เรื่องเล่า...เศร้าไม่ลืมเลือน


ไล่ตงจิ้นแบบอย่างที่ดีของวัยรุ่น

ขอชื่นชมกับเยาวชนไอที น้องกอหญ้า  น้องนิวส์ ธีร์ดนัย ที่ติดตามอ่านและตอบกลับ  ทำให้เกิดกำลังใจที่จะเร่งรัดพัฒนาการอ่านของเยาวชนต่อไป  ทุกความเห็นที่เด็กๆให้ความสนใจให้ความเห็น ทำให้คิดถึงเมื่อหลายปีก่อน     ที่เคยได้รับการพัฒนาศักยภาพการเรียนการสอนด้วยการเข้าร่วมโครงการ"ระฆังขาน "รู้สึกชอบใจคำว่า "ระฆังขาน" มากๆ เพราะตอนเป็นเด็กได้ยินเสียงระฆังที่่โรงเรียนตีบอกเวลาเมื่อเริ่มกิจกรรมหน้าเสาธง  เวลาพักเที่ยงและเวลาเลิกเรียน  แต่วันนี้คิดถึงคำว่า"ระฆังขาน"  เมือได้อ่านความคิดเห็นของนักเรียนในบล็อกดินสอ   สุดแสนจะดีใจที่นักเรียนปฏิบัติตามคำสั่งสอนซึงเป็นการไหว้ครูที่สูงค่ากว่าการยกมือไหว้เสียอีก  ขอให้อ่านต่อไปนะคะ  เราจะช่วยกันดูแลประเทศชาติด้วยการสร้างเครือข่ายรักการอ่าน แม้ความสำเร็จจะเห็นผลช้า แต่ก็จะไม่ผิดหวังเหมือนความรักของวัยรุ่น ซึ่งบางครั้งหาทางออกไม่ได้ก็ทำร้ายตัวเอง เหมือนที่น้องกอหญ้าว่า  รู้สึกชื่นชอบและภูมิใจแทนพ่อแม่ของน้องกอหญ้าด้วยที่มีลูกสาวฉลาด คงมาจากการเลี้ยงดูที่มีพ่อแม่สอนวิธีคิดให้เป็นอย่างดี 

      ข้อคิดของน้องกอหญ้าที่ให้กับเพื่อนวัยรุ่น  ทำให้คิดย้อนไปถึงตอนที่เรียนอยู่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่  ตอนนั้นสโมสรนักศึกษาจะมีชมรมอยู่หลายชมรม ซึ่งแต่ละชมรมจะให้ความร่วมมือกับองค์กรภายนอกมหาวิทยาลัยด้วย ดิฉันทำงานให้สโมสรโรตาแรคท์เชียงใหม่ซึ่งมีบรรดาโรตาเรียนใจดีให้การสนับสนุนเป็นอย่างดี  พวกเราเคยร่วมวงดนตรีของ 3 คณะ คือ สังคมศาสตร์ วิศวะ และเทคนิคการแพทย์  ซึ่งมีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับ  เรามีสมาชิกร่วม 50 คน ( มีครบทั้ง 11  คณะ )เดินทางไปพัฒนาชนบทแถว ต.ยั้งเมิน อ.สะเมิงในเดือนที่หนาวเหน็บอุณหภูมิติดลบ  มีแม่คะนิ้งเกาะในตอนเช้า  แต่ด้วยพลังหนุ่มสาว  ไม่ว่าจะเป็นความเหน็บหนาวของอากาศหรือหนทางถนนลูกรังไต่เขาสูงชันก็ไม่ได้เป็นอุปสรรค  มีผู้คนบนขุนเขารอต้อนรับพวกเราด้วยอัธยาศัยไมตรี เราเหนื่อยแต่ทำให้พวกเขามีความสุขด้วยกิจกรรมที่หลากหลายวึ่งทำให้คนบนดอยตื่นตาตื่นใจ   หลังเสร็จภารกิจ  ค่ำลงก็ถึงเวลาพักผ่อนเล่นรอบกองไฟ   ดิฉันสังเกตเห็นเพื่อนผู้ชายคนหนึ่งเป็นคนเชียงรายเล่นกีตาร์อยู่ข้างกองไฟ  ด้วยนำ้เสียงและท่าทางที่ไม่เป็นปกติ  เมื่อได้พูดคุยเขาเล่าให้ฟังว่า  ทุกเพลงที่เขาเล่นที่ข้างกองไฟเป็นเพลงโปรดของพี่ชาย ที่เสียชีวิตไปเมื่อสองปีที่แล้วพี่ชายเขาฆ่าตัวตายเพราะผิดหวังเรื่องความรักแล้วก็ประชดประชันด้วยการไม่สนใจเรียน  เมื่อไม่เรียนก็หันเข้าหายาเสพติด  เริ่มจากบุหรี่ แล้วก็เพิ่มชนิด  เพิ่มปริมาณไปเรื่อยๆ  พอแม่รู้ก็โดนต่อว่า  เมื่อพี่ไม่สามารถทำตามความคาดหวังของแม่ได้ก็เลยยิงตัวตาย   แต่การตายของพี่ทำให้เขาเสียใจเหมือนจะตายตามไปด้วย  เพราะพี่เป็นนักดนตรีที่มีชื่อเสียงตัวเขาเองหน้าตาดีกว่าพี่ชายและฝีไม้ลายมือทางดนตรีก็ไม่ธรรมดาเพราะมีพี่ชายถ่ายทอดให้สุดฝีมือ  เมื่อสิ้นพี่ชายความหวังของเขาก็ดับไปด้วย เขาเริ่มดื่มเหล้าเมามายเพื่อให้ลืมภาพเลวร้ายจากการตายอย่างน่าสยดสยองของพี่  แทนที่จะพัฒนาฝีมือให้เท่าเทียมพี่ชายแทนความรักความอาลัยที่มีต่อพี่   เขาไม่ยอมเลิกเหล้าจนเรียนจบก็ไม่ยอมทำงาน แม่เขาก็ผิดหวังมากที่ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนทั้งสองไม่เป็นอย่างที่แม่คาดหวังทั้งที่แม่ทั้งรักทั้งเอาใจ  ตามใจเกือบทุกอย่าง  ผิดกับลูกสาวคนเล็กที่แม่ไม่ได้ฟูมฟักมากนักเพราะมัวเอาเวลาไปดูแลลูกชายเจ้าปัญหาทั้งสอง  แต่ลูกสาวที่ต้องดูแลตัวเองมาตลอดกลับแข็งแกร่ง  ต่อสู้เล่าเรียนจนจบดอกเตอร์และดูแลแม่อยู่คนเดียวจนถึงปัจจุบัน  ส่วนเพื่อนดิฉันก็ยังโศกเศร้าอยู่กับเหล้าและพยายามฆ่าตัวตายหลายครั้ง  เขาไม่ยอมแก้ปัญหากับอุปสรรคชีวิตทั้งที่เหตุแห่งปัญหาไม่ได้มาจากเขาเลย  การเอาชีวิตไปผูกติดกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งมากเกินไปเป็นชีวิตที่อาภัพและน่าเวทนา....หมดอนาคต ซ้ำยังเป็นภาระกับคนที่ตนรักอีก  เศร้าจัง......

               ช่วงเวลา 10 กว่าปีที่ใช้ชีวิตอยู่แถวเชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน  พะเยา ดิฉันทราบข่าวการฆ่าตัวตายบ่อยครั้งและนึกแปลกใจว่าเขามีปัญหาอะไรถึงได้ฆ่าตัวตายกันมากเช่นนั้น เท่าที่ทราบสาเหตุคือ  ป่วยเป็นโรคร้ายบ้าง ติดสุรา  เสพยาเสพติด  อกหักรักสลาย  น้อยใจพ่อแม่ ซึ่งเวลาต่อมา  ผู้คนทั้ง 4 จังหวัดก็ยังครองแชมป์ฆ่าตัวตาย (จากการรายงานข้อมูลของกรมสุขภาพจิต  )  มีจิตแพทย์โรงพยาบาลสวนปรุงท่านหนึ่ง  วิเคราะห์ว่าสาเหตุการฆ่าตัวตายน่าจะมาจากการเลี้ยงดู  ที่พ่อแม่ชอบเอาใจลูกบชาย   คือเลี้ยงดูให้สบายจนเกินไป ทำงานการอะไรก็ไม่ค่อยเป็น ยกย่องให้เป็นคนสำคัญขวัญใจของบ้านจนลูกเหลิง  แต่ในขณะเดียวกันพ่อแม่ก็มีความคาดหวังในตัวลูกชายสูงมาก  ความที่ถูกตามใจทุกเรื่องจากครอบครัว ทำให้ขาดภูมิต้านทานเมื่อเข้าสู่สังคมซึ่งไม่มีใครตามใจ  ทั้งยังไม่สามารถยอมรับคำตำหนิติเตียนจากใครได้ เนื่องจากไม่เคยถูก ว่าร้ายด้วยถ้อยคำรุนแรงในครอบครัว  เครียดแล้วแก้ปัญหาไม่ได้  ยอมแพ้แก่อุปสรรคเลยต้องหันไปพึ่งอบายมุขและจบชีวิตอ่อนแอด้วยการฆ่าตัวตายในที่สุด     เวลาผ่านไปนานแต่ดิฉันยังไม่เคยลืมเรื่องเศร้าของเพื่อนคนนั้นเลย 

             เรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์อันดี  สำหรับวัยรุ่นที่ถูกพ่อแม่เลี้ยงอย่างตามใจ  มีความโชคร้ายรออยู่บนความโชคดี  อยากให้วัยรุ่นทั้งหลายต่อสู้กับอุปสรรคเล็กๆน้อยๆด้วยตนเองจะได้เป็นไม้เนื้อแกร่ง  ไม่ใช่เพลิดเพลินอยู่กับความสมบูรณ์พูนสุขที่พ่อแม่มีให้  เพราะไม้เนื้อฟ่ามที่มีค่าน้อยกว่าไม้เนื้อแกร่ง  ลองหาหนังสือไล่ตงจิ้นลูกขอทานดูนะคะแล้วจะรู้ว่าเราช่างเกิดมาโชคดีเหลือเกิน

              การศึกษาในระบบถุกบังคับให้ทำช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้น แต่การเรียนรู้เกิดขึ้นได้ตลอดชีวิต  จากผู้คน  จากสภาพแวดล้อม แต่การเรียนรู้ทางลัดที่ชัดเจนที่สุดคือการเรียนรู้ด้วยการอ่านค่ะ

             ใครอ่านหนังสือดีมีคุณค่า  แลกเปลี่ยนเรียนรู้เข้ามา  เป็นอานิสงส์ที่ยิ่งใหญ่ทั้งผู้แนะนำและผู้อ่านค่ะ        

หมายเลขบันทึก: 154558เขียนเมื่อ 18 ธันวาคม 2007 23:10 น. ()แก้ไขเมื่อ 26 เมษายน 2012 18:28 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (10)
เหนอาจารย์พูดจังเลยแวะมาเยี่ยม อิอิ ^~^

คุณกิติยาครับ เรื่องทุกเรื่องของคุณมีสาระดีนะครับ ถึงแม้ว่าผมจะอ่านไม่ได้หมดแต่ดูจากหัวข้อเรื่องแล้วทุกๆเรื่องจะแฝงไปด้วยข้อคิดต่างๆนานา ทำให้เราคิดแก้ปัญหาได้ ผมจะนำข้อคิดที่ได้ไปปฏิบัติครับ สู้ๆ เป็นกำลังใจให้ครับพยายามต่อไป

อาจารย์กิติยา คนดีที่โลกรอ (เอ๊ะ ฟังแล้วคุ้นๆแฮะ)

อาจารย์ กิติยาครับ ์แต่ละอันที่ผมอ่านอะมันทำให้ผมได้รู้ถึงความงามของภาษาไทยนั้นเปนอย่างไร

สอนคนก็ได้ด้วย อาจารย์ครับสุดยอดจริงๆ 

เห็นเขียนบนกระดานไว้เลยมาเยี่ยมชมครับ  โพ้ม!!!!!!!!

     ( *_* ) ครูดีที่... โลก...  (ไม่) ลืม oHo(*_*)

                                                             

สวัสดีคะครูกิติยา  ครูเป็นครูที่ดีจริงๆค่ะ เท่าที่หนูเรียนกับครูมา ครูไม่ได้สอนแค่ในตำราเรียน แต่ครูสอนให้พวกเรารู้จักชีวิต รู้จักคิด ครูไม่ได้สอนแค่วิชาภาษาไทย แต่ครูบูรณาการวิชาภาษาไทยเข้ากับวิชาอื่นๆด้วยค่ะ

ขอชื่นชมน้องกิติยา.........ความคิดก้าวไกล....ทุกเรื่องที่เขียนมาได้ความรู้แฝงข้อคิดจริงๆ.....เตือนใจดีค่ะ

