายจนปรากฎผลเป็นความนิยม แต่สำหรับผมไม่ได้หมายความว่า คือเครื่องหมายแสดงความบริสุทธิ์ของใครต่อใคร ในท่ามกลางข้อกังขาของความไม่เป็นธรรม หากใครจะฟอกย้อมใคร โดยเหตุผลว่าเสียงเลือกตั้งคือข้อกำหนด

ผมก็ยังจะต้องยืนยันด้วยความเชื่อมั่น

ว่าเป็นสิ่งที่ไม่เกี่ยวกันอย่างยิ่ง

ไม่ว่าจะโดยเหตุใด

ไม่ว่าจะโดยความหมายใด วันนี้ผมก็ยังหวั่นใจกับสถานการณ์เบื้องหน้า ภายหลังการจัดตั้งรัฐบาล ท่ามกลางน้ำเสียงไม่พึงใจในทิศทางของคณะรัฐมนตรี หากการทำงานครั้งนี้ มีมิติเพื่อกลับมาทวงคืนความแค้น ภายหลังจากการยึดอำนาจผ่านไปหนึ่งปีกว่า ผมยังหวั่นใจเช่นนั้น

ในท่ามกลางบุญคุณความแค้น

ในท่ามกลางการช่วงชิงชัยชนะด้วยเสียงประชาชน

ในท่ามกลางเดิมพันแห่งความไม่พึงพอใจ

วันนี้เสียงเหล่านี้ปรากฎผลให้เราได้เห็นแล้ว จะอย่างไรก็ตาม ผมเชื่อว่าระยะเวลาต่อจากนี้ คือความจริงในสังคมไทยที่คนไทยต้องร่วมรับรู้ นักการเมืองที่ได้รับชัยชนะและอำนาจ จะทำเช่นไรกับอำนาจเหล่านี้ จะนำกลับมาย่ำยีบีฑาฝ่ายตรงข้าม ที่ตนคิดว่าเขาเคยข่มเหงรังแก หรือจะนำกลับมาสู่ความสมานฉันท์ ตามที่เคยบอกกล่าวในยามตนเองตกต่ำ

ในความจริงของชัยชนะ

ผู้ชนะคือผู้ออกกฎและกำหนดเกมการเล่น

ไม่ใช่บทบาทหน้าที่ของผู้แพ้และผู้ปราชัยจะมาบอกกล่าว

เช่นเดียวกันในวันนี้ มีเพียงเรื่องราวของความจริงที่เราจะได้แลเห็น จากปากคำของนักการเมืองที่เคยเที่ยวด่าประชาชน จากปากคำว่าหากเรืองอำนาจ จะทำเช่นไรต่อฟากฝ่ายการเมืองขั้วตรงข้ามบ้าง ในยามนี้สำหรับชัยชนะแบบลางเลือน ที่กำลังจะกลายเป็นความจริง

โมงยามครั้งนี้ ภายหลังจากชัยชนะ

เราคงได้แต่คาดหวังและภาวนา

ถึงอนาคตการเมืองไทย

คงไม่มีการกวาดล้างอำนาจทางการเมือง คงไม่มีน้ำเสียงแก้แค้นเยาะเย้ยถากถาง คงไม่มีน้ำเสียงกร่างใหญ่คับบ้านเมือง ให้เราท่านต้องขุ่นเคืองใจ ในยามท่านทั้งหลายมีอำนาจ หรือในยามที่อำนาจใหญ่โตคับบ้านคับเมือง ลิ้นท่านคงไม่ใหญ่คับปาก ขาท่านคงไม่กร่างกางออกทั่วแผ่นดิน

วันนี้ผมคิดอะไรไม่ออก

นอกจากยอมรับในเสียงประชาชนคนไทย

เพียงแต่ภาวนาในใจตนเองว่า ขอสันติสุขจงมีแด่แผ่นดินนี้

 

หมายเลขบันทึก: 155587เขียนเมื่อ 23 ธันวาคม 2007 22:32 น. ()แก้ไขเมื่อ 1 เมษายน 2012 13:10 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

เฮ้อ........เครียดเลยหละค่ะ  ทำไมหนอ..คนไทยเราลืมง่ายกันจัง

  • สวัสดีครับ คุณหนิง P
  • ได้แต่คาดหวัง ได้แต่คาดหวังจริงจริงครับ
  • ขอภาวนาให้แก่ทิศทางประเทศไทย
  • ขอให้กำลังใจสู่อนาคต
  • ในการยอมรับคะแนนเสียงที่ปรากฎ
  • จากการลงคะแนนเสียงของประชาชน
  • ผมยอมรับ
  • ด้วยความวังเวงใจครับ
  • ขอเพียงภาวนา
  • ขอสันติสุขจงมีแด่แผ่นดินนี้ครับ
  • ขอบคุณครับ
ผิดหวังเช่นกันค่ะ ได้แต่ภาวนาให้สันติจงกลับมา แต่ถ้าเป็นได้ขอบางคนอย่ากลับมา : ( แค่นี้ก็อาจจะช่วยให้สงบสุขแล้วก็ได้ค่ะ

 สวัสดีครับ

           ความจริงผมไม่ได้หวังอะไรเพราะรู้ว่าเสียงส่วนใหญ่ในชาวบ้านแถวนี้คิดอะไร

          ผมไม่อยากผิดหวัง  คิดว่าอย่างนั้นแล้วก็เป็นจริง

          เหตุที่เราผิดหวังเพราะพวกเราคิดคนละอย่างรู้สึกคนละอย่างจากประชาชนส่วนใหญ่โดยเฉพาะในหมู่คนตามชุมชนชนบท

           คนชั้นกลางในเมืองต้องตอบคำถามใหญ่ ว่าทำไมเราถึงคิดได้ต่างจากชาวบ้านขนาดนั้น 

            ประเทศ รัฐบาลทิ้งพวกเขามานาน  วันหนึ่งเขารู้สึกถูกทอดทิ้งและมีคนฉุดดึงเขาขึ้นมา

              คนที่ฉุดดึงพวกเขาขึ้นมาจะด้วยอะไร วิธีใดก็ตามเป็นใครก็ตาม   วันนี้เขาคือบุรุษในความทรงจำ

                 ที่หลายคนแสดงความห่วงใยคิดถึงเขา

                  ผมไม่คิดอย่างชาวบ้านส่วนใหญ่ แต่ไม่รู้สึกผิดหวัง

                  แต่ผมไม่อยากคิดหวังสิ่งใดจากประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศ  ตราบใดที่เรายังคิดต่างขั้ว ต่างอุดมการณ์ขนาดนี้

                 แต่ผมจะพยายามทำความเข้าใจในชุมชนต่อไป  มีคนส่วนหนึ่งที่เห็นความย่ำแย่ของผู้คนระดับนำ   แต่หลายคนถูกดึงด้วยประโยชน์ และภาพลวง

              จะทำได้แค่ไหนอย่างไร  ไม่รู้  อาจไม่ได้ตลอดชีวิต  แต่จะลองพยายามครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท