“พี่ทำยังไงดี เรื่องของเรื่อง คือว่า ..”
“พี่ วันนี้ทะเลาะกันอีกแล้ว......”
“คุณ วันนี้ผมยังเหลืออาการ ชา ๆ น้ำลายไหลมาก ๆ อยู่เลย ......”
“พี่คิดว่าผมควรรับเป็นพ่อเด็ก ไหม......”
“พี่ ทำไงดี เค้าคงไม่ให้อภัยผมแล้วล่ะ ........
"พี่ วันนี้บำบัดให้หนูก่อนได้ไหม ..หนูไม่ไหวแล้ว..”
“แฟนหนู มันเจ้าชู้อ่ะพี่ จับได้เลย ว่าแอบไปขอเมลล์สาว หนูก็อาละวาดเลย..... ”
“ผมอยากตาย ผมสับสน .....”
บ่อยครั้งที่ การสนทนาของยายกาแฟกับเพื่อน ๆ Online ทาง MSN กลายเป็นการสนทนาเพื่อการบำบัด เพื่อน พ้อง น้องนุ่งมากมาย คุยกับยายกาแฟเพียงเพราะ อยากปรึกษาในเรื่องร้อนใจ ..
และเรื่องเดือดเนื้อร้อนใจของสาว ๆ ไม่หนีไปจากเรื่องหัวใจเท่าไหร่นัก แต่ก็มีบ้าง บางคนปรึกษาเรื่องลูก เรื่องของครอบครัวที่มีปัญหา ..มีกระทั่งการขอคำปรึกษาเรื่องการเลิกบุหรี่ ...ที่ยังประทับใจอยู่คงเป็นเรื่องที่ช่วยเพื่อน ถึง สองคนเลิกบุหรี่ทางMSN ได้ นับเป็นนวัตกรรมใหม่ของการบำบัด เลยทีเดียว ยายกาแฟก็ได้แต่ยินดี ที่ได้ทำบุญ โดยไม่ต้องไปถึงวัด
การ Chat ไม่ได้ไร้ สาระไปซะทีเดียว..บางทีแค่จุดเล็ก ๆ น้อย ๆ เราอยู่ตรงนั้น ตรงที่กำลังมีใครต้องการพอดี ..ความพอดีตรงนี้อาจกลายเป็น จุดพลิกผันที่ พลิกร้ายกลายเป็นดีอย่างไม่น่าเชื่อ มีครั้งหนึ่งเคยคุยกับน้อง ที่อาจรู้จักกันผิวเผินทาง net จับความรู้สึกจากคำพูดได้ว่า เค้ากำลังแย่ คุยไปคุยมา อ่าว มีคิดฆ่าตัวตายเฉยเลย ..ใช้เวลา คุยกันเกือบ สองชั่วโมง ..จนเลิกคิดตาย ..จนถึงเดี๋ยวนี้ ก็ยังพูดคุยผ่าน M กันอยู่ด้วยสัมพันธภาพที่แน่นแฟ้นขึ้น .. ทักทายเสมอเมื่อมีโอกาส ..
และมีน้องอีกคน ผิดหวังแฟนบอกเลิก..ทานยาหวังฆ่าตัวตายเข้าไปแล้ว ..ไม่รู้อะไรดลใจ..เปิดเน็ทเข้ามาเจอ ยายกาแฟพอดี..พอรู้เลยรีบโทรหาเพื่อนซึ่งเป็นคู่กรณีของเธอ ท้ายสุดทางเพื่อนก็ติดต่อผู้ปกครองได้ ส่งไปโรงพยาบาลทัน เฉียดฉิว..
