น้ำมันขึ้นราคา, ผู้กำหนดนโยบายพลังงาน กับ ท่อก๊าซไทย-พม่า


เพียงแต่การยึดหลักการและทฤษฎีเดิม ๆ ที่ท่านเหล่านี้ร่ำเรียนมา ในขณะนี้เราลองมามองวิธีคิดของในหลวงของเราซิครับ ท่านกลับมองเรื่องของพลังงานทดแทนมาตั้งนานแล้ว

ขอสอดแทรกระหว่างบันทึกการประเมินตัวเองในรอบ 3 เดือนแรกด้วยเรื่อง ...

น้ำมันขึ้นราคา, ผู้กำหนดนโยบายพลังงาน กับ ท่อก๊าซไทย-พม่า

ขอเสนอเนื้อความบางตอนจาก "หนังสือพิมพ์ผู้จัดการออนไลน์" ลิงค์เล็ก ๆ ที่ไม่ค่อยมีคนเห็น หรือ ไม่ค่อยมีคนสนใจ ...

 

หัวข้อข่าว: แฉ"ปิยสวัสดิ์-เมีย"รวยเละ กังขาคุมพลังงานเอื้อหุ้น 

"...การตอบสนองต่อแก้ไขปัญหาราคาน้ำมันที่เชื่องช้า มิหนำซ้ำยังปล่อยลอยตัวราคาค่าก๊าซอิงตามราคาน้ำมันของรัฐบาลก่อให้เกิดข้อกังขาต่อสังคมว่าผลประโยชน์มหาศาลที่กลุ่มกิจการด้านพลังงานได้รับจากการวางเฉยและปล่อยให้ราคาลอยตัวโดยไม่มีการเข้าไปกำกับดูแลและควบคุมของรัฐ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะผู้กุมนโยบายด้านพลังงานทั้งนักการเมืองและข้าราชการระดับสูงมีผลประโยชน์ทับซ้อน มีส่วนได้ส่วนเสียด้วยใช่หรือไม่ จึงทำให้ผลประโยชน์ที่จะเกิดแก่ประชาชนไม่ได้รับการเหลียวแล..."

"...สังคมได้ตั้งคำถามถึงเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนของรัฐมนตรีที่ดูแลนโยบายด้านพลังงาน ซึ่งเวลานี้การถือหุ้นในกิจการพลังงานของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานและภรรยา แม้ว่าจะมีกฎหมายกำกับเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนนักการเมืองโดยกำหนดไม่ให้ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองถือหุ้นเกิน 5% หากเกินจากนี้ก็ให้คนอื่นดำเนินการ แต่ข้อกำหนดดังกล่าวใช้ไม่ได้กับกิจการพลังงานซึ่งเป็นธุรกิจที่มีมูลค่ามหาศาล ยกตัวอย่างเช่น 5% ของปตท. มีมูลค่าเท่ากับ 50,000 ล้านบาทจากมูลค่ารวมนับล้านๆ ซึ่งถือเป็นจุดอ่อน ความจริงต้องกำหนดด้วยว่าไม่ให้มีมูลค่าเกินเป็นจำนวนเงินเท่าใดด้วย..."

 “ปตท.ผูกขาดก๊าซเป็นหลัก น้ำมันขึ้น ก๊าซขึ้น ราคาหุ้นปตท.ก็ขึ้น หุ้นกลุ่มพลังงานก็ขึ้น จะเห็นได้ว่าในช่วงหนึ่งปีหุ้นกลุ่มพลังงานที่เกี่ยวข้องกับปตท.และแผนการผลิตไฟฟ้าหรือพีดีพีเพิ่มขึ้นถึง 65-66% แต่กลุ่มที่ไม่ใช่กลุ่มพลังงานขึ้นมาเพียง 8%”

เมื่อรวมมูลค่าหุ้นของทั้งนายปิยสวัสดิ์ และภรรยา เฉพาะในส่วนที่ถือหุ้นโดยตรงในบริษัทด้านพลังงานข้างต้น จะพบว่า ณ วันที่ 9 ต.ค. 49 มีมูลค่า 78,938,147 บาท เทียบกับหนึ่งปีถัดมาเมื่อวันที่ 28 พ.ย. 50 มีมูลค่า 128,178,020 บาท เพิ่มขึ้น 49,239,873 บาท คิดเป็น 62%

       สำหรับข้าราชการระดับสูงกระทรวงพลังงานที่เข้าไปนั่งเป็นกรรมการบริษัทด้านพลังงาน เช่น
       
       นายพรชัย รุจิประภา ปลัดกระทรวง ซึ่งเป็นคณะกรรมการปิโตรเลียม, คณะกรรมการวิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.กิจการพลังงาน ไปนั่งเป็นประธานกรรมการบมจ.ปตท. รับผลตอบแทนเดือนละ 219,863 บาท ประธานกรรมการกฟผ. เฉพาะเบี้ยประชุม 37,500 บาท/ครั้ง, ประธานกรรมการบมจ.โรงกลั่นน้ำมันระยอง
       
