มีโอกาสได้ไปปฏิบัติธรรมเป็นเวลา๑๐วันอาจารย์ท่านได้กล่าวถึงขอนไม้
ในพระสูตรซึ่งฟังดูแล้วก็รู้สึกว่าดีและมีคุณค่าสำหรับพุทธศาสนิกชนที่ควรได้ฟังหรืออ่านเืพื่อสดับสติปัญญาลองมาดูกัน
ณ ริมฝั่งแม่น้ำคงคา
พระพุทธเจ้าทอดพระเนตรเห็นขอนไม้ลอยมา จึงตรัสแก่เหล่าสาวกว่า
ถ้าขอนไม้นั้นไม่เข้าฝั่งนี้หรือฝั่งโน้น
จักไม่จมระหว่าง
ไม่เกยบก
ไม่ถูกมนุษย์จับเอาไว้
ไม่ถูกเกลียวน้ำวนพัดไม่เน่าเสียภายใน
มันจักลอยเรื่อยไปยังมหาสมุทร
ภิกษุทั้งหลาย ถ้าพวกเธอไม่แวะฝั่งนี้ หรือฝั่งโน้น
ก็จักไม่เกยบก ไม่จมในระหว่าง
ไม่ถูกอมนุษย์จับเอาไว้ ไม่ถูกเกลียวน้ำวนพัด ไม่เน่าเสียภายใน เช่นเดียวกัน
อธิบาย
ฝั่งนี้ คือ อายตะภายใน ๖
(ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ)
ฝั่งโน้น คือ อายตะภายนอก ๖
(รูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ ธรรมารมณ์ )
-ในทางปฏิบัติ อธิบาย ฝั่งนี้และฝั่งโน้น คือ นักเพ่งและนักเผลอ ธรรมที่เป็นคู่ๆ
การจมในระหว่าง คือ นันทิราคะ
(ความเพลิดเพลินยินดีในความสุขสงบ)
เกยบก คือ อัสมินานะ
(ความยึดถือขันธ์ ๕ ว่ามีตัวตน เป็น อวิชชา)
ถูกมนุษย์จับไว้ หมายถึง การคลุกคลีกับหมู่เพื่อน
ร่วมสุขร่วมทุกข์กับพวกเขา ช่วยเหลือทำกิจให้พวกเขา
คำอธิบายเพิ่มเติม-ห่วงผู้อื่นจนลืมเส้นทางนิพพานของตน
ถูกอมนุษย์จับไว้ หมายถึง ผู้มีเจตนาประพฤติพรหมจรรย์
เพื่อไปเกิดในเทพนิกายหมู่ใดหมู่หนึ่ง
หรือ อยากเป็นแค่เทวดา และพรหม ติดในอิทธิฤทธิ์ ไม่มุ่งนิพพาน
เกลียวน้ำวน คือ กามคุณ ๕
(วิ่งวนหาอารมณ์ใน รูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ ไม่อิ่ม ไม่อยากออกมา)
เน่าเสียภายใน หมายถึง ทุศีล
มีความประพฤติน่ารังเกียจ มีธรรมลามกไม่บริสุทธิ์ มีการกระทำซ่อนเร้น
ไม่ประพฤติพรหมจรรย์อ้างว่าประพฤติ มีกิเลสหนาเน่าเสียภายใน ดุจขยะเน่าเหม็น
ขออนุโมทนาสาธุกับการปฏิบัติธรรมของน้อง
รู้สึกยินดี และดีใจด้วยที่มีวิถีชีวิตในเส้นทางธรรมตั้งแต่อายุยังน้อย
ขอให้เจริญในธรรมยิ่งๆ นะจ๊ะ...
1. แจ่มใส
สาธุครับ
ก็อยู่กับวัดมาตั้งแต่เด็กคงผูกพันธ์จากชาติก่อน
จึงสนใจเรื่องธรรมะเป็นพิเศษดีใจที่ได้แวะเข้ามาอ่านนะครับ
ขอนไม้ลอยล่องน้ำ |
ตามกระแส |
ไม่เข้าฝั่งโน้นแล |
ฝั่งนี้ |
ไม่จมดิ่งกระแส |
แลไม่ เกยนา |
ไม่เน่าในเนื้อพี้ |
รี่พ้น วนวัง |
ยังมนุษย์ไม่จับไว้ |
ใช้สอย |
อมนุษย์ก็ไม่คอย |
หน่วงไว้ |
ขอนไม้นั่นย่อมลอย |
ถึงสมุทร แลนา |
มนุษย์ก็เสกไซร้ |
ผ่านได้ ถึงนิพพาน |