คนเราทุกวันนี้ คงเหงาอย่างไม่น่าเชื่อ .. มีคนรายล้อม แต่มานั่งพูดคุยกับคนที่ไม่รู้จักทางอินเตอร์เน็ท บางทีทางเลือกในสื่อสาร online กลายเป็นทางที่หลาย ๆคนสะดวกใจที่จะเปิดเผยความรู้สึกของตัวเอง อาจเพราะคำนวณ หักลบกลบนี้แล้ว เสี่ยงน้อยกว่า ถ้าพูดคุยเปิดอกกับคนที่ไม่รู้จัก ไม่รู้เบื้องหน้า และ เบื้องหลัง
การพูดคุยกับคนรอบข้างน้อยลงบางครั้งก็กลายเป็นผลเสีย ในเวลาที่เจอกับภาวะวิกฤติเข้า การส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือ ก็ถูกละเลยไปอย่างน่าเสียดาย ..บางเรื่องแค่เส้นผมบังภูเขา แต่ก็ทำคนตัดสินใจผิดพลาด หรือ คิดสั้นทำร้ายตัวเอง มานักต่อนัก .. คนเราในยามที่เผชิญปัญหา โดยเฉพาะปัญหาที่ไม่ได้คาดคิด บ่อยครั้งที่ปัญญาไม่ได้เกิดอย่างแบบพลันทันที จึงบ่อยครั้งที่เราจะพบว่า อายุ การศึกษา วุฒิภาวะ ไม่ได้ช่วยเสมอไป และบ่อยครั้งมากที่ ความต้องการความช่วยเหลือเป็นเพียง ต้องการผู้รับฟัง แบบที่ไม่ไปตัดสินหรือตำหนิ
เคยเห็นการพัฒนารูปแบบของการเข้าถึง ระบบการให้คำปรึกษาและ การช่วยเหลือผ่านช่องทางอินเตอร์เน็ท พบว่ามันไม่ได้ตอบสนองต่อความต้องการ คนเราเมื่อเผชิญภาวะวิกฤติ หรือเดือดร้อน ความต้องการของเขา ของเขาคือตอนนั้น เดี๋ยวนั้น ...การไปฝากข้อความไว้ ..แล้วมีการตอบคำถามในอีก 2วัน - 2 อาทิตย์ เป็นช่องทางการสื่อสารที่ช้า และไร้ประสิทธิภาพเป็น อย่างมาก ...
เอาละค่ะ ใช่ว่าเราจะเดือดเนื้อร้อนใจ หรือ ตกที่นั่งวิกฤติตลอดเวลา เลยอยากจะฝากตัวอย่างสัญญาณ ขอความช่วยเหลือ อย่างเช่น
“ชีวิตนี้ ช่างมืดมนเหลือเกิน ..”
“ถ้าผมไม่อยู่ ซักคน อะไร ๆ คงดีขึ้นเยอะ”
“ถ้าหนูหายไป เค้าจะดีใจ”
“หนูอยากตายจริง ๆ"
"อยากไปให้พ้น ๆ"
"โลกนี้ไม่มีที่ให้ผมอยู่เลย”
“ผมมาถึงทางตันแล้ว ผมจบสิ้นแล้ว”
“เราอยากจบเรื่องนี้แล้ว จบแบบเงียบ ๆ ไม่ให้ลำบาก”
หากคุณ เป็นหนึ่งที่ได้รับ"สัญญาณของการขอความช่วยเหลือ" ..เหมือน หรือคล้าย ๆ กับประโยคข้างบนนี้ ไม่ว่าจะเป็นแบบใด ....ถ้าไม่เป็นการรบกวนมากเกินไป ลองใส่ใจ ..ฟังเขาซักนิด สะกิดเขาคิดซักหน่อย บางครั้งก็ช่วยคน คนหนึ่งได้มากเลยทีเดียว การช่วยเหลือคนที่ดีที่สุด คือการช่วยตอนที่เค้าต้องการ ซึ่งเวลาที่เป็นนาทีทองตรงนั้น บางครั้งสั้นเสียจนนึกไม่ถึง ...
อ้าว ! วันนี้เลยมีสาระซะงั้น..ไว้พรุ่งนี้ค่อยมาหาขำขำใหม่ก็ได้ค่ะ
น้องฝุ่นดาวstardust
คุณสุดทางบูรพา
คุณแม่ Lin Hui
พี่กุ้ง หนูไม่ได้อยากฆ่าตัวตายค่ะ
แต่หนูอยากฆ่าคนอื่นตายน่ะ
หนูเข้าข่ายมั๊ยคะ เหอ เหอ ....อ่ะ ล้อเล่ง ล้อเล่ง
เอ่อ...ผมอยากให้มันจบ แต่มันยังจบไม่ได้ เขียนตอนสามเสร็จแล้วยังไม่ได้โพสต์ กะว่าให้จบในสี่ตอน คอยดูนะผมจะจบมันเอง
อย่างนี้ผมกำลังมีปัญหาไหม...อิอิ
คุณ อิน้องคำหล้า
คุณอัยการชาวเกาะอัยการชาวเกาะ