       นายณอคุณ สิทธิพงศ์ รองปลัด ซึ่งเป็นคณะอนุกรรมการเอฟที, อนุกรรมการยกร่างพ.ร.บ.ประกอบกิจการพลังงาน และคณะกรรมการพิจารณาร่างพ.ร.บ.พลังงาน ก็ไปเป็นกรรมการบริษัทบมจ.ไทยออยล์ ผลตอบแทนเมื่อปี 49 ประมาณ 950,000 บาท, กรรมการ บมจ. ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง ประมาณ 1.6 ล้านบาท,
       
       นายคุรุจิต นาครทรรพ รองปลัด กรรมการบมจ.ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง ผลตอบแทนเมื่อปี 49 ประมาณ 1.6 ล้านบาท
        
       นายไกรฤทธิ์ นิลคูหา อธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ หนึ่งในคณะกรรมการปิโตรเลียม นั่งเป็นกรรมการบมจ.ปตท.สผ. ผลตอบแทนเมื่อปี 49 ประมาณ 2,289,344 บาท,
       
       นายเมตตา บันเทิงสุข อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน นั่งเป็นกรรมการบมจ.ปตท. ผลตอบแทน 2,640,000 บาท,
       
       นายพานิช พงศ์พิโรดม อธิบดีกรมพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน กรรมการบมจ.ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง ผลตอบแทนประมาณ 2 ล้านบาทต่อปี
       
       นายวีระพล จิรประดิษฐ์กุล ผอ.สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน คณะอนุกรรมการเอฟที, อนุกรรมการยกร่างพ.ร.บ.พลังงาน เป็นกรรมการบมจ.ปตท.สผ. ผลตอบแทนประมาณ 2 ล้านบาทต่อปี,
       
       นายสุชาติ จันลาวงศ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวง เป็นกรรมการบมจ.บางจาก ผลตอบแทน 360,000 ต่อปี
       
       นายพีระพล สาครินทร์ ผู้ตรวจราชการกระทรวง เป็นกรรมการบมจ.ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง ผลตอบแทน ประมาณ 1.6 ล้านบาท, กรมการบจ.ผลิตไฟฟ้าราชบุรี ผลตอบแทนประมาณ 2.3 ล้านบาทต่อปี,
       
       นายเจริญ ประจำแท่น ผู้ตรวจราชการ เป็นกรรมการบจ.ผลิตไฟฟ้าราชบุรี ผลตอบแทนประมาณ 2.3 ล้านบาทต่อปี
       
       และนายทรงภพ พลจันทร์ รองอธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ เป็นกรรมการบจ.ผลิตไฟฟ้าราชบุรี ผลตอบแทนประมาณ 2.3 ล้านบาทต่อปี

ข้อมูลเหล่านี้อยู่ในข่าวฉบับเต็ม ที่ http://www.manager.co.th/Home/ViewNews.aspx?NewsID=9500000143077

 

ขอแสดงความคิดเห็น:

ผมอ่านข่าวครั้งแรก แล้วเห็นชื่อเจ้ากระทรวง .. ก็หวนนึกกลับไปประมาณ 10 ปีก่อน ท่านผู้นี้คือ ผู้กุมนโยบายพลังงานของประเทศมาตั้งแต่ยังเป็นเลขาธิการคณะกรรมการพลังงาน (ยังไม่เป็นกระทรวงพลังงาน)

ท่านผู้นี้มีความเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ขัดแย้งท่อก๊าซไทย-พม่า โดยตรง เป็นผู้สนับสนุนบริษัทที่ผลิตพลังงานยักษ์ใหญ่ของประเทศผู้เป็นเจ้าของโครงการนี้

ผมได้มีโอกาสติดตามเรื่องราวของโครงการท่อก๊าซไทย-พม่า มาตลอดจากข่าวสารที่มาจากหลายทาง

 

 

นี่ไงครับ ภาพเส้นทางสร้างท่อก๊าซไทย-พม่า ... ป่าที่ท่านเห็น คือ ป่าลุ่มน้ำ 1A นี่คือ ป่าต้นน้ำของกาญจนบุรี

 

จะไม่ขอพูดถึงรายละเอียดของโครงการนี้ ทั้งที่ทราบว่า โครงการนี้สร้างขึ้นโดยไม่สนใจสิ่งอื่นใด นอกจากอ้างกับประชาชนว่า อีก 10 ปี ถ้าโครงการนี้ไม่เกิด ประเทศไทยจะไม่มีไฟฟ้าใช้ ซึ่งเป็นเรื่องตลกมากที่ อีก 5 - 6 ปีต่อมา ก็เป็นข้ออ้างเดียวกันกับโครงการท่อก๊าซไทย-มาเลย์ หรือโรงผลิตไฟฟ้าถ่านหินที่บ้านหินกรูด

ฮึ ฮึ ... ทำไมถึงยังไม่ได้สนับสนุนพลังงานทดแทนมากนัก ทั้ง ๆ ที่ในหลวงของเราได้มีพระราชดำริมาเกือบ 30 ปี

ทำไมถึงไม่มีการรณรงค์กันมาตั้งนานแล้ว

ข่าวนี้ไม่ได้เป็นการโจมตีจากองค์กรเดียว ผมในฐานะที่ติดตามข่าวสารพวกนี้มาไม่ต่ำกว่า 10 ปี ก็ขอพูดด้วยการประมวลความรู้ทั้งหมดว่า มันคือความจริง ... เรื่องหุ้นพลังงานต่าง ๆ

ท่านลองคิดดู ถ้าลองไปเน้นเรื่องพลังงานทดแทนมาก ๆ ใครเป็นผู้เสียประโยชน์

 

ผู้รู้จักท่านรองปลัดท่านที่ 1 เป็นการส่วนตัว .. เคยเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาท่านมาก่อนตั้งแต่อยู่ตึกยุทธศาสตร์ของมหาวิทยาลัยช้าง

ท่านนี้ คือ คนที่อัจฉริยะท่านหนึ่งในเรื่องของพลังงาน

เป็นคณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ ตั้งแต่อายุ 30 ปีกว่า ๆ เป็นรองอธิการบดี อายุประมาณไม่ถึง 40 ปี

ท่านเก่งมาก ๆ ทำงานรวดเร็ว แต่ท่านจะใจร้อนขึ้นชื่อ ขนาดคนที่เคยเป็นพี่ร่วมงานผม ร้องไห้ลงมาเลย หลังจากลงมาจากห้องทำงานท่าน เพราะทำงานได้ไม่ทันใจ อิ อิ แต่ผมน่ะ ไม่เคยโดนสักที

ผมได้ทราบว่า ท่านเป็นกรรมการการไฟฟ้าที่แม่เมาะ ตอนผมทำงานด้วย

ดังนั้น ผมไม่ได้แปลกใจอะไรที่เห็นข่าวออกมา เพราะผมเคยทราบเรื่องนี้มาก่อน แล้วท่านอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ทำไมผมจะไม่ควรเชื่อ

 

เล่ามาซะยาว ... ไม่ได้มีอคติกับท่านผู้บริหารเหล่านี้

เพียงแต่การยึดหลักการและทฤษฎีเดิม ๆ ที่ท่านเหล่านี้ร่ำเรียนมา ในขณะนี้เราลองมามองวิธีคิดของในหลวงของเราซิครับ ท่านกลับมองเรื่องของพลังงานทดแทนมาตั้งนานแล้ว

นี่น่าจะเป็นบทสรุปนะครับว่า การที่น้ำมันขึ้น การปล่อยลอยตัวค่าก๊าซต่าง ๆ การไม่ค่อยจะรณรงค์เรื่องพลังงานทดแทน (ถ้าในหลวงไม่ทรงออกมาพูด) มีสาเหตุมาจากอะไรกันแน่ อย่าไปโทษเจ้าของพลังงานจากฟอสซิสพวกนั้นนะครับ เขามีของ เขาก็ต้องขาย ยิ่งมีน้อยลง ก็ยิ่งแพงขึ้นเป็นเรื่องธรรมดา

แต่คนของเราแทนที่จะสร้างพลังงานใช้เองจากทรัพยากรที่เรามีอยู่

กลับไปเที่ยวควานหาจากโครงการหมื่นล้านที่ต้องทำสัญญากับประเทศเพื่อนบ้านแทน (ใครได้กันแน่ คนไทย หรือ คนเซ็นสัญญา)

โครงการท่อก๊าซไทย-พม่า

โครงการท่อก๊าซไทย-มาเลย์

โครงการโรงไฟฟ้าถ่านหิน บ้านหินกรูด

ขอยุติก่อนนะครับ ... พูดมากไป มีบุคคลหลายฝ่ายได้รับผลกระทบ เพียงแต่ว่านี่คือสิ่งที่คนไทยละเลยกันมานาน

เวลาเห็นชาวบ้านเขาประท้วงกัน ก็ว่ามีคนยุยงส่งเสริม

เวลาเห็น NGOs ออกมาประท้วง ก็หาว่าเขารับเงินต่างชาติ

ข้อกล่าวหาเดิม ๆ ลองสังเกตดูดี ๆ นะครับ ... ท่านจะเห็นเวลา ท่านอ่านข่าวที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อม หรือมีกรณีสิ่งแวดล้อมเกิดขึ้น

บทสรุปสำเร็จรูปที่น่าเบื่อ ... ของผู้มีอำนาจ

ผลประโยชน์มันทับซ้อน ... นี่ซิ เรื่องจริง

บุญรักษา .. คนดี ครับ

หมายเลขบันทึก: 153628เขียนเมื่อ 14 ธันวาคม 2007 20:17 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 18:38 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (7)

ไม่มีความคิดเห็นใด ๆ สำหรับปัญหาสิ่งแวดล้อม :( ...

ผมเห็นว่า ปัจจุบัน เรื่องพลังงานเป็นเรื่องที่ เป็นของมีจำกัด

หลายประเทศพูดถึงโลกร้อน แต่ยักษ์ใหญ่กลับไม่ยอมหยุดใช้ทำลายธรรมชาติ

ประเทศสหรัฐบอกว่า "ถ้าลดการใช้เศรษฐกิจจะล่มสลาย" (แต่ไม่ยอมเลิกรบ ทั้งที่ก็รู้อยู่ว่า ไม่มีวันชนะและสิ้นเปลืองทรัพยากรและทำลายเศรษฐกิจของตัวเอง)

ประเทศจีนบอกว่า "ยอมปิด โรงงานอุสาหกรรมก่อนมีโอลิมปิกที่จีนเพื่อให้อากาสปักกิ่งดี" (แต่ไม่สนใจว่าที่ผ่านมาคนปักกิ่งเพชิญมลพิษมากเป็นอันดับต้นๆของโลก)

ประเทศไทยบอกว่า "เราจะทำตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียงขององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว" (แต่กลับหันมาดูดทรัพยากรของคนอื่นโดยมองแต่ว่าจะให้ตัวเองโตต่อไปอย่างต่อเนื่อง ดูว่าตัวเองต้องใช้มากขึ้นเพราะ มีรถส่วนตัวมากขึ้น ใช้ไฟฟ้าไปในห้างที่เปิดแอร์เท่ากับใช้ได้ทั้งตำบล มีโรงงานมากขึ้นและจะได้เม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศ ผมเชื่อว่าสักวันพม่ายุคใหม่ก็จะหวงทรัพยากรของตนเอง เพราะเขาก็ต้องโตเหมือนกัน เขาตัดน้ำมันเราเมื่อไหร่ ก็คงเหมือนที่รัสเซียทำกับยูเครนฉันนั้น )

ปกติผมจะไม่ comment ยาวครับ แต่เรื่องนี้มันโดนใจก็เลยขออนุญาตนะครับ

ขอบคุณ คุณหมอโรจน์ ครับ

ความคิดเห็นยาว ๆ ประเทืองปัญญาดีครับ :)

ผมทิ้งบันทึกนี้ไว้หลายวันแล้ว ... แต่กลับไม่พบการแลกเปลี่ยนใด ๆ

ผมจึงขึ้นไว้เองว่า .. ไม่มีความเห็นใด ๆ สำหรับปัญหาสิ่งแวดล้อม

กลัวว่า ความไม่สนใจปัญหาสิ่งแวดล้อมไม่มากเท่าปัญหาของตัวเอง

ขอบคุณ คุณหมอครับ :)

สวัสดีค่ะ

ตามมาทักทายค่ะ  มีความคิดเห็นแน่นอนค่ะสำหรับปัญหาสิ่งแวดล้อม 

หากดูจาก http://manager.co.th/Home/ViewNews.aspx?NewsID=9500000149329

ก็จะไม่ต่างจากข่าวเดิมๆเลยจริงไหมคะ

หากเราทุกคนมองปัญหาสิ่งแวดล้อมและปัญหาส่วนรวมเป็นเรื่องใหญ่กว่าปัญหาส่วนตัว

ประเทศไทยคงน่าอยู่กว่านี้ค่ะ

อย่างน้อยข้อสงสัยที่ว่า ทำไมคนบางกลุ่มได้ประโยชน์จากการขึ้นราคาน้ำมันเพราะถือหุ้นในปตท.  จะมีอะไรแย่ไปกว่าที่จะรู้ต่อไปว่า คนกลุ่มนั้นส่วนหนึ่งอยู่ในคณะรัฐบาล

ประชาชนควรเรียนรู้ที่จะสงสัยและก้าวข้ามความรู้สึกหวั่นเกรงอำนาจรัฐที่ไม่เป็นธรรมค่ะ

แวะมาให้กำลังใจนะคะ

อ๋อ

 

ขอบคุณครับ คุณหมอ  nithimar

อิ อิ ... กำลังใจ จากใครหนอ ขอเป็นทาน ให้ฉันได้ไหม :)

ขอบคุณครับ คุณครู ครูข้างถนน :) ต้อนรับการย้ายบล็อกมาอยู่ "เย็นลมป่า" เลยนะครับ :)

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท