มาตรการปิดอ่าว
บริเวณทะเลอ่าวไทยในเขตท้องที่
จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร และสุราษฎร์ธานี
เป็นแหล่งซึ่งสัตว์น้ำบางชนิดวางไข่
และอาศัยเลี้ยงตัวอ่อนในวัยอ่อนซึ่งผลจากการศึกษาและติดตามสัตว์น้ำบางชนิด
ปรากฏว่า สัตว์น้ำดังกล่าววางไข่และเลี้ยงตัวอ่อน
ในช่วงเวลาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ถึงเดือนพฤษภาคม
ของทุกปี โดยเฉพาะ " ปลาทู "
ซึ่งเป็นสัตว์น้ำที่มีคุณค่าและมีความสำคัญต่อเศรษฐกิจของประเทศเป็นอันมาก
ปัจจุบัน
ชาวประมงมีการพัฒนาและดัดแปลงเครื่องมือทางการประมงที่ทันสมัยขึ้น
เป็นปัจจัยหนึ่งที่ส่งผลให้การประมงปลาทูเริ่มแพร่หลายขึ้น
แม้ว่าความต้องการบริโภคปลาทูภายในประเทศยังมีไม่มากนัก
แต่ปริมาณปลาทูที่เกินความต้องการนั้นได้ถูกนำมาแปรสภาพทำเป็นปลาทูเค็มส่งออกไปขายต่างประเทศ
เช่น อินโดนีเชีย สิงคโปร์ ฮ่องกง
ทำรายได้เข้าสู่ประเทศปีละหลายล้านบาท
สืบเนื่องมาจากปี 2500
แหล่งประมงทะเลในอ่าวไทยต้องเผชิญกับวิกฤตการณ์ปลาทูวัยเจริญพันธ์ขาดแคลน
จึงทำให้นักวิชาการของกรมประมงและชาวประมงส่วนใหญ่เกิดความวิตกกังวลว่า
ชาวไทยรุ่นหลัง ๆ จะไม่มีปลาทูบริโภค
ซึ่งได้จุดประกายให้มีการศึกษาวิจัยวงจรชีวิตปลาทูภายใต้โครงการ "
งานสอบสวนปลาทู "
ดังนั้น
เพื่อแก้ไขปัญหาและป้องกันมิให้พ่อแม่พันธุ์สัตว์น้ำ
และสัตว์น้ำในระยะวัยอ่อนถูกจับมากเกินไป
และเพื่อให้สัตว์น้ำมีความอุดมสมบูรณ์
สามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างยั่งยืนถาวรตลอดไป
กรมประมง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จึงเห็นสมควรแก้ไข
ปรับปรุงมาตรการห้ามใช้เครื่องมือทำการประมงในพื้นที่หวงห้ามดังกล่าว
มาตรการปิดอ่าว
ฤดูปลามีไข่
ฤดูปลาวางไข่และอนุรักษ์ลูกปลา
ระยะเวลาที่ห้าม
15 กุมภาพันธ์ ถึง 31
มีนาคมของทุกปี 1 เม.ย. ถึง 15 พ.ค.
ของทุกปี
เครื่องมือที่ห้าม
อวนลากคู่ อวนลากแผ่นตะเฆ่
อวนล้อมจับ
อวนติดตา อวนลากแผ่นตะเฆ่มีคาน
อวนครอบ อวนช้อน
หรืออวนยก อวนลากคู่
อวนลากแผ่นตะเฆ่
อวนล้อมจับ อวนติดตา
อวนครอบ อวนช้อน
หรืออวนยก
**
ตามประกาศ ลงวันที่ 24 กันยายน พ.ศ.
2542
http://www.fisheries.go.th/DOF_THAI/Information/CloseBay/index.htm