นี่แหละน้า....ประโยชน์ของการเป็นคนที่อ่านมาก.........ขอชมจริงๆ

ขอบพระคุณสำหรับคำชมนะคะอาจารย์ ทำเอาพ่อแม่หนูเขินไปเลย เรื่องราวของหนูตรงกันข้ามกับเพื่อนของอาจารย์อย่างสิ้นเชิงเลยล่ะค่ะ ตอนเด็กๆ แม่พยายามจะเลี้ยงหนูแบบให้พยายามช่วยตัวเองให้ได้ ทำอะไรผิดนิดเดียวก็จะดุว่าด้วยคำพูดที่รุนแรง หนูเคยคิดโกรธแม่ที่ทำไมต้องด่าว่าขนาดนี้ด้วย อะไรนิดอะไรหน่อยก็ตี  แต่มีเหตุการณ์ที่ทำให้เสียใจที่สุดและเข้าใจทุกอย่างที่แม่ต้องการสอนเรา คือ มีครั้งหนึ่งช่วงเริ่มเป็นวัยรุ่น ขี้เกียจเรียน เลยโดดเรียนไปกับเพื่อน มีอาจารย์จับได้ อาจารย์เลยเรียกพบผู้ปกครอง แม่ไม่พูดอะไรสักคำเดียวเลย แต่ที่คำตอบของแม่ คือ น้ำตา เจ็บปวดที่สุดในชีวิตแล้วตอนนั้น รู้สึกแย่ สัญญากับตัวเองเลยว่าจะไม่ยอมให้พ่อแม่ต้องมาโรงเรียนเพราะเราไปทำความผิดอีกเด็ดขาด ทะเลาะกับใครก็ต้องยอม ไม่อยากให้มีปัญหาถึงขั้นต้องใช้กำลัง เพราะกลัวแม่จะร้องไห้อีกหากต้องเห็นบาดแผลเรา หรือถูกเรียกพบผู้ปกครอง มีปัญหาก็พยายามอดทน  แม่บอกว่าที่ปล่อยให้ทำอะไรเองโดยที่ไม่ช่วยเลยในตอนเด็กๆ เพราะอยากให้พยายามทำหรือเรียนรู้ต่อสู้ด้วยตัวเองเป็น ที่ด่าว่าสั่งสอนด้วยถ้อยคำที่รุนแรงหรือตี เพราะอยากให้มีความอดทน เพราะโตขึ้นต้องอยู่ในสังคมที่มีคนหลายร้อยพ่อพันแม่ ต่างคนต่างมีนิสัยที่แตกต่างกันไป เมื่อเจอเรื่องที่ไม่ดี หรือเจอคนที่ไม่ดี ก็จะได้ทนได้ ต่อสู้ได้ ตอนที่ถูเรียกพบผู้ปกครองแล้วแม่เงียบไม่ว่าอะไรเรา แล้วร้องไห้ออกมาเพราะเสียใจ เพราะอยากให้เราคิด ว่าเราทำอะไรลงไป ต่อจากนี้ควรจะทำตัวยังไง  จนเข้าใจทุกอย่าง ดีใจและภูมิใจที่ได้เกิดเป็นลูกของพ่อกับแม่ค่ะ ดีใจที่ได้เป็นลูกศิษย์ของอาจารย์กิติยาด้วย ขอบคุณการแนะนำหนังสือดีดีทุกเล่มให้ได้อ่านได้เรียนรู้ ช่วยเพิ่มความคิดในการใช้ชีวิตอย่างมีคุณค่าให้หนูเข้าไปอีก ขอบคุณโชคชะตาที่ทำให้ได้มาเป็นลูกศิษย์ของอาจารย์กิติยาค่ะ  
คุณกอหญ้าสุดยอดมากครับ ผมว่าคุณต้องเป็นแม่ที่ดีในอานคตแน่นอนเลยครับ อิอิ

หนูก็เป็นคนนึงค่ะที่อ่านไล่ตงจิ้น   หนูคิดว่าไล่ตงจิ้นเป็นแบบอย่างที่ดีของวัยรุ่นหรือคนทั่วไปได้อย่างมากเลยค่ะ  จริงๆแล้วหนูคิดว่าถ้าเป็นหนูเองก็คงสู้ชีวิตไม่ได้เท่าเค้าหรอกค่ะ    ได้อ่านเรื่องนี้แล้วทำให้หนูคิดได้ว่าทางเลือกในชีวิตมีอยู่เสมอจริง  แต่ก็อยู่ที่คนจะเลือกว่าจะก้าวไปทางที่ดีหรือทางที่ไม่ดี  ถึงแม้ว่าไล่ตงจิ้นที่หลายคนจะดูเหมือนว่าไม่ค่อยมีทางให้เลือกเดินนัก   แต่กลับก้าวขึ้นมาประสบความสำเร็จได้อย่างไม่น่าเชื่อ   สุดท้ายนี้ก็ฝากไว้นิดนึงนะค่ะว่าเลือกเดินทางที่ดีที่สุดและถูกต้องที่สุดค่ะ(ป.ล. ลูกทุกคนควรเลือกทางเดินที่ทำให้พ่อแม่ภูมิใจนะค่ะ)